กระดุมทอง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ มักปลูกเป็นแปลงใหญ่ เวลาออกดอก จะเหลืองบานเต็มพื้นที่ เราจะมาแนะนำ วิธีการปลูก และขั้นตอนดูแลง่ายๆ เป็นอย่างไร เราจะบอกเล่าตำนาน ความเป็นมาตามความเชื่อให้รู้ว่า ต้นไม้ความหมายมงคล ที่มีความสวย เป็นเอกลักษณ์ชนิดนี้ ว่าเป็นมาอย่างไร
ชื่อ: กระดุมทอง
ชื่อภาษาอังกฤษ: Little Yellow Star
ชื่อวิทยาศาสตร์: Melampodium divaricatum (Rich. ex Pers.) DC.
ชื่ออื่นๆ: พิกุลทอง เบญจมาศเครือ กระดุมทองเลื้อย
ถิ่นกำเนิด: ทวีปอเมริกาใต้
วงศ์: ASTERACEAE (COMPOSITAE)
กระดุมทอง เป็นไม้ล้มลุก พุ่มเตี้ย มีอายุประมาณแค่ 2 ปีเท่านั้น
ที่มา: กระดุมทอง [1]
ประโยชน์
สรรพคุณ
กระดุมทอง มีดอกไม้ที่มีความหมายว่า ความเชื่อมั่น ความมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดๆที่เข้ามา โดยมีตำนานเล่าว่า เมื่อสมัยสุโขทัยได้มีหญิงสาวรายหนึ่งที่แอบรักทหารในวัง ซึ่งความรักของนางเป็นไปไม่ได้ เธอจึงได้ปลูกต้นกระดุมทองไว้รอบวังและดูแลทุกวันอย่างดี พร้อมทั้งขอพรให้สมหวังในความรัก
เมื่อต้นกระดุมทองถูกเลี้ยงอย่างดีทำให้มันเลื้อยไปตามรอบวัง จนกษัตริย์เห็น จึงได้เชิญให้หญิงสาวเข้ามาเป็นผู้ดูแลต้นไม้ต่างๆ ภายในวัง ทำให้หญิงสาว และทหารหนุ่มคนนั้นได้พบรักกันไปนาน ทำให้ต้นกระดุมทองเป็นเหมือนต้นไม้ ที่เชื่อว่าขอเรื่องของความรัก ให้เกิดการสมหวังได้
ควรปลูกไว้บริเวณ หน้าบ้าน ต้นกระดุมทอง เป็นต้นไม้ขนาดเล็ก ที่นิยมปลูกในกระถางไว้บริเวณหน้าบ้าน เช่นเดียวกับ ต้นมั่งมี โดยรอบบ้านติดกับรั้ว ทำให้ดูสวยงาม ยิ่งถ้าใครที่ได้ปลูกไว้ในบ้าน จะทำให้มีความรักที่มั่นคง และยืนยาวตามความเชื่อที่มีมาเนิ่นนาน [2]
ขยายพันธุ์: โดยการปักชำ และเพาะเมล็ด
ที่มา: วิธีดูแลกระดุมทอง [3]
สรุป ต้นกระดุมทองนิยมปลูกกันมาก เพราะดอกกระดุมทอง จะออกดอกตลอดปี ให้ความสดใสกับบริเวณที่ปลูก อีกทั้งยังมีความหมายที่ดี ในด้านความรักที่มั่นคง ไม่หวั่นไหว หาซื้อมาปลูกกันได้ง่าย ต้นกระดุมทอง จะขายในราคาที่ถูก ซื้อเป็นกระถางประมาณ 30 – 50 บาท หรือแบบเมล็ด ก็จะจำหน่ายที่ราคา 30 – 60 บาท ประมาณ 80 – 100 เมล็ด หาซื้อได้ทั่วไป