ยกน้ำหนัก ท่าพื้นฐาน กับหลักการเล่นที่ปลอดภัย

ยกน้ำหนัก ท่าพื้นฐาน

ยกน้ำหนัก ท่าพื้นฐาน จะประกอบไปด้วย 3 ท่าหลักๆ ได้แก่ ท่าเนทซ์ เป็นการยกบาร์ด้วยจังหวะเดียว ยืดแขนตรงขึ้นให้อยู่เหนือศีรษะ ต่อมาคือ ท่าคลีนแอนด์เจอร์ค เป็นการยกบาร์ขึ้นให้อยู่ใน ระดับหัวไหล่ ก่อนที่จะยืดแขนขึ้นเหนือศีรษะ ส่วนท่าสุดท้าย คือ ท่าผสม ท่านี้จะไม่จำกัดเวลาในการยก ผู้ยกจะต้องยืนนิ่ง และเหยียดแขนขา ให้ตรง

  • กีฬายกน้ำหนัก ในประเทศไทย
  • ประโยชน์ของการเล่น กีฬายกน้ำหนัก
  • จุดประสงค์ ของการยกน้ำหนัก

ประวัติที่มาของกีฬายกน้ำหนัก ในประเทศไทย

สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่น แห่งประเทศไทย ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2501 โดยมีนายสำราญ เตชะกำพุธ เป็นนายกสมาคมคนแรก สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่น แห่งประเทศไทย ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ทั้งหมด 4 ประการ ได้แก่ จัดขึ้นเพื่อให้มีการแข่งขัน ของสมาชิกภายในสโมสร 

จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรี ระหว่างสมาคมกีฬายกน้ำหนัก ระดับสากล และจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมกีฬายกน้ำหนัก แห่งประเทศไทย (10 สิงหาคม 2024) [1]

ชวนรู้จักกับนักยกน้ำหนักชาวไทย ในโอลิมปิก

ชวนรู้จักกับ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ ฟ่าง เกิดวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 นักยกน้ำหนักชาย ชาวไทย ในโอลิมปิก เจ้าของเหรียญเงิน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาผู้นี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักยกน้ำหนักชายคนแรก ของประเทศไทย ที่สามารถคว้าเหรียญเงิน ในโอลิมปิกได้ (15 กันยายน 2025) [2]

ก่อนเริ่มแข่งขันยกน้ำหนัก ควรเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง?

ก่อนเริ่มแข่งขัน ยกน้ำหนัก ควรวอร์มร่างกาย ด้วยการยืดกล้ามเนื้อก่อนเสมอ โดยเฉพาะส่วนที่ต้องการจะใช้งาน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ตรวจสอบอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น ดัมเบล บาร์เบล แผ่นน้ำหนัก และเข็มขัด สำหรับพยุงหลัง วางแผนท่ายกน้ำหนัก โดยเริ่มจากน้ำหนักเบา 

แล้วค่อยเพิ่มขึ้น ตามระดับความสามารถ จัดวางท่าทางให้ถูกต้อง รักษาลำตัวให้มั่นคง และควบคุมการหายใจให้ดี เตรียมจิตใจให้พร้อม รู้ขีดจำกัดของร่างกาย การเตรียมพร้อมก่อนเริ่มแข่งขัน จะช่วยลดความเสี่ยงบาดเจ็บ และเพิ่มประสิทธิภาพ ในการยกน้ำหนักได้เป็นอย่างดี คลิกเพื่อดูประเภท ของการแข่งขันยกน้ำหนัก และเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสิน ผลแพ้ – ชนะ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ trueid

เผยประโยชน์ที่จะได้รับ จากการเล่นกีฬายกน้ำหนัก

ยกน้ำหนัก ท่าพื้นฐาน

กีฬายกน้ำหนัก ให้ประโยชน์แก่ร่างกายมากมายหลายด้าน เช่น เพิ่มความแข็งแรง ให้กับร่างกาย เผาผลาญแคลอรี ลดไขมันหน้าท้อง เพิ่มความคล่องตัว และความยืดหยุ่น ให้กับร่างกาย เสริมสร้างกระดูก และช่วยลดความเสี่ยงในการเป็น โรคกระดูกพรุน และกระดูกหัก 

อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงใน การบาดเจ็บด้วย การยกน้ำหนัก จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับข้อต่อ ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ข้อเท้า ข้อมือ สะโพก หรือหัวเข่า เป็นต้น (6 มีนาคม 2020) [3]

เปิดเทคนิคสำคัญ ที่ต้องใช้ในการยกน้ำหนัก

เทคนิคสำคัญ ในการยกน้ำหนัก ต้องเริ่มจากการวางเท้าให้อยู่ในตำแหน่ง ที่ถูกต้อง มั่นคง และสมดุล รวมถึงทรงตัวได้ดี เพื่อป้องกันบาดเจ็บ การจับบาร์ต้องมั่นคง และสอดคล้องกับท่า ที่ใช้ในการยกน้ำหนัก ใช้การย่อเข่า และสะโพกอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างแรง การดึงบาร์ขึ้นต้องมีการควบคุมจังหวะ และหายใจ 

ให้สอดคล้องกับการยก ควบคุมความเร็ว และทิศทางของบาร์ ให้อยู่ในแนวตั้งตรง ใช้เทคนิคการปล่อยบาร์ อย่างปลอดภัย พยายามฝึกซ้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อ และความแม่นยำ

จุดประสงค์หลักของยกน้ำหนัก คืออะไร?

จุดประสงค์หลัก ของการยกน้ำหนัก คือ การสร้างความแข็งแรง ให้กับร่างกาย โดยเน้นการพัฒนากล้ามเนื้อ และเพิ่มความทนทาน รวมถึงพัฒนาทักษะทางเทคนิค เช่น การยกอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้การยกน้ำหนัก ยังช่วยปรับปรุงความสมดุล การทรงตัว การประสานงาน ของร่างกาย ความยืดหยุ่น และความคล่องตัวด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งใน ด้านกีฬา และการใช้ชีวิตประจำวัน

บทส่งท้าย ยกน้ำหนัก ท่าพื้นฐาน

สรุปการยกน้ำหนัก จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ท่าหลักๆ คือ ท่าสแนตช์ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก และท่าผสม กีฬายกน้ำหนักจะเน้นการใช้แรง จากขา สะโพก หลัง และไหล่รวมกัน การฝึกอย่างถูกวิธี จะช่วยเพิ่มพลังให้กับ กล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นต้องมีการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษะ และ ความแม่นยำ

การยกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่อันตรายหรือไม่?

การยกน้ำหนัก เป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงในการบาดเจ็บ อยู่ระดับหนึ่ง หากผู้เล่นทำท่าทางไม่ถูกต้อง หรือยกน้ำเกินกำลัง เพราะฉะนั้นควรปฏิบัติตามหลักการฝึก ที่ถูกต้อง และควรมีการวอร์มอัพ รวมถึงใช้อุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม ที่สำคัญควรฝึกภายใต้การดูแล ของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย

การฝึกยกน้ำหนัก ควรเริ่มจากอายุเท่าไหร่?

การฝึกยกน้ำหนัก สามารถเริ่มได้ตั้งแต่อายุ ประมาณ 12 – 15 ปี เพราะเป็นช่วงที่ร่างกาย เริ่มมีการพัฒนาอย่างเต็มที่ แต่ควรเน้นการฝึกเทคนิค และท่าทางที่ถูกต้อง ก่อนใช้น้ำหนักจริง และควรฝึกภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัย และพัฒนาทักษะการยกน้ำ ได้อย่างเหมาะสม

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง