ผลเสียวิตามินA จากการทานอาหารเสริมปริมาณมาก

Nuclear
13 ก.ย. 24
16:20
17 views

ผลเสียวิตามินA วิตามินเอเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ในการบำรุงสายตา การเจริญเติบโต และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน แต่หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ซึ่งการได้รับวิตามินเอมากเกินไป มักเกิดจากการรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม

ผลเสียวิตามินA วิตามินเอคืออะไร มีกี่รูปแบบ

วิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน และมีบทบาทสำคัญ ในหลายกระบวนการของร่างกาย เช่นการมองเห็น การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโต และการบำรุงรักษาผิวหนังและเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย วิตามินเอมีอยู่สองรูปแบบหลัก ดังนี้

เรตินอล (Retinol): พบในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่นเนื้อ ตับ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene): เป็นโปรวิตามินเอ ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอได้ พบในผัก และผลไม้สีส้ม เหลือง และเขียวเข้ม เช่นแครอท ฟักทอง และคะน้า

วิตามินวิตามินเอมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการมองเห็น การบำรุงสุขภาพผิว การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโตของเซลล์

ผลเสียวิตามินA ภาวะพิษการได้รับวิตามินเอเกิน

พิษจากวิตามินเอ (Hypervitaminosis A) การได้รับวิตามินเอ ในปริมาณที่สูงเกินกว่าความต้องการของร่างกาย จะส่งผลให้เกิดภาวะพิษจากวิตามินเอ ซึ่งอาจมีอาการ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง เหนื่อยล้า สูญเสียความอยากอาหาร
กระดูกอ่อนแอ และเพิ่มความเสี่ยง ต่อการเกิดกระดูกพรุน การได้รับวิตามินเอมากเกินไป จะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมในกระดูกลดลง ซึ่งอาจส่งผล ให้กระดูกอ่อนแอ เปราะบาง และเพิ่มความเสี่ยง ในการเกิดโรคกระดูกพรุน
ปัญหาการเจริญเติบโต ของทารกในครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวิตามินเอมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ เนื่องจากวิตามินเอ มีผลต่อการพัฒนา ของระบบประสาท และโครงสร้างของทารก
ตับทำงานผิดปกติ วิตามินเอส่วนเกิน จะถูกสะสมในตับ ทำให้เกิดความผิดปกติ ในการทำงานของตับ และอาจนำไปสู่โรคตับที่รุนแรง เช่นภาวะตับอักเสบ
ปัญหาผิวหนัง เช่นเดียวกับ ผลเสียวิตามินK และ ผลเสียวิตามินB3 วิตามินเอส่วนเกิน อาจทำให้ผิวหนังแห้ง แตกเป็นขุย ผมร่วง และเกิดผื่นคัน รวมถึงอาการแพ้รุนแรงได้

ที่มา: Vitamin A Excess [1]

ผลเสียวิตามินA และปริมาณต่อวันของวิตามินเอ

วิตามินเอเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย มีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการมองเห็น การเติบโตของเซลล์ การสืบพันธุ์ และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ในการบริโภควิตามินเอต่อวัน จะขึ้นอยู่กับเพศ และอายุของแต่ละคน ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ

ผู้ชาย: 900 ไมโครกรัม (mcg) หรือประมาณ 3,000 IU
ผู้หญิง: 700 ไมโครกรัม (mcg) หรือประมาณ 2,300 IU

ที่มา: Excess Vitamin a May Increase Risk of Osteoporosis [2]

ผลเสียวิตามินA และอาหารวิตามินเอสูง

วิตามินเอพบมากในทั้งเนื้อสัตว์ และผักผลไม้ที่มีสีสันเข้ม โดยอาหารที่มีปริมาณวิตามินเอ สูงที่สุด ต่อปริมาณ 100 grams ได้แก่

Turkey liver – 75,333IU
Paprika – 52,735IU
Sweet potato – 19,218IU
Carrot – 16,706IU
Dark green leafy vegetables – 15,376IU
Butternut squash – 11,155IU
Dried herbs such as dried parsley and oregano – 10,184IU
Lettuce – 7,492IU
Dried apricots – 3,604IU
Cantaloupe – 3,382IU

แหล่งวิตามินเอที่ได้จากอาหารเหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญในการบำรุงสุขภาพดวงตา ระบบภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกาย [3]

ผลเสียวิตามินA ใครที่ไม่ควรทานตามินเอเสริม

ผู้ที่ควรระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงการทานวิตามินเอเสริม ได้แก่

สตรีมีครรภ์ การทานวิตามินเอ ในปริมาณที่มากเกินไประหว่างตั้งครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่ อการเกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนรับวิตามินเสริม
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ วิตามินเอถูกสะสมในตับ การทานวิตามินเอเสริมมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะพิษต่อตับ หรือทำให้ตับทำงานผิดปกติ
ผู้ที่ทานอาหารเสริมหลายชนิดพร้อมกัน วิตามินเอมีอยู่ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายชนิด เช่นวิตามินรวม และน้ำมันตับปลา การทานหลายผลิตภัณฑ์พร้อมกัน อาจทำให้ได้รับวิตามินเอ เกินปริมาณที่ปลอดภัย
ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีกระดูกพรุน การทานวิตามินเอมากเกินไป อาจส่งผลต่อความหนาแน่นของกระดูก และเพิ่มความเสี่ยง ของโรคกระดูกพรุน
ผู้ที่ทานอาหารที่มีวิตามินเอสูงเป็นประจำ หากได้รับวิตามินเอจากอาหารในปริมาณเพียงพอแล้ว การเสริมวิตามินเอเพิ่ม อาจไม่จำเป็น และทำให้เสี่ยงต่อการได้รับวิตามินเกินความต้องการ

ผลเสียวิตามินA ด้านประโยชน์ของวิตามินเอ

ส่งเสริมสุขภาพดวงตา วิตามินเอมีบทบาทสำคัญ ในการบำรุงดวงตาและการมองเห็น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย การขาดวิตามินเออาจทำให้เกิดภาวะตาบอดกลางคืน และโรคตาแห้งได้
สนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินเอมีบทบาท ในการกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อ และโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยในการเจริญเติบโต และการพัฒนาของเซลล์ วิตามินเอมีความสำคัญ ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงผิวหนัง เส้นผม และเล็บ การได้รับวิตามินเอเพียงพอ จะช่วยให้ผิว และผมแข็งแรง
บำรุงผิวหนัง วิตามินเอมีบทบาทในการรักษาสุขภาพผิวหนัง ทำให้ผิวเนียนนุ่ม และลดการเกิดสิว เนื่องจากวิตามินเอช่วยในการสร้าง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
ช่วยลดความเสี่ยง ของโรคมะเร็งบางชนิด การรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอจากธรรมชาติ อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เช่นมะเร็งปอด และมะเร็งผิวหนัง
ส่งเสริมสุขภาพกระดูก วิตามินเอมีส่วนช่วยในการพัฒนากระดูกและฟัน และยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น

สรุป ผลเสียวิตามินA หากได้รับมาก อาจเกิดผลเสียรุนแรง

การได้รับวิตามินเอในปริมาณที่เหมาะสม มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากได้รับมากเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียที่รุนแรง ดังนั้นควรระมัดระวังในการบริโภควิตามินเอ และเลือกวิธีการรับวิตามินที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย