กฎ3333 [1] เป็นกฎที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อให้พึงตระหนักถึงขีดจำกัดของ ร่างกายมนุษย์ เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดในบางสถานการณ์ไปได้ ถึงเราจะไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ต้องไปเสี่ยงเจอสถานการณ์เอาตัวรอด ไปติดเกาะร้าง หรือไปอยู่กลางทะเลทราย แต่การรู้เอาไว้ก็ไม่ได้เสียหาย แถมยังเป็นความรู้ที่ติดตัว ปรับใช้ในบางเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้
กฎ3333 จะแบ่งออกเป็นขีดจำกัดเฉลี่ยของมนุษย์ปกติ 4 หัวข้อ ที่เราจะต้องพึงระลึก และหลีกเลี่ยงให้ได้ เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเกิดคำถามคาใจมากมาย เช่น บางคนกลั้นหายใจได้เป็น 10 นาทีก็มี โดยเฉพาะนักว่ายน้ำ บางคนติดคุกอดน้ำได้เป็นอาทิตย์ หรือบางคนมีสถิติอดอาหารได้เกือบ 3 เดือน ในข้อมูลส่วนนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่เรายอมรับ เกิดกับบุคคลจริงๆ แต่ตัวเลขเหล่านี้นั้น ไม่สามารถนำมาใช้กับคนปกติได้
คนปกติตามค่าเฉลี่ย ผู้ชาย อาจกลั้นหายใจได้นานกว่าผู้หญิง แต่ผู้หญิง เด็ก หรือคนแก่ บางคนกลั้นหายใจได้ไม่ถึง 3 นาทีด้วยซ้ำ บางคนอาจหนาวตายภายใน 1 ชั่วโมง หรือบางคนไม่อาจอดน้ำและอาหารได้นาน กฎ3333 ตัวเลข 3 นี้ถือเป็นตัวเลขประมาณการคร่าวๆ จากค่าเฉลี่ยของมนุษย์ ในเชิงทฤษฎีเท่านั้น
ปกติแล้ว กฎ3333 จะถูกใช้งานในสภาวะที่ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน 4 อย่างนี้ ตามแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่คอยเตือนสติ ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ร่างกายของมนุษย์นั้นมีขีดจำกัด และ 4 สิ่งที่อยู่ในกฎนี้ มีความจำเป็นต่อชีวิตมากที่สุด
ตัวอย่างสถานการณ์จริง (สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นมา ไม่ได้เกิดขึ้นจริง โปรดให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
นาย A ไปเที่ยวที่ถ้ำแห่งหนึ่งกับครอบครัว แล้วบังเอิญเกิดหลงทาง ติดอยู่ในถ้ำลึก สิ่งแรกที่คนปกติทำคือการหาทางออก บางคนทำอะไรไม่ถูก จึงจะพยายามเดินย้อนกลับทางเดิมเพื่อหาทางออก หากสามารถเดินกลับถูกทางก็จะไม่เป็นอะไร แต่ถ้าหากเดินผิดทาง หลงทางไปในส่วนที่ลึกขึ้น อาจกินเสบียงอาหาร และน้ำจนหมด เนื่องจากเหนื่อยล้า และหากที่นั้นมีออกซิเจนน้อย อาจจะไม่รู้ตัวและหมดสติจากการขาดออกซิเจนไปตรงนั้นก็ได้
หากนาย A ที่หลงทางในถ้ำพอรู้เรื่องการเอาชีวิตรอด รู้จักกฎ3333 อาจจะคำนึงการประหยัดน้ำ และอาหาร รวมถึงการหาอากาศสำหรับหายใจ บริเวณที่หลงทางอาจสังเกตได้ว่ายังพอหายใจได้สะดวก แต่เมื่อเดินเพื่อหาทางออกไปบริเวณอื่นอาจสังเกตได้ว่า หายใจติดขัดขึ้น จึงรู้ว่าขาดออกซิเจนและรีบตัดสินใจกลับมาทางเดิม นาย A ยังรู้ว่าอากาศเย็นขึ้น จึงพยายามบอกกับครอบครัวให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ และพยายามเดินชิดกันเพื่อรักษาความอบอุ่น
ถึงนาย A อาจจะยังไม่สามารถหาทางออกได้ แต่ก็พยายามหาวิธีให้มีชีวิตรอดจาก กฎ3333 นาย A อาจรอตรงบริเวณเดิมจนเจ้าหน้าที่มาพบภายหลัง หรือพยายามเดินหาทางออก โดยบอกครอบครัวให้มีการสังเกตเรื่องออกซิเจน การหายใจอยู่ตลอดเวลา ว่าระหว่างที่เดินการหายใจแย่ลง รู้สึกหน้ามืดจากขาดออกซิเจนหรือไม่ เพราะยิ่งถ้ำลึกก็จะมีออกซิเจนต่ำลง อาจหมายความว่าเดินหลงเข้าไปลึกขึ้นก็ได้
กฎ3333 ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสุขภาพได้ดังนี้
ถึงแม้ กฎ3333 จะรู้เพียงว่าเราไม่ควรขาดอะไรเท่าไหร่ แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่พอจะให้เรามีสติ และรู้ลำดับความสำคัญในการมีชีวิต ซึ่งมันอาจจะช่วยให้หาทางรอดได้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เพิ่มเปอร์เซ็นต์การมีชีวิตรอดมากขึ้นอีกเพียงไม่กี่ % ก็ย่อมดีกว่า 0%