ดอกกะหล่ำวิตามินซี จากผัก และประโยชน์วิตามินซี

ดอกกะหล่ำวิตามินซี

ดอกกะหล่ำวิตามินซี (Cauliflower) เป็นผักที่ได้รับความนิยม ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย และเป็นส่วนประกอบ ในอาหารหลากหลายชนิด แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ที่สูงอย่างมาก หนึ่งในวิตามินที่ดอกกะหล่ำ มีในปริมาณมาก คือวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างมาก

ดอกกะหล่ำวิตามินซี คืออะไร ลักษณะและรสชาติ

Cauliflower คือผักที่อยู่ในตระกูล Brassicaceae หรือ Cruciferae ตระกูลเดียวกับบรอกโคลี และกะหล่ำปลี มีลักษณะเด่น เป็นก้อนดอกที่แน่น และมีสีขาว ครีม เขียว ม่วง หรือเหลือง ขึ้นอยู่กับพันธุ์ มีลำต้นสั้น และใบสีเขียวเข้มห่อหุ้ม

ส่วนรสชาติมีความกรอบ และหวานเล็กน้อย เมื่อปรุงสุก จะมีรสชาติหวานขึ้น และเนื้อนุ่ม ใช้ในอาหารได้หลากหลาย ดอกกะหล่ำสามารถซื้อได้ทั่วไป ในตลาดสด ร้านขายผักสด หรือทางออนไลน์ ตัวอย่างเช่น Makro ดอกกะหล่ำปริมาณ 1 กิโลกรัม ราคา 79 บาท [1]

ดอกกะหล่ำวิตามินซี ที่ดีต่อร่างกาย และคุณประโยชน์

  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีความสำคัญ ในการป้องกัน การเกิดโรค โดยเฉพาะ การช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ให้แข็งแรง
  • การซ่อมแซม และการเจริญเติบโต ของเนื้อเยื่อ: วิตามินซีมีบทบาทสำคัญ ในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีน ที่สำคัญในการซ่อมแซม และการเจริญเติบโต ของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
  • ป้องกันการเกิดโรคเรื้อรัง: การบริโภควิตามินซีเพียงพอ สามารถช่วยลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ และหลอดเลือด และมะเร็งบางชนิด
  • ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก: วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึม ของธาตุเหล็ก จากอาหาร ซึ่งมีความสำคัญ ในการป้องกันภาวะ โลหิตจาง

ดอกกะหล่ำวิตามินซี ปริมาณในดอกกะหล่ำ

ดอกกะหล่ำวิตามินซี อยู่ในปริมาณที่น่าทึ่ง เมื่อเทียบกับผักอื่นๆ โดยในดอกกะหล่ำ 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 48.2 มิลลิกรัม ซึ่งคิดเป็นประมาณ 54% ของปริมาณ ที่แนะนำให้บริโภค ต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ การบริโภคดอกกะหล่ำ ในปริมาณที่เหมาะสม จึงสามารถช่วยให้ร่างกาย ได้รับวิตามินซีเพียงพอ [2]

ดอกกะหล่ำวิตามินซี ปริมาณแนะนำตามเพศ และสุขภาพ

ปริมาณวิตามินซี ที่แนะนำต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ จะแตกต่างกันไปตามเพศ และสถานะสุขภาพ ดังนี้

  • ผู้ชาย: ควรได้รับวิตามินซี 90 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อช่วยในกระบวนการต่างๆ ของร่างกาย เช่น การสร้างคอลลาเจน การต้านอนุมูลอิสระ และการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ผู้หญิง: ควรได้รับวิตามินซี 75 มิลลิกรัม ต่อวัน เนื่องจากความต้องการ ของร่างกาย ที่แตกต่างจากผู้ชาย ในเรื่องของมวลกล้ามเนื้อ และระบบการเผาผลาญ
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์: ควรได้รับวิตามินซี 85 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากวิตามินซี มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา ของทารกในครรภ์ และช่วยเพิ่ม การดูดซึมธาตุเหล็ก ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ของทารก
  • ผู้หญิง ที่ให้นมบุตร: ควรได้รับวิตามินซี 120 มิลลิกรัม ต่อวัน เพื่อช่วยให้ร่างกาย มีสารอาหาร ที่เพียงพอต่อการผลิตน้ำนม ที่มีคุณภาพ และสารอาหารเพียงพอ สำหรับทารก

การบริโภควิตามินซี ในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการรักษาสุขภาพ และการทำงานที่สมบูรณ์ ของร่างกายในแต่ละวัน [3]

ดอกกะหล่ำวิตามินซี ข้อแนะนำวิธีการบริโภคดอกกะหล่ำ

ดอกกะหล่ำวิตามินซี

การรักษาคุณค่าวิตามินซี ในดอกกะหล่ำ ระหว่างการปรุงอาหาร เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด จากสารอาหารนี้ นี่คือวิธีการบริโภคดอกกะหล่ำ ที่จะช่วยรักษาคุณค่าวิตามินซี ให้ได้มากที่สุด

  • นึ่ง: การนึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหาร ที่รักษาคุณค่าวิตามินซี ได้ดีที่สุด ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 5-10 นาที โดยควรใช้ไฟอ่อน ถึงปานกลาง
  • ผัด: การผัดด้วยความร้อนสูง ในเวลาสั้นๆ สามารถรักษา คุณค่าวิตามินซีได้ดี ควรผัดดอกกะหล่ำ ในเวลาไม่เกิน 5 นาที และใช้น้ำมัน ที่มีจุดเดือดสูง เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว
  • ต้ม: หากต้องการต้มดอกกะหล่ำ ควรใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ 3-5 นาที ในน้ำเดือด เพื่อไม่ให้วิตามินซี สูญเสียไปในน้ำมากเกินไป การใช้วิธีต้มเวลาสั้นๆ จะช่วยรักษาคุณค่า วิตามินซีได้ดีกว่า
  • การย่าง: การย่างดอกกะหล่ำ บนเตาย่าง หรือในเตาอบ ที่อุณหภูมิสูงในเวลาสั้นๆ (ประมาณ 10-15 นาที) สามารถช่วยรักษาคุณค่าวิตามินซีได้ ควรพลิกดอกกะหล่ำ เพื่อให้ย่างได้ทั่วถึง และไม่ไหม้เกินไป

ดอกกะหล่ำวิตามินซี ข้อควรระวังการบริโภคดอกกะหล่ำ

แม้ว่าดอกกะหล่ำ จะเป็นผักที่มีประโยชน์ ต่อสุขภาพอย่างมาก แต่ยังมีข้อควรระวังในการทาน เพื่อป้องกันผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นได้

  • การเกิดแก๊ส และท้องอืด: ดอกกะหล่ำเป็นผักในกลุ่ม Cruciferous ซึ่งมีกากใยสูง อาจทำให้บางคน เกิดแก๊สและท้องอืดได้ ควรเริ่มทานในปริมาณน้อยก่อน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
  • ปัญหาต่อไทรอยด์: ดอกกะหล่ำมีสาร Glucosinolates ซึ่งอาจรบกวน การทำงานของต่อมไทรอยด์ โดยเฉพาะ ในผู้ที่มีปัญหาไทรอยด์อยู่แล้ว การทานดอกกะหล่ำ ในปริมาณมาก และบ่อยครั้ง อาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาไทรอยด์
  • การทานดิบ: การทานดอกกะหล่ำดิบ ในปริมาณมาก อาจยากต่อการย่อย สำหรับบางคน ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือปรุงสุกเล็กน้อย เพื่อลดปัญหาการย่อย
  • การเก็บรักษาและการล้าง: ควรเก็บรักษาดอกกะหล่ำ ในที่เย็นและแห้ง และล้างให้สะอาด ก่อนนำมาปรุง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ของสารเคมี หรือเชื้อโรค
  • การรับประทาน ร่วมกับยาบางชนิด: หากกำลังใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับการทานดอกกะหล่ำ เนื่องจากวิตามินเค ในดอกกะหล่ำ อาจมีผลต่อการทำงานของยา

สรุป ดอกกะหล่ำวิตามินซีสำคัญ เสริมภูมิ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

ดอกกะหล่ำเป็นผักที่มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการป้องกันโรคเรื้อรัง การบริโภคดอกกะหล่ำ ในปริมาณที่เหมาะสม จึงเป็นวิธีที่ดี ในการดูแลสุขภาพ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

150