
การฟื้นฟูสมอง โดยนักวิทย์ เพื่อพัฒนาการแพทย์
- MY Kismet
- 3 views

การฟื้นฟูสมอง โดยนักวิทย์ เพื่อพัฒนาการแพทย์ เป็นการค้นคว้า ข้อมูลใหม่ เพื่อการพัฒนา ศักยภาพในการรักษา เพราะในปี 2563 พบผู้ป่วยเสียชีวิต มากกว่า 5.5 ล้านคน ที่เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง และทั่วโลกในทุกๆ ปีนั้น จะมีผู้ป่วยโรคสมอง อย่างน้อย 10-15 ล้านคนต่อปี จึงต้องมีการพัฒนา
- การศึกษาเรื่องเซลล์และการซ่อมแซมเซลล์
- ความซับซ้อนของเส้นประสาทและการฟื้นฟูสมอง
- เทคโนโลยีการแพทย์และวิธีการดูแลผู้ป่วย
การศึกษาเกี่ยวกับ เซลล์สมองของผู้ป่วย
ความเชื่อยุคแรก ในเรื่องของเซลล์ประสาท ที่อยู่ในร่างกายนั้น เชื่อว่าไม่สามารถ ฟื้นฟูกลับคืนมาได้ โดยมนุษย์เรานั้น จะมีเส้นประสาทนับล้าน ที่ทำหน้าที่เหมือนกับ แหล่งขนส่งไปยังสมอง และมีการแบ่ง สัดส่วนการทำงานออกเป็น 2 ส่วนคือ ระบบประสาทส่วนกลาง และส่วนปลาย
ในการศึกษา เกี่ยวกับการฟื้นฟู เซลล์ประสาทครั้งแรก เริ่มมีการศึกษา ในช่วงศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงที่มีสงครามโลก เป็นครั้งที่ 2 แพทย์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ เพื่อการฟื้นฟู กลุ่มเซลล์ประสาท ที่ได้รับบาดเจ็บ และพบว่า เซลล์บางชนิด สามารถฟื้นฟูได้เอง แต่ต้องพึ่งระยะเวลา
โดยใช้หลักความเชื่อ ที่มีการค้นพบช่วง ทศวรรษ 1980 เป็นการค้นคว้า เกี่ยวกับการฟื้นฟู เซลล์สมองส่วนกลาง โดย “อัลเบิร์ต อากวาโย” ได้ศึกษาสรีรของหนู และพบว่าเซลล์ประสาท สามารถงอกใหม่ได้ เมื่อผ่านการปลูกถ่าย และนำต่อใส่ บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ (19 สิงหาคม 2025) [1]
ปัจจัยการซ่อมแซมของ ระบบประสาทในสมอง
เมื่อช่วง ศตวรรษที่ 7 เป็นช่วงที่ นักวิทยาศาสตร์ เริ่มเข้าใจ เกี่ยวกับการฟื้นฟู ในเรื่องของ เส้นประสาทในสมอง ซึ่งถือได้ว่า เป็นเนื้อหาความรู้ใหม่ จากการศึกษา ผ่านการใช้สัตว์ โดยนักวิทยาศาสตร์ ได้เลือกใช้กบ ในการศึกษา เรื่องของเส้นประสาท และการฟื้นฟู และกลายเป็น เรื่องที่มีการพัฒนาต่อ
สำหรับการฟื้นฟู ระบบประสาทในสมอง สิ่งที่สำคัญมาก ในการฟื้นฟู และการรักษา คือการเลือกช่วงเวลา ที่เหมาะสม และยังต้องมีความแม่นยำ ในการเลือกตำแหน่ง ซึ่งในยุคก่อน ไม่ได้มี เทคโนโลยีสมัยใหม่ เหมือนกับในตอนนี้ที่มี หุ่นยนต์ ช่วยเหลือ ทางการแพทย์ อีกทั้งยังมีในเรื่องของ ขนาด ช่วงอายุร่วมด้วย
ความซับซ้อน ของเซลล์ที่อยู่ในสมองมนุษย์
ในสมองของมนุษย์นั้น จะมีเซลล์ประสาท อยู่ทั้งหมด 86,000 ล้านเซลล์ โดยเซลล์เหล่านี้ จะมีขั้นตอนการทำงาน เป็นเหมือนกับเครือข่าย ที่เชื่อมโยงกันอยู่ และจะมีจุดกระจายสัญญาณ ที่เรียกกันว่า “ไซแนปส์” โดยจุดกระจายนี้ มีอยู่ทั่วร่างกาย มากกว่าล้านจุด และเซลล์เหล่านี้ มีความน่าสนใจ ดังนี้
- สมองเหมือนจักรวาล: การจัดเรียง เซลล์ประสาทในร่างกาย มีความซับซ้อน และกระจายตัวเหมือนกับ โครงสร้างที่เราสำรวจ ในระบบจักรวาล โดนเซลล์ประสาท เป็นเหมือนกาแล็กซี
- ระบบการทำงาน: ระบบการไหลเวียน ของกลุ่มข้อมูล และการไหลเวียนพลังงานใน 1 วัน คิดเป็น 25% ของพลังงานทั้งหมด ที่ร่างกายใช้ไป ในแต่ละวัน ซึ่งเป็นโครงสร้าง ที่ทำงานเหมือน จักรวาลนอกโลก
การฟื้นฟูสมอง โดยนักวิทย์ แบบไดนามิก

การพัฒนาแบบไดนามิก ในเรื่องการพัฒนา และการสังเกต เหตุปัจจัย ที่ทำให้ร่างกาย เร่งปฏิกิริยา ในการสร้างเซลล์ใหม่ ซึ่งตามหลัก ความเป็นจริงแล้ว เซลล์ที่ฟื้นฟูได้ มักพบได้ในผู้ป่วย วัยผู้ใหญ่ อีกทั้งเซลล์เหล่านี้ จะมีประสิทธิภาพลดลง เมื่อช่วงอายุ เริ่มเพิ่มมากขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์ ได้อิงการศึกษาจาก
การสังเกตจาก ฮิปโปแคมปัส ที่พื้นที่รับกลิ่น จะพบได้ว่า เซลล์ช่วงบริเวณนั้น มีอายุขัยที่สั้น มากกว่าบริเวณอื่น และได้นำชุดความรู้นี้ มีศึกษาต่อ เกี่ยวกับการฟื้นฟู เซลล์ประสาท บริเวณใต้โพรงจมูก จากการศึกษานี้ นักวิทยาศาสตร์ ได้ค้นพบว่า เมื่อมีการยับยั้ง การส่งกลูโคส ไปยังบริเวณประสาทรับกลิ่น
เซลล์บริเวณนั้น จะฟื้นฟูตัวเองได้ และสามารถกระตุ้น การสร้างเซลล์ ให้เพิ่มปริมาณขึ้นได้ และการศึกษาในสัตว์อื่น เช่น หนู ตรวจพบว่าเซลล์ใหม่ ที่ก่อตัวขึ้น จะมีอายุมากกว่า เซลล์เดิมอย่างน้อย 1 เท่า การศึกษาเหล่านี้ สามารถนำมา ต่อยอดเพื่อการพัฒนา โครงสร้างการรักษาได้ ในอนาคต
ที่มา: Stanford Medicine study hints (2 ตุลาคม 2024) [2]
วิธีการใหม่ การฟื้นฟูแบบสมองกล และการพัฒนา
อินเทอร์เฟซทางประสาท
เป็นการฟื้นฟู ผ่านเทคโนโลยี ที่เชื่อมต่อเข้ากับ สมองและคอมพิวเตอร์ เป็นการทำงานแบบ การแปลงสัญญาณ จากสมอง ส่งต่อไปยัง เซลล์ประสาท โดยการทำงานเหล่านี้ ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ในส่วนที่อ่อนแรงได้ อีกทั้งยังเป็นการ ฟื้นฟูเส้นประสาท แบบการใช้ไฟฟ้า ในอีกทางหนึ่งด้วย (30 พฤศจิกายน 2024) [3]
หุ่นยนต์
เป็นการทำงาน แบบการฟื้นฟูภายนอก โดยที่เครื่องมือนี้ จะทำให้ผู้ป่วย ได้ลุกขึ้นเดิน หรือเคลื่อนไหว ในรูปแบบต่างๆ และทำแบบซ้ำๆ เพื่อทำให้ร่างกาย มีปฏิกิริยาตอบสนอง ข้อดีของเครื่องมือนี้ คือผู้ป่วยสามารถ รับรู้น้ำหนัก และการลงน้ำหนัก ของช่วงการเดิน ได้อย่างถูกต้อง
การใช้สมองเทียม
เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่พึ่งพากลไก การทำงานของระบบ อิเล็กทรอนิกส์แบบ 100% โดยการทำงาน ของสมองเหล่านี้ จะประมวลผล จากชุดความรู้ ที่วางกลไกไว้ และเชื่อมต่อเข้ากับ ระบบประสาททั่วร่างกาย ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่นักวิทยาศาสตร์ ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม และมีค่าใช้จ่ายสูง
สิ่งที่สำคัญ ที่ทำให้ผู้ป่วย ฟื้นตัวได้ไวขึ้น
ส่วนของร่างกาย
- การเคลื่อนไหว: ผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟื้นฟู ต้องมีการเดิน ฝึกการใช้แขน การยืน และการเคลื่อนที่อยู่เสมอ
- ฝึกกิจวัตร: เมื่อเข้าสู่ช่วง การพักฟื้นมาสักระยะ ผู้ป่วต้องมีการฝึก เข้าห้องน้ำ กินข้าวเอง
- ฝึกการพูด: ทักษะหลัก ที่ต้องฟื้นฟูคือการพูด ผู้ป่วยต้องฝึกออกเสียง และหมั่นสื่อสาร กับคนดูแลอยู่เสมอ
ส่วนของจิตใจ
- การสูญเสีย: ผู้ป่วยที่ฟื้นขึ้นมา จากการรักษา และพบว่าตนเอง ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เหมือนกับเมื่อก่อน ช่วงแรกอาจจะ มีความรู้สึกสูญเสีย และมีภาวะแตกสลายได้
- โรคแทรกซ้อน: กลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า หรือควบคุมตัวเองไม่ได้
- ทำความเข้าใจ: ผู้ดูแลในกลุ่มผู้ป่วยนี้ ต้องมีความเข้าใจ ในตัวคนไข้ และรับฟังปัญหา ทำตามที่แพทย์สั่ง เพื่อลดผลกระทบ อ่านทั้งหมดที่ bangkokhospital
ในส่วนสุดท้าย การฟื้นฟูสมอง โดยนักวิทย์
ส่วนสุดท้าย การฟื้นฟูสมอง โดยนักวิทย์ เป็นการศึกษา เกี่ยวกับการทำงาน ของระบบประสาท ที่เชื่อมโยงกับสมอง โดยการศึกษาเหล่านี้ เริ่มมีการศึกษา มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 ยุคสมัยนั้น เริ่มทำความเข้าใจได้ว่า ร่างกายมนุษย์ สามารถฟื้นฟูเซลล์ได้ และสิ่งนั้นกลายเป็น การศึกษาต่อยอด มาจนถึงปัจจุบัน
ต้องควบคุมอะไร เซลล์ถึงจะเพิ่มจำนวน
จากเนื้อหาทั้งหมด ในการศึกษา เกี่ยวกับประสาทรับกลิ่น และโพรงใต้จมูก จะพบได้ว่า เมื่อเราขัดขวาง การขนส่งกลูโคส ไปยังประสาทรับกลิ่น เซลล์บริเวณนี้จะตาย แต่จะสามารถ ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ และการทำงานแบบนี้ ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้น ในการเซลล์เพิ่มขึ้นไปอีก
สัตว์ชนิดแรก ที่นักวิทยาศาสตร์ ใช้ศึกษาคือสัตว์อะไร
จากบันทึกการตรวจสอบ พบว่าในช่วงศตวรรษที่ 7 นักวิทยาศาสตร์ ได้มีการศึกษา เกี่ยวกับการทำงาน ของเซลล์ประสาท โดยเป็นการใช้สัตว์ ในการศึกษาเบื้องต้น และสัตว์ชนิดนั้นคือ “กบ” เป็นสัตว์ชนิดแรก ที่ใช้และต่อมานั้น ก็ได้มีการใช้สัตว์อื่น เช่น หนู หรือการสังเกต ฮิปโปเป็นต้น
- Tags: วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง


