
การ์ด เจอร์ไมห์ เฟียร์ส ผู้ที่เล่นโดยฟังเสียงจากอนาคต
- Harry P
- 8 views

การ์ด เจอร์ไมห์ เฟียร์ส (Jeremiah Fears) คือหนึ่งในการ์ดยุคใหม่ ที่ถูกพูดถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2025 ไม่ใช่เพราะไฮไลต์หวือหวา เหมือนรุ่นเดียวกันบางคน แต่เพราะ “สัญชาตญาณที่เหมือนรู้คำตอบก่อนเกมจะถาม” การเคลื่อนที่ของเขาไม่ฉูดฉาด แต่เฉียบคม เหมือนฟังเสียงบางอย่าง ที่ไหลเข้ามาก่อนเวลา
- โปรไฟล์ของเจอร์ไมห์ เฟียร์สโดยย่อ
- จุดแข็งหลักในสไตล์การเล่นของเฟียร์ส
- จุดที่เจอร์ไมห์ เฟียร์สยังต้องพัฒนาในระดับ NBA
เมื่อการ์ดคนหนึ่ง เหมือนรู้คำตอบก่อนที่เกมจะถาม
มีผู้เล่นบางคน ที่เราเห็นไฮไลต์แล้วจำได้ จากความสูงเกินมนุษย์ หรือดังก์แหวกกลางวง แต่เจอร์ไมห์ เฟียร์สไม่ได้มาจากสายตึงแบบนั้น เขาไม่ได้เป็นรุกกี้ที่ดังที่สุดในรุ่น ไม่ได้มีรูปร่างเหนือกว่าคนอื่นอย่างชัดเจน ทว่าทุกครั้งที่ลงสนาม เขาทิ้งความรู้สึกบางอย่างไว้เสมอว่า “คนคนนี้เหมือนเล่นเกมอยู่ล่วงหน้าเรา 1 จังหวะ”
เฟียร์สเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2006 จากเด็กเมือง Joliet, Illinois ที่โตมากับครอบครัวบาสเกตบอล ไปสร้างชื่อให้ตัวเองที่ Joliet West และ AZ Compass Prep ก่อนจะระเบิดฟอร์มที่ Oklahoma Sooners ในระดับ NCAA และก้าวสู่ NBA ในฐานะดราฟต์อันดับ 7 ปี 2025 ของ New Orleans Pelicans (21 พฤศจิกายน 2025) [1]
เขาไม่ได้ถูกบอกเล่าว่าเป็น “วันเดอร์คิด” แบบสื่อสายไฮป์ แต่ถูกมองว่าเป็น การ์ดที่เล่นเก่งกว่าอายุจริง และคุมเกมด้วยเซนส์ที่สงบอย่างน่าประหลาด ในบทความนี้เราจะมองเจอร์ไมห์ เฟียร์สในมุมของ การ์ดที่เหมือนรู้คำตอบของเพลย์ล่วงหน้า และดูว่าเสียงจากอนาคตที่ว่า แปลออกมาเป็นทักษะ และบทเรียนอะไรได้บ้าง สำหรับการ์ดยุคใหม่
เฟียร์สไม่ใช่แค่สกอริ่งการ์ด แต่เป็นเพลย์เมกเกอร์เต็มตัว

เฟียร์สเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างจริงจัง ตอนเล่นให้ Joliet West High School ก่อนจะย้ายไป AZ Compass Prep ใน Arizona ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ขึ้นชื่อ เรื่องการปั้นผู้เล่นระดับท็อปของประเทศ ฤดูกาลระดับมัธยมที่ AZ Compass Prep เขาเฉลี่ยแต้มระดับสองหลัก พร้อมสถิติรีบาวด์ แอสซิสต์ และสตีลที่สมดุลอย่างมาก
ด้านการรีครูต เขากลายเป็น โฟร์สตาร์คอมโบการ์ด ติดอันดับท็อป 25 การ์ดของรุ่น และอยู่ในช่วงท็อป 60-70 ของคลาสตามการจัดอันดับหลายสำนัก เป็นระดับที่คำว่า “จุดเด่นชัดเจน และเพดานยังไม่ถูกเปิด” ใช้อธิบายได้พอดี
ช่วงหนึ่งเขาเคย คอมมิตกับ Illinois ก่อนจะตัดสินใจดีคอมมิต และเลือก Oklahoma พร้อมรีคลาสจากรุ่นปี 2025 มาเป็น 2024 เพื่อก้าวสู่คอลเลจเร็วขึ้น นี่คือจังหวะสำคัญที่บอกเราว่าเจอร์ไมห์ เฟียร์สเป็นคนที่กล้าเลือกเส้นทางที่ยาก และไวกว่าปกติ แต่มั่นใจว่าตัวเองพร้อม (20 กรกฎาคม 2024) [2]
การอ่านเกมที่เริ่มจากมุมมองของเพลย์ ไม่ใช่ของตัวเอง
การอ่านพิกแอนด์โรล และการสร้างทางเลือก
เฟียร์สใช้พิกแอนด์โรลได้หลากหลายแบบ ทั้งการเข้าแป้นเอง การดึงฟาวล์ หรือการคิกเอาท์ออกไปให้ชู้ตเตอร์ เขามองเห็นทั้งโรลแมน ชู้ตเตอร์ในมุม และตัวช่วยป้องกันที่อยู่ห่างออกไปอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เขาสามารถ “เลือกคำตอบ” ได้หลายแบบในเพลย์เดียว
การทำแต้มระดับสามเลเวล แม้เปอร์เซ็นต์สามแต้มยังไม่นิ่ง
เขาสามารถเข้าแป้น และดึงฟาวล์ได้ดี และมี mid-range pull-up ที่ใช้เมื่อคู่แข่งถอยลึกเกินไป เฟียร์สมีสามแต้มที่ แม้เปอร์เซ็นต์โดยรวมจะยังไม่ดีมาก แต่ฟอร์มการชู้ตไม่ได้เสีย และมีหลายช็อตยากๆ ที่บอกได้ว่าเมื่อเกมร้อน เขาไม่กลัวที่จะชู้ต
ความกล้า และการแข่งขันในโมเมนต์ใหญ่
เฟียร์สมีหลายเกมใน NCAA ที่เขารับหน้าที่ปิดเกม หรือพลิกเกมในช่วงท้าย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปชนฟาวล์ ในช่วงคอขาดบาดตาย หรือการสังหารสามแต้มสำคัญตรงหน้าเบนช์ฝั่งตรงข้าม ความกล้านี้ทำให้หลายสำนักมองว่า เขามีโอกาสเติบโตเป็น “คลัตช์การ์ด” ใน NBA ถ้าพัฒนาการตัดสินใจให้คมขึ้นอีกนิด (24 มิถุนายน 2025) [3]
สามบททดสอบที่รอพิสูจน์ในเวที NBA

- ความเสถียรของสามแต้ม
แม้สไตล์จะชัดว่าเฟียร์สเป็นการ์ด ที่สามารถทำแต้มได้จากทุกระยะ แต่ตัวเลขสามแต้มในช่วงก่อนเข้าดราฟต์ ยังไม่สวยงามนัก นี่คือปัจจัยสำคัญในยุคที่ทีมส่วนใหญ่ ต้องการการ์ดที่ยืนเป็น spacing ได้ในทุกไลน์อัพ หากเขาไม่สามารถยกระดับตรงนี้ขึ้นมาให้คู่แข่ง “จำใจต้องไล่ชิด” เกมของเขาจะถูกบีบให้ยากขึ้น - การป้องกัน และขนาดตัว
ถึงแม้ส่วนสูงบนกระดาษ จะไม่ได้ต่ำมาก (6 ฟุต 3 นิ้ว) แต่ในโลกของ NBA ที่การ์ดตัวใหญ่ และวิงก์ตัวหนาเต็มไปหมด การป้องกันผู้เล่นที่สูงกว่า หนักกว่า และแข็งแรงกว่าต้องใช้ทั้งเทคนิค สมาธิ และความดุดันสม่ำเสมอ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นพื้นที่ที่เขาต้องพิสูจน์ว่าตัวเอง จะไม่กลายเป็น “จุดที่คู่แข่งเล็งโจมตี” - การตัดสินใจในเกมเพลย์ออฟสเกล
ข้อดีของเฟียร์สคือความกล้าในโมเมนต์ใหญ่ แต่ข้อเสียที่อาจตามมาได้ คือการรีดช็อตยากเกินไป หรือฝืนในบางสถานการณ์ NBA จะทดสอบว่า เขาสามารถแยกแยะได้หรือไม่ ว่าเมื่อไหร่ควรเป็นฮีโร่ และเมื่อไหร่ควรเป็นคนส่งไม้ต่อให้เพื่อน
New Orleans Pelicans พื้นที่ให้เสียงจากอนาคตดังขึ้น
การมาถึงของเจอร์ไมห์ เฟียร์สทำให้พีลิแกนส์ มีชิ้นส่วนที่ทีมขาดมานาน การ์ดที่คุมจังหวะได้ โดยไม่แย่งแสงไฟจากแกนหลัก อย่างซีออน วิลเลียมสัน และแบรนดอน อินแกรม ยิ่งไปกว่านั้นทีมยังได้ อีฟ มิสซี่ บิ๊กพลังระเบิดที่ถูกเรียกว่า สัตว์ป่า แห่งโพสต์ ผู้ฉีกจังหวะด้วยแรงแบบดุดัน
ซึ่งตรงข้ามกับความนิ่งของเฟียร์สแบบพอดี อย่างน่าประหลาด ในระบบแบบนี้ เฟียร์สามารถพัฒนาเป็นหนึ่งใน “ตัวแปรเชิงจังหวะ” ของทีม คือไม่ใช่ตัวหลักที่ถือบอลทุกเพลย์ แต่เป็นคนที่เมื่อเกมติดขัด โค้ชสามารถโยนบอลให้เขา แล้วให้เขาใช้การอ่านเกมที่นิ่ง ดูว่าทีมควรชะลอ หรือเร่ง ควรเข้าเพนต์ หรือลากออกมาจัดใหม่
ถ้าพีลิแกนส์สร้างโครงให้เขา ได้ใช้ความสามารถด้านพิกแอนด์โรล และการคุมจังหวะอย่างเต็มที่ เขามีโอกาสจะกลายเป็นการ์ดที่ “ไม่ได้ถูกเรียกว่าแฟรนไชส์เพลเยอร์ แต่เป็นคนที่ทำให้แฟรนไชส์มีจังหวะหายใจ” ซึ่งเป็นคุณค่าที่ทีมใหญ่หลายทีมขาดไป ในยุคที่ทุกคนมองหาซูเปอร์สตาร์ มากกว่ามองหาคนคุมจังหวะ
จิตวิทยาของคนที่รีคลาส และโตเร็วกว่าเวลา
การที่เฟียร์สตัดสินใจรีคลาสขึ้นมาจากรุ่น 2025 เป็น 2024 ไม่ได้เป็นแค่การย้ายปีในเอกสาร แต่มันสะท้อนว่าเขา ยอมรับที่จะข้ามขั้นตอนบางอย่างในเส้นทางเยาวชน ไปเจอคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า และมีประสบการณ์มากกว่าเร็วขึ้น จิตวิทยาของผู้เล่นที่เลือกก้าวกระโดดแบบนี้
มักต้องมีสองสิ่งคือ ความมั่นใจในตัวเองระดับสูง เชื่อว่าตัวเองพร้อม และความกล้ารับผิดชอบต่อผลลัพธ์ ถ้าไม่เวิร์ก ก็ต้องยอมรับ และพัฒนาให้ได้ ในอีกมุมสำหรับแฟนบาส และโค้ช นี่คือจุดที่น่าสนใจมาก เพราะผู้เล่นที่ผ่านการ “กระโดดชั้น” แล้วเอาตัวรอดได้ มักจะมี mindset บางอย่างที่ต่างจากคนทั่วไป
การไม่กลัวความล้มเหลวในเวทีใหญ่ หรือการมองปัญหาในสนาม เป็นโจทย์ที่ต้องแก้ ไม่ใช่กำแพงที่ข้ามไม่ได้ ในกรณีของเฟียร์ส การรีคลาส + ปีเฟรชแมนที่เล่นในบทบาทหลักทันที + การก้าวสู่ NBA ในฐานะดราฟต์ท็อป 10 แสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้แค่มีพรสวรรค์ แต่มีความพร้อมภายใน รองรับจังหวะชีวิตที่เร็วกว่าเส้นเวลาเฉลี่ย
บทสรุป การ์ดที่โตเร็วกว่าเวลา แต่ยังมีเวลาพัฒนาอีกมาก
สุดท้ายแล้ว การ์ด เจอร์ไมห์ เฟียร์ส ไม่ได้เข้ามาใน NBA ในฐานะ “คำตอบทุกอย่างของแฟรนไชส์” และคำว่าผู้ที่เล่นโดยฟังเสียงจากอนาคต ก็ไม่ใช่คำขยายเพื่อให้ดูเท่ แต่เป็นการสรุปสไตล์ของเขา ที่ใช้จินตนาการ การอ่านเกม และความนิ่ง มาผสมกันให้เป็นจังหวะที่ดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยการคำนวณ
เฟียร์สเป็นการ์ดประเภทไหนกันแน่ ?
คำถามที่ว่าเจอร์ไมห์ เฟียร์สเป็นพอยต์การ์ด หรือชู้ตติ้งการ์ด เขามักถูกจัดว่าเป็น คอมโบการ์ด เพราะสามารถทำได้ทั้งสองบทบาท แต่ด้วยวิธีอ่านเกม และการคุมจังหวะ เขามีโอกาสเติบโตเป็น พอยต์การ์ดที่จบสกอร์เองได้ มากกว่าการเป็นชู้ตติ้งการ์ดแบบดั้งเดิม ที่เน้นรับบอลแล้วชู้ตเป็นหลัก
ทำไมหลายสื่อถึงมองว่าเฟียร์ส เล่นเก่งกว่าอายุจริง ?
เพราะทั้งการตัดสินใจของเจอร์ไมห์ เฟียร์สในเพลย์สำคัญ การไม่กลัวที่จะถือบอลในช่วงเวลาตึง เกมที่ใช้สมองมากกว่าพลัง และความนิ่งในสถานการณ์กดดัน ล้วนเป็นคุณสมบัติที่มักพบในผู้เล่น ที่ผ่านลีกมาหลายปี ไม่ใช่รุกกี้วัยสิบปลายๆ
- Tags: กีฬา


