พิกโนจีนอล Antioxidant ประสิทธิภาพสูงเพื่อสุขภาพ

พิกโนจีนอล

พิกโนจีนอล เป็นสารสกัดจากเปลือกไม้ต้นสนในฝรั่งเศส ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในวงการสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ในด้านการต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง พิกโนจีนอลจึงถูกวิจัย และใช้งานในการดูแลสุขภาพหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบ สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน

พิกโนจีนอล หรือ Pycnogenol คืออะไร แหล่งที่มา

พิกโนจีนอล

แหล่งที่มาของพิกโนจีนอล คือสารสกัดจากเปลือกไม้ ของต้นสน Maritime Pine ในประเทศฝรั่งเศส ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศฝรั่งเศส ที่จดทะเบียนทางการค้า ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพสูง อุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีที่เป็นประโยชน์

พิกโนจีนอลมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินซี ช่วยในการผลิตคอลลาเจน เพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย จุดด่างดำ และลดการอักเสบในร่างกาย ป้องกันความเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นกับเซลล์ และช่วยสุขภาพโดยรวม ของร่างกาย ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

พิกโนจีนอล คุณสมบัติหลัก ป้องกันการอักเสบ

พิกโนจีนอลมีคุณสมบัติ ช่วยป้องกันการอักเสบ ปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด และสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิว ลดการเกิดริ้วรอย และช่วยในการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย มีบทบาทในฐานะ สารต้านการอักเสบ ตามธรรมชาติ พิกโนจีนอลได้รับการวิจัยมายาวนาน

โดยวิจัยกว่า 40 ปี มีการศึกษากว่า 4,000 ชิ้น เพื่อยืนยันคุณประโยชน์ต่างๆ โดยหนึ่งในคุณประโยชน์สำคัญ คือการทำงานเป็นเสมือนแอสไพริน จากธรรมชาติ แต่ไม่มีผลข้างเคียง ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันความเสียหาย ที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง และอินซูลินสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพตา และหลอดเลือดของตา [1]

พิกโนจีนอล ประโยชน์ต่อหัวใจ สมอง และตา

  • การเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ประโยชน์เพื่อสุขภาพของหัวใจ และหลอดเลือด พิกโนจีนอลสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือด โดยกระตุ้นการผลิต Nitric oxide ซึ่งเป็นโมเลกุล ที่ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง การเกิดลิ่มเลือด และส่งเสริมการทำงานของสมอง
  • เสริมสร้างสมรรถภาพทางสมอง ประโยชน์ด้านสมอง สำหรับผู้มีปัญหาความจำ สมาธิไม่ดี ช่วยปกป้องเซลล์สมอง จากความเครียด Oxidation ลดการอักเสบในสมอง การวิจัยชี้ให้เห็นว่าพิกโนจีนอล มีศักยภาพในการช่วยบรรเทาอาการ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะสมองเสื่อม อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง และอาการหลังการติดเชื้อ
  • ประโยชน์ต่อสุขภาพตา และหลอดเลือด พิกโนจีนอลมีบทบาทสำคัญ ในการลดปัญหาการเกิดลิ่มเลือด ในหลอดเลือดจอตา ลดอาการบวมที่จอตา และการอุดตันของหลอดเลือด ในร่างกายทั่วไป ช่วยให้ระบบการมองเห็น และการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวการณ์อักเสบเรื้อรัง และโรคเบาหวาน

หากต้องการทานพิกโนจีนอลเพื่อบำรุงหัวใจ ควรทานร่วมกับ โคเอนไซม์คิวเทน จะช่วยเสริมการผลิตพลังงานให้กับเซลล์หัวใจ ช่วยลดความเสี่ยง ต่อการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ฟื้นฟูการทำงานของหัวใจ หรือทานร่วมกับ ไนอะซิน ช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) ในเลือด ซึ่งลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้

พิกโนจีนอล ปริมาณการใช้ที่แนะนำ เพื่อสุขภาพ

  • การใช้พิกโนจีนอลในสุขภาพข้อต่อ การบริโภคพิกโนจีนอลที่เหมาะสม สำหรับสุขภาพข้อต่อ และภาวะข้อเสื่อม (Osteoarthritis) คือ 100-150 มก. ต่อวัน เนื่องจากมีคุณสมบัติ ต้านการอักเสบ ลดความเจ็บปวด และช่วยเพิ่มการผลิต Hyaluronic acid ในข้อต่อ
  • การใช้พิกโนจีนอลในสุขภาพผิว พิกโนจีนอลมีคุณสมบัติ ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ในผิวหนัง ส่งผลให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ และจุดที่มีการอักเสบ การบริโภคในขนาด 75-150 มก. ต่อวัน สามารถช่วยลดการเสื่อมของผิว ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และชะลอการเกิดริ้วรอยได้
  • เพิ่มการไหลเวียนโลหิต สามารถเพิ่มระดับ Nitric oxide ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น การวิจัยพบว่าการทานพิกโนจีนอล ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ในผู้ที่มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปริมาณที่แนะนำคือ 50-120 มิลลิกรัมต่อวัน โดยเมื่อใช้ต่อเนื่องสองเดือน พบว่า 90% ของผู้เข้าร่วม มีสมรรถภาพที่ดีขึ้น
  • ป้องกันการสูญเสียการมองเห็น จากภาวะเบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) โดยช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ในบริเวณเส้นเลือดฝอยของตา ลดการรั่วของเส้นเลือดฝอย และชะลอการเสื่อมของดวงตา ในผู้ป่วยเบาหวาน ปริมาณที่แนะนำคือ 50 มิลลิกรัม 3 ครั้งต่อวัน
  • โรคหอบหืด และภูมิแพ้ตามฤดูกาล พิกโนจีนอลช่วยลดระดับโมเลกุล ที่ทำให้เกิดการอักเสบ ในผู้ที่มีโรคหอบหืด ช่วยบรรเทาอาการหอบ และลดการใช้ยารักษาหอบหืดได้ ลดอาการของโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล ควรเริ่มรับประทานก่อนฤดูภูมิแพ้ประมาณ 5 สัปดาห์ ปริมาณที่แนะนำคือ 100 มิลลิกรัมต่อวัน

ที่มา: Pycnogenol (Pine Bark Extract) Benefits and Dosages [2]

 

พิกโนจีนอล งานวิจัยที่ตีพิมพ์ หลักฐานวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์จากการศึกษา พิกโนจีนอลมีหลักฐาน ทางวิทยาศาสตร์ รองรับอย่างมากมาย เช่นงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Hypertension พบว่าช่วยลดความดันโลหิต ในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ในระดับปานกลาง

อีกทั้งยังมีการศึกษาอื่น ที่แสดงถึงประโยชน์ ในการเสริมสร้างสมรรถภาพสมอง ลดความเครียด Oxidation และช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด และข้ออักเสบ [3]

พิกโนจีนอล ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงเล็กน้อย

สิ่งที่ควรรู้ โดยทั่วไปแล้ว พิกโนจีนอลถือว่ามีความปลอดภัย หากใช้ตามคำแนะนำ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่กำลังใช้ยา หรือผู้ตั้งครรภ์ และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้

เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่นอาการมวนท้อง วิงเวียน ปวดหัว หรือมีแผลในปาก นอกจากนี้ อาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่นยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยากดภูมิคุ้มกัน

สรุป พิกโนจีนอล ดีต่อหัวใจ หลอดเลือด ดูแลผิว

พิกโนจีนอลเป็นมากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระทั่วไป ด้วยคุณสมบัติ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพได้รอบด้าน การศึกษาต่างๆ ยืนยันถึงประสิทธิภาพของพิกโนจีนอล ในหลายๆด้าน ตั้งแต่การดูแลผิว ไปจนถึงการสนับสนุนสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด หากกำลังมองหาสารเสริมสุขภาพ พิกโนจีนอลอาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

86