ยูโด เทคนิคการต่อสู้ ที่มีประวัติยาวนานของประเทศญี่ปุ่น

ยูโด เทคนิคการต่อสู้ ที่มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศญี่ปุ่น โดยมีทักษะการต่อสู้หลักๆ คือ การจับล็อก การทุ่ม และการควบคุมคู่ต่อสู้ลงบนพื้น ยูโดเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เน้นการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล และใช้แรงให้น้อยที่สุด เป็นทั้งกีฬา ช่วยพัฒนาจิตใจ อีกทั้งยังใช้ในการป้องกันตัวได้อีกด้วย

ที่มาของ กีฬายูโด
ระดับความสามารถ และมารยาทในกีฬายูโด
เทคนิคสำคัญ ในการฝึกฝนกีฬายูโด

เจาะลึกที่มา ของกีฬายูโด

ยูโด หรือชื่อเต็มว่า โคโดกัง ยูโด เป็นศิลปะการต่อสู้ประเภทหนึ่ง มีต้นกำเนิดอยู่ที่ ประเทศญี่ปุ่น และถูกคิดค้นขึ้นโดย คะโน จิโงะโร เป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่า คล้ายกับ คาราเต้ ในโอลิมปิก ซึ่งในช่วงปี พ.ศ. 2425 คะโน จิโงะโร ได้มีการก่อตั้งสถาบันโคโดกังขึ้น เพื่อใช้ในการฝึกฝน วิชายูโด

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2429 ทางตำรวจนครบาล แห่งโตเกียว ก็ได้มีการจัดแข่งขันระหว่างยูโด และยิวยิตสูขึ้น โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 15 ครั้ง และยูโด ของทางสถาบันโคโดกัง สามารถคว้าชนะมาได้ถึง 13 ครั้ง เพราะเหตุนี้จึงทำให้สถาบันโคโดกัง กลายเป็นสถานที่สำหรับฝึก ยูโด ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่อื่นๆ (4 ตุลาคม 2024) [1]

ลักษณะของเครื่องแต่งกาย ที่ใช้ในการฝึกฝนยูโด

ในการฝึกฝนยูโด ผู้ฝึกจะต้องสวมชุดเฉพาะที่มีชื่อเรียกว่า Judoji เสื้อที่สวมใส่ จะมีลักษณะคล้ายกับเสื้อกิโมโน เป็นสีขาวล้วน มีความหนา ไม่ลื่นมือ มีขนาดส่วนแขน และลำตัว ที่ค่อนข้างหลวม ส่วนกางเกง จะมีลักษณะคล้ายกับ กางเกงจีน เป็นผ้าดิบ มีความหลวม ที่มาพร้อมกับเชือกรัดเอว ใส่สบาย

อีกทั้งยังมีสายคาดเอว ที่ความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 2 นิ้ว เป็นสายคาดเอวที่จะบ่งบอกถึง ระดับความสามารถ ของผู้ฝึก

ระดับความสามารถ และมารยาทในกีฬายูโด

ระดับความสามารถใน กีฬายูโด จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับหลักๆ ได้แก่ ระดับคิว คือ ระดับนักเรียน และระดับดั้ง คือ ระดับผู้นำ โดย 2 ระดับนี้ จะใช้สายคาดเอวเป็นเครื่องหมาย ที่บ่งบอกถึงระดับความสามารถ ระดับคิว จะมีสายขาดเอวตั้งแต่สีขาว จนถึงสีน้ำตาล และระดับดั้ง จะมีสายคาดเอวตั้งแต่สีดำ จนถึงสีแดง

ส่วนมารยาทสำคัญ ในการฝึกฝนกีฬายูโด คือ การสำรวมร่างกาย และจิตใจ นักกีฬายูโดที่ดี จะต้องไม่พูดจาเสียงดัง หรือใช้คำหยาบคาย เรียนรู้ที่จะแสดงความเคารพต่อคู่ฝึกซ้อม ทั้งก่อน และหลังการฝึก (16 มิถุนายน 2023) [2]

การแข่งขันกีฬายูโด ในโอลิมปิก

ยูโดเป็นกีฬา ที่ได้รับการยอมรับ และมีการจัดแข่งขันขึ้นครั้งแรก ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1964 ประเภทชาย ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะมีการเพิ่ม ประเภทหญิง เข้ามาในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1992 ซึ่งหลังจากนั้นจึงทำให้ยูโด กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม อีกทั้งยังมีการจัดแข่งขันระดับโลกขึ้น ในทุกๆ ปี (11 ตุลาคม 2023) [3]

ยูโดเป็นกีฬา ที่ช่วยพัฒนาจิตใจ

นอกจากยูโด จะเป็นกีฬา ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะการป้องกันตัวได้แล้ว ยูโดยังเป็นศิลปะการสู้ดั้งเดิม ที่ช่วยฝึกฝนจิตใจให้แข็งแกร่ง และทำให้มีระเบียบวินัย การฝึกยูโดจะต้องใช้ทั้งสมาธิ และความอดทน เพื่อให้สามารถควบคุมร่างกาย และอารมณ์ได้เป็นอย่างดี นักยูโดจะต้องเรียนรู้ที่จะไม่ยอมแพ้ ต่อความยากลำบาก และกล้าเผชิญหน้า กับความท้าทายอย่างมีสติ รวมถึงต้องมีความเคารพคู่ต่อสู้ด้วย

เผยเทคนิคสำคัญ ในการฝึกฝนกีฬายูโด

การฝึกท่าทุ่ม หัวใจสำคัญของยูโด โดยนักยูโดจะต้องเรียนรู้ การใช้แรง และทิศทาง เพื่อทำให้คู่ต่อสู้เสียสมดุล และทุ่มลงบนพื้น
การฝึกล็อกข้อ และยึดจับ เพื่อควบคุมคู่ต่อสู้ให้ยอมแพ้ โดยการล็อกข้อ หรือกดตัว
การฝึกสมดุล และการควบคุมร่างกาย ทั้งในขณะยืน และขณะเคลื่อนไหว เป็นสิ่งสำคัญในการฝึกยูโด การมีสมดุลที่ดี จะช่วยให้สามารถหลบหลีก การโจมตี ของคู่ต่อสู้ และใช้น้ำหนักตัว ในการทุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การฝึกสมาธิ และการควบคุมจิตใจ นักกีฬายูโดนอกจากจะมีทักษะ ทางร่างกายที่ดีแล้ว ยังต้องมีสมาธิ และสามารถควบคุมจิตใจได้ดีด้วย เพื่อไม่ให้ตกอยู่ภายใต้ ความกลัว หรือแรงกดดัน

บทส่งท้าย ยูโด เทคนิคการต่อสู้

สรุปยูโด เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เน้นใช้เทคนิค การทุ่ม และควบคุมคู่ต่อสู้ โดยไม่ใช้กำลังมากเกินไป เทคนิคหลักที่ใช้จะประกอบด้วย การทุ่ม การจับล็อก และควบคุมบนพื้น ยูโดเป็นกีฬา ที่จะช่วยให้ผู้ฝึกเคลื่อนไหวร่างกาย ได้อย่างลื่นไหล และมีความแม่นยำ ในการต่อสู้ รวมถึงยังช่วยพัฒนาจิตใจ ทำให้มีสติ และสมาธิมากยิ่งขึ้น

ยูโดเป็นกีฬา ที่เหมาะสำหรับใคร?

ยูโดเป็นกีฬา ที่เหมาะสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก, ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ เพราะเน้นการใช้เทคนิค และสมดุลมากกว่ากำลัง เป็นกีฬาช่วยพัฒนาทั้งร่างกาย และจิตใจ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่มีความสนใจ ในการฝึกฝนอย่างมีระเบียบวินัย หรือผู้ที่ต้องการเสริมสร้าง สมาธิ และการควบคุมอารมณ์

ยูโดสามารถนำมาใช้ ในการป้องกันตัวได้จริงหรือไม่?

ยูโดสามารถนำมาใช้ ในการป้องกันตัวได้จริง เพราะเน้นการใช้เทคนิคการควบคุม คู่ต่อสู้ และทำให้เสียสมดุลมากกว่า การใช้กำลัง โดยมีเทคนิคหลัก เช่น การทุ่ม และ ล็อกข้อ สามารถนำมาใช้ในการหลบหลีก การโจมตี และทำให้คู่ต่อสู้ ไม่สามารถขัดขืนได้