ข้าวโพด พลังงานสูง ประโยชน์แหล่งพลังงานสูง

ข้าวโพด พลังงานสูง

ข้าวโอ๊ต พลังงานสูง เป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพ และต้องการควบคุมน้ำหนัก ข้าวโอ๊ตมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีพลังงานที่เหมาะสม สำหรับคนที่ต้องการพลังงานมากขึ้นในแต่ละวัน

ข้าวโพด พลังงานสูง คืออะไร ลักษณะของข้าวโพด

ข้าวโพดเป็นพืชธัญพืช ที่มีถิ่นกำเนิด ในอเมริกากลางและใต้ เป็นพืชตระกูลเดียวกับ ข้าวฟ่าง ปลอดกลูเตน เป็นหนึ่งในพืชอาหารหลักของโลก ข้าวโพดมีความสำคัญ ทั้งในด้านอาหารมนุษย์ และสัตว์เลี้ยง รวมถึงการใช้ในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การผลิตแป้ง น้ำมัน และเอทานอล โดยลักษณะข้าวโพดมีลักษณะดังนี้

  • ต้น: ข้าวโพดเป็นพืชล้มลุก ที่มีลำต้นตรง และแข็งแรง ความสูงของต้นข้าวโพด อาจแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 2-4 เมตร
  • ใบ: ใบข้าวโพดมีลักษณะยาวเรียว ปลายแหลม มีความกว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 30-100 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวสด และเป็นลายเส้นตามความยาวของใบ
  • ดอก: ข้าวโพดมีทั้งดอกเพศผู้ และดอกเพศเมีย อยู่ในต้นเดียวกัน ดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อ ที่ปลายยอดของต้น ส่วนดอกเพศเมีย จะอยู่บริเวณตรงกลางของต้น และถูกปกคลุม ด้วยเปลือกแข็ง
  • ฝัก: ฝักข้าวโพด เกิดจากดอกเพศเมีย ที่ผสมเกสรแล้ว มีลักษณะยาว และมีเปลือกหุ้มหลายชั้น ภายในฝักมีเมล็ดข้าวโพด เรียงตัวกันแน่นเป็นแถว เมล็ดข้าวโพดมีหลายสี เช่นสีเหลือง สีขาว สีม่วง หรือสีแดง ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
  • เมล็ด: เมล็ดข้าวโพด เป็นส่วนที่ใช้รับประทาน มีลักษณะกลม และนูนเล็กน้อย เมล็ดมีรสหวาน และสามารถนำไปใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย ทั้งในรูปแบบสด ต้ม หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ที่มา: ข้าวโพด [1]

ข้าวโพดพลังงานสูง สารอาหารอื่นๆข้าวโพด

ข้าวโพดเป็นธัญพืช ที่มีคาร์โบไฮเดรต เป็นส่วนประกอบหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แป้งที่ร่างกายสามารถย่อย และเปลี่ยนเป็นน้ำตาล เพื่อใช้เป็นพลังงานได้ นอกจากคาร์โบไฮเดรตแล้ว ข้าวโพดยังมีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด โดยข้าวโพดปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 96 กิโลแคลอรี และสารอาหารอื่นๆดังนี้

  • โปรตีน: 3.41 g.
  • ไขมันทั้งหมด: 1.5 g.
  • คาร์โบไฮเดรตทั้งหมด: 21.41 g.
  • ใยอาหาร (Fiber): 2.4 g.
  • น้ำตาลทั้งหมด: 4.52 g.
  • แคลเซียม: 2 mg.
  • เหล็ก: 0.45 mg.
  • แมกนีเซียม: 37 mg.
  • ฟอสฟอรัส: 89 mg.
  • โพแทสเซียม: 218 mg.
  • โซเดียม: 1 mg.
  • สังกะสี: 0.61 mg.
  • วิตามินซี: 5.5 mg.
  • วิตามินบี1: 0.162 mg.
  • วิตามินบี2: 0.055 mg.
  • วิตามินบี3: 1.846 mg.
  • วิตามินบี6: 0.093 mg.
  • โฟเลต: 42 mcg.
  • วิตามินเอ (RAE): 13 mcg.
  • วิตามินอี: 0.07 mg.
  • วิตามินเค: 0.3 mcg.
  • น้ำ: 73.41 g.

ที่มา: Corn, sweet [2]

 

ข้าวโพดพลังงานสูง ประโยชน์สุขภาพจากข้าวโพด

  • ให้พลังงานสูง: ข้าวโพดเป็นแหล่งพลังงานที่ดีเยี่ยมเช่นเดียวกับ ข้าวโอ๊ต พลังงานสูง เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตสูง เหมาะสำหรับการบริโภคในช่วงเวลา ที่ต้องการพลังงานเพิ่ม เช่นก่อนหรือหลังการออกกำลังกาย
  • เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร: ข้าวโพดมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการย่อยอาหาร และลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคท้องผูก นอกจากนี้ ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และระดับไขมันในเลือด
  • ดีต่อระบบประสาทและสมอง: วิตามินบี และโฟเลต ที่พบในข้าวโพด ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบประสาท และช่วยในกระบวนการ สร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญ
  • เพิ่มความสวยงามของผิว: ข้าวโพดอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินซี และเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการลดความเสียหายของเซลล์ผิว และส่งเสริมสุขภาพผิว ให้ดูสดใส

ที่มา: ข้าวโพด ประโยชน์เต็มฝัก [3]

ข้าวโพด พลังงานสูง วิธีนำข้าวโพดมาทำเมนูอาหาร

ข้าวโพด พลังงานสูง
  • ข้าวโพดต้ม: เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และช่วยรักษาคุณค่าสารอาหาร ในข้าวโพดได้ดี เพียงต้มข้าวโพดสด ในน้ำเดือดประมาณ 10-15 นาทีจนสุก จากนั้นสามารถโรยเกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติ
  • ข้าวโพดคลุกเนย: หลังจากต้มข้าวโพดแล้ว ให้นำไปคลุกกับเนย และโรยเกลือ น้ำตาลตามชอบ สามารถเพิ่มนมสดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
  • ข้าวโพดคั่ว: ข้าวโพดสามารถนำมาคั่ว ทำเป็นป๊อปคอร์นได้ โดยใช้ข้าวโพดแบบเมล็ด (Popcorn Kernels) คั่วในกระทะที่ใส่น้ำมันเล็กน้อย จากนั้นสามารถปรุงรสด้วยเกลือ หรือชีสตามชอบ
  • สลัดข้าวโพด: ข้าวโพดสด หรือข้าวโพดต้ม สามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบของสลัดได้ โดยผสมกับผักสดอื่นๆ เช่นมะเขือเทศ แตงกวา หอมใหญ่ และราดด้วยน้ำสลัด
  • ข้าวโพดในซุป หรือแกง: ข้าวโพดสามารถใส่ในซุป หรือแกงเพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางอาหาร เช่นซุปข้าวโพด ซุปข้าวโพดไก่ หรือแกงข้าวโพด

ข้าวโพดพลังงานสูง ข้อแนะนำการบริโภคข้าวโพด

  • การเลือกข้าวโพด: ควรเลือกข้าวโพดที่สดใหม่ โดยสังเกตจากสีของเปลือก ที่ยังมีความเขียว และเมล็ดข้าวโพดที่แน่น ไม่มีร่องรอยของความเสียหาย
  • การเก็บรักษา: ข้าวโพดสดควรเก็บในตู้เย็น และบริโภคภายใน 1-2 วัน เพื่อรักษาความสด และคุณค่าทางอาหาร หากต้องการเก็บนานขึ้น ควรล้างให้สะอาด แกะเปลือก และเก็บในช่องแช่แข็ง
  • การปรุงอาหาร: ควรปรุงข้าวโพด ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อรักษาคุณค่าสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ

ข้าวโพดพลังงานสูง ข้อควรระวังการบริโภคข้าวโพด

  • ปริมาณน้ำตาล: ข้าวโพดมีน้ำตาลธรรมชาติ อยู่ในระดับที่สูงพอสมควร โดยเฉพาะในข้าวโพดหวาน ดังนั้นผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือผู้ที่มีโรคเบาหวาน ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
  • ปริมาณไฟเบอร์สูง: แม้ว่าไฟเบอร์ในข้าวโพด จะมีประโยชน์ต่อการย่อยอาหาร แต่หากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือแก๊สในลำไส้ได้
  • การแพ้ข้าวโพด: บางคนอาจมีอาการแพ้ข้าวโพด ซึ่งอาจแสดงออก ในรูปแบบของผื่นคัน ท้องอืด หรืออาการแพ้อื่นๆ หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ควรหยุดบริโภค และปรึกษาแพทย์ทันที

สรุป ข้าวโพด พลังงานสูง ประโยชน์สุขภาพร่างกายหลายด้าน

ข้าวโพดไม่เพียงแต่เป็นแหล่งพลังงานสูง ที่ช่วยให้ร่างกายมีพลัง ในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายๆด้าน ดังนั้นการเพิ่มข้าวโพด ในเมนูอาหารประจำวัน จึงเป็นวิธีที่ดี ในการส่งเสริมสุขภาพ และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

242