
ข้อมูล พิก้า สัตว์ภูเขา เบื้องหลังความอยู่รอด
- J. Kanji
- 4 views

ข้อมูล พิก้า สัตว์ภูเขา คือสัตว์ตัวเล็ก หน้าตาคล้ายกระต่ายจิ๋ว ที่อาศัยตามโขดหินสูง อากาศเย็นจัด พวกมันมีหูกลม ขนฟู และนิสัยขยันสะสมอาหาร ไว้ใช้ในฤดูหนาว พิก้ายังถูกมองว่า เป็นตัวชี้วัดสภาพภูมิอากาศ เพราะทนความร้อนไม่ได้เลย บทความนี้จะพาไปรู้จักชีวิต พฤติกรรม และความสำคัญของพิก้า แบบเข้าใจง่าย
- ลักษณะ และความสำคัญของพิก้า
- ที่อยู่ และใช้ชีวิตบนภูเขาของพิก้า
- ความท้าทาย และบทบาทของพิก้าในระบบนิเวศ
พิก้าคือใคร ? พื้นฐานที่ควรรู้
พิก้าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก อยู่ในอันดับเดียวกับกระต่าย (lagomorphs) แต่มีลักษณะเฉพาะตัวมากกว่า ทั้งตัวกลม ขาสั้น หูกลม และไม่มีหางที่เห็นชัดเจน โดยอยู่ในวงศ์ Ochotonidae และสกุล Ochotona ซึ่งเป็นสกุลเดียวของกลุ่มนี้ ที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนั้น พิก้ายังมี หัวกลม ใบหูเล็ก และใบหน้าค่อนข้างสั้น ทำให้ดูคล้ายกระต่ายขนาดจิ๋ว
ลักษณะนี้ช่วยลดการสูญเสียความร้อน ในสภาพอากาศหนาวจัด ส่วนขาและเท้าของพิก้า สั้นแต่แข็งแรง เหมาะกับการปีนป่าย ตามโขดหินบนภูเขา และขนหนานุ่ม ช่วยเก็บความร้อนได้ดี ในพื้นที่อากาศเย็นตลอดปี พิก้าได้รับการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เป็นครั้งแรกโดย John Richardson นักธรรมชาติวิทยา ชาวสกอตแลนด์ในปี 1828
ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการทำความรู้จักสัตว์เล็กชนิดนี้ ในวงการชีววิทยา ปัจจุบันนักชีววิทยาระบุว่า พิก้ามีประมาณ 30–37 ชนิด กระจายอยู่ในเอเชียเป็นส่วนใหญ่ และบางชนิดอยู่ในอเมริกาเหนือ เช่น American pika (Ochotona princeps) (29 พฤศจิกายน 2025) [1]
ที่อยู่อาศัย บ้านของพิก้าอยู่ตรงไหน ?
บ้านของพิก้า คือบริเวณภูเขาสูง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็น ทางลาดหิน (talus) และกองหินที่มีรอยแตก เหมาะสำหรับซ่อนตัว พวกมันชอบพื้นที่ ที่มีหญ้า ดอกไม้ และพืชพรรณเติบโตใกล้ ๆ เพื่อใช้เป็นอาหาร พิก้าชอบอากาศเย็นมาก จึงพบมากในพื้นที่สูง เหนือระดับน้ำทะเล หลายพันเมตร
ตามงานศึกษานิเวศวิทยาภูเขาในปี 2010 ที่ตรวจสอบการกระจายตัวของพิก้าในอเมริกาเหนือ พบว่าพิก้าเริ่มย้ายขึ้นไป อยู่ในพื้นที่ที่สูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยรายปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่น แถบเทือกเขาเอเชียกลาง เทือกเขาหิมาลัย จนถึงภูเขาในอเมริกาเหนือ พวกมันแทบไม่พบในพื้นที่โล่ง หรือที่ราบเพราะไม่สามารถ ทนความร้อนได้ดี
วิถีชีวิตวัน ๆ ของพิก้าเป็นอย่างไร ?
นักสะสมอาหาร เป็นคำที่เหมาะที่สุดกับพิก้า ในฤดูร้อนพวกมันจะออกเก็บหญ้า ดอกไม้ ใบไม้ และพืชหลากหลายชนิด เพื่อนำไปตากแดดให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในโพรงใต้ก้อนหิน เป็นเหมือน “กองหญ้าแห้ง (haystack)” สำหรับใช้ในฤดูหนาว ที่อาหารหายากมาก พิก้าเป็นสัตว์ที่ทำกิจกรรม ตอนกลางวัน (diurnal) กลางวันออกหากิน
กลางคืนซ่อนตัวในโพรง เพื่อหลบความหนาวและผู้ล่า พวกมันไม่จำศีล ในฤดูหนาว จึงยิ่งต้องเตรียมอาหารไว้ล่วงหน้า อีกเรื่องที่น่าสนใจ คือพฤติกรรมป้องกันอาณาเขต พิก้ามักจะมีพื้นที่ของตัวเองชัดเจน และมักส่งเสียงร้องเตือน เมื่อเจอภัยคุกคาม เช่น เหยี่ยว นกฮูกหิมะ สุนัขจิ้งจอก หรือสัตว์นักล่าอื่น ๆ (2025) [2]
อาหาร พิก้ากินอะไร ?

พิก้ายังมีนิสัย คัดเลือกพืชอย่างละเอียด พวกมันมักเลือกพืช ที่มีสารต้านจุลชีพบางชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้กองหญ้าแห้ง เกิดเชื้อราในช่วงฤดูหนาว ทำให้คุณภาพอาหารยังดี แม้เวลาผ่านไปหลายเดือน นอกจากนี้ พิก้ายังกลับมาตรวจเช็ก กองอาหารเป็นระยะ ๆ เพื่อเติมส่วนที่หายไป หรือย้ายไปไว้ในตำแหน่งที่แห้งกว่า
ด้วยการเตรียมอาหารล่วงหน้าแบบนี้ ทำให้พิก้าอยู่รอดได้ตลอดฤดูหนาว โดยไม่ต้องอพยพลงเขา หรือจำศีลเหมือนสัตว์บางชนิด พวกมันยังจำแนกพืช ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น พืชที่มีเส้นใยมาก หรือมีพลังงานสูง เพื่อให้สามารถทนต่ออากาศหนาวจัด หลายเดือนติดต่อกันได้
การสืบพันธุ์ และวงจรชีวิตของพิก้า
พิก้ายังมีพฤติกรรมการสร้างรัง ที่ละเอียดอ่อน โดยใช้หญ้าแห้ง และวัสดุจากพืชบุด้วยขนของตัวเอง เพื่อช่วยให้ลูกอ่อนอบอุ่น ในช่วงต้นฤดูหนาว ลูกพิก้ามักเริ่มออกจากรังครั้งแรก เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้น ทำให้รอดจากความหนาว ได้มากกว่า และในบางพื้นที่พบว่าพิก้าแต่ละตัว อาจช่วยปกป้องลูกของตัวอื่น ในกลุ่มเล็ก ๆ ได้ด้วย
อายุเฉลี่ยของพิก้า อยู่ที่ประมาณ 3–7 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และในบางพื้นที่มีรายงานว่า พิก้าที่อาศัยในระดับความสูงมาก อาจมีอัตราการรอดต่ำกว่า เพราะอาหารหาได้ยากกว่า และสภาพอากาศโหดร้ายกว่า นอกจากนี้ยังพบว่า พิก้ามีอัตราการขยายพันธุ์ลดลง เมื่ออุณหภูมิในฤดูร้อนสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อจำนวนประชากร ในระยะยาว
พิก้ากับสิ่งแวดล้อม บทบาทและภัยคุกคาม
แม้พิก้าจะตัวเล็ก แต่มีบทบาทสำคัญ ในระบบนิเวศภูเขา พวกมันช่วยกระจายเมล็ดพืช ควบคุมพืชพรรณ และยังเป็นอาหารของสัตว์นักล่าหลายชนิด พิก้ามีความไวต่ออุณหภูมิสูงมาก จึงถูกมองว่าเป็น “ตัวชี้วัดภาวะโลกร้อน” ถ้าอุณหภูมิสูงผิดปกติ พิก้าอาจลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในฤดูร้อน ที่อากาศร้อนผิดธรรมชาติ พวกมันอาจร้อนจนตายได้
นอกจากนี้ ข้อมูลอัปเดตของ IUCN ในปี 2019 ยังระบุว่าพิก้า ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Least Concern แต่บางประชากร เริ่มมีแนวโน้มลดลง ในพื้นที่ที่อุณหภูมิสูงขึ้น ภัยคุกคามอื่น ๆ ได้แก่ การสูญเสียที่อยู่อาศัย จากกิจกรรมมนุษย์ เช่น การสร้างถนน การทำเหมือง การท่องเที่ยวที่รบกวนพื้นที่โขดหิน ซึ่งอาจทำให้พิก้า หลบซ่อนได้ยากขึ้น (2019) [3]
ข้อมูลพิก้า สัตว์ภูเขา กับบทสรุป
พิก้าเป็นสัตว์เล็กบนภูเขาที่มีเสน่ห์ และมีบทบาทสำคัญ ต่อระบบนิเวศ ตั้งแต่การควบคุมพืชพรรณ การเก็บสะสมอาหาร ไปจนถึงการเป็นตัวชี้วัด สภาพแวดล้อมบนภูเขา แม้พวกมันจะทนหนาวได้ดี แต่กลับทนความร้อนไม่เก่ง จึงถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศอย่างมาก
พิก้าคล้ายกระต่ายไหม ?
คล้ายกันในระดับหนึ่ง เพราะอยู่ในอันดับเดียวกัน แต่พิก้าตัวเล็กกว่า ขาสั้นกว่า ไม่มีหาง และใช้ชีวิตบนภูเขามากกว่า ความคล้ายอีกอย่าง คือฟันหน้าที่งอกตลอดเวลา เหมือนกระต่าย แต่พิก้าจะมีใบหูสั้น และกลมกว่า ซึ่งเป็นการปรับตัว เพื่อรักษาความร้อน ในพื้นที่อากาศเย็นจัดบนภูเขา
ทำไมพิก้าถึงถูกมองว่า เป็นตัวชี้วัดสภาพภูมิอากาศ ?
เพราะพิก้าทนความร้อนไม่เก่ง หากอุณหภูมิบนภูเขาสูงขึ้น เพียงเล็กน้อย ประชากรของพวกมันจะลดลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของจำนวนพิก้า จึงสะท้อนสภาพแวดล้อม และภาวะโลกร้อนได้อย่างชัดเจน ทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในสัตว์ ที่ตอบสนองต่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง อย่างเห็นได้ชัดที่สุด
- Tags: สัตว์


