คิกบ็อกซิ่ง กฎกติกา ในการแข่งขันบนเวทีระดับสากล

คิกบ็อกซิ่ง กฎกติกา

 คิกบ็อกซิ่ง กฎกติกา ในการแข่งขันบนเวที ระดับสากล จะเป็นการแบ่งรอบชกออกเป็น 3 – 5 ยก ยกละ 2 – 3 นาที ซึ่งผู้ชกสามารถใช้ เท้า, หมัด, เข่า และศอก ในการโจมตีคู่ต่อสู้ได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงการโจมตี ในส่วนที่อันตราย เช่น ท้อง, คอ หรือส่วนล่างบวิเวณสะโพก รูปแบบการป้องกัน สามารถทำได้ทั้งการบล็อก หลบหลีก หรือเคลื่อนที่

  • จุดเริ่มต้น ของคิกบ็อกซิ่ง
  • ประโยชน์ของ การฝึกฝนกีฬาคิกบ็อกซิ่ง
  • ลักษณะของ นักชกมวยที่ดี

เผยจุดเริ่มต้นของ กีฬาคิกบ็อกซิ่ง

คิกบ็อกซิ่ง เกิดขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นกีฬาที่ผสมผสานทักษะการต่อสู้ ระหว่างคาราเต้ โอซามุ โนกุจิ และมวยสากลไว้ด้วยกัน จนในเวลาต่อมาช่วงปี ค.ศ. 1970 ประเทศอเมริกา ก็ได้มีการพัฒนา คิกบ็อกซิ่งแบบอเมริกันขึ้น โดยมีการอนุญาตให้สามารถโจมตีได้ เฉพาะบริเวณช่วงเหนือเอว และให้ใส่ชุดป้องกัน เพื่อลดอาการบาดเจ็บ จากการต่อสู้ (2 สิงหาคม 2025) [1]

จุดเด่นที่น่าสนใจ ในคิกบ็อกซิ่ง

คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬา ที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ค่อนข้างสูง ลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี สามารถเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 600 – 900 แคลอรี อีกทั้งคิกบ็อกซิ่ง ยังเป็นหนึ่งในการกีฬา ที่มีการแข่งขัน แบบแบ่งรุ่นน้ำหนัก มีการสวมอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อลดอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังเป็นกีฬา ที่มีผู้เล่นประเภทหญิงมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

จุดประสงค์ของการฝึกฝนกีฬาคิกบ็อกซิ่ง คืออะไร?

จุดประสงค์หลักส่วนใหญ่ ของคนที่เข้าสู่วงการ คิกบ็อกซิ่ง คือ เพื่อป้องกันตัวเอง และเสริมสร้างสมรรถภาพ ทางร่างกาย  หรือเพื่อการแข่งขัน การต่อสู้ในรูปแบบ คิกบ็อกซิ่ง จะเน้นการเตะ และต่อย โดยจะมีการสวมใส่อุปกรณ์ ป้องกันความปลอดภัยร่วมด้วย เช่น นวม หรือฟันยาง เป็นต้น (4 ตุลาคม 2025) [2]

การชกมวยในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง ให้ประโยชน์อะไรบ้าง?

คิกบ็อกซิ่ง กฎกติกา

การชกมวย ในรูปแบบคิกบ็อกซิ่ง ให้ประโยชน์หลายด้านทั้งทาง ร่างกาย และจิตใจ เริ่มจากช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย โดยเฉพาะส่วนแขน ขา และแกนกลางลำตัว ช่วยเผาผลาญแคลอรี และลดไขมัน ทำให้ร่างกายฟิต และกระชับ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนา ความยืดหยุ่น และความคล่องตัว

ในการเคลื่อนไหว และการฝึกคิกบ็อกซิ่ง ยังช่วยทำให้มีสมาธิ และรู้จักการควบคุมจิตใจ รวมถึงฝึกทักษะการป้องกันตัว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญการออกกำลังกาย ในรูปแบบนี้ยังช่วย ลดความเครียด ความวิตกกังวล และช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ในตัวเองด้วย

รูปแบบการชกของคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย แตกต่างกันอย่างไร?

คิกบ็อกซิ่ง และมวยไทย มีรูปแบบการชก ที่แตกต่างกันอยู่มากมายหลายด้าน คิกบ็อกซิ่งจะเน้นการใช้เท้าและหมัด ในการโจมตี โดยมักจะมีการเคลื่อนที่ ที่รวดเร็ว และเน้นการโจมตี จากระยะไกล เช่น การเตะสูง เตะข้าง และการใช้หมัดตรง คิกบ็อกซิ่งมักจะเคลื่อนที่ แบบหมุนตัว และโจมตีจากมุมต่างๆ

ในขณะที่ มวยไทย จะเน้นการใช้ท่าทางแบบตั้งรับ และการโจมตี จากระยะใกล้ โดยมีอาวุธเป็น หมัด เข่า ศอก และเท้า มวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เป็นที่รู้จัก และแพร่หลายในระดับนานาชาติ เมื่อช่วงศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2557 มวยไทย ได้รับการยอมรับจากทาง องค์การสหประชาชาติ ให้เป็นกีฬาแห่งประชาคมโลก (13 พฤศจิกายน 2025) [3]

ลักษณะของนักชกมวย คิกบ็อกซิ่งที่ดี

  • มีความแข็งแรง และความทนทาน เพื่อรับมือกับการปะทะ และสามารถทำการโจมตี รวมถึงป้องกันตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการฝึกฝน มวยไทย ประโยชน์
  • มีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี คล่องแคล่ว และมีการหลบหลีก ที่รวดเร็ว
  • มีความมุ่งมั่น และมีสมาธิ ไม่หยุดพัฒนาทักษะการต่อสู้ สามารถวิเคราะห์คู่ต่อสู้ได้
  • มีเทคนิคการต่อสู้ที่หลากหลาย เช่น การเตะสูง, เตะข้าง หรือการชกแบบหมุนตัว
  • มีความยืดหยุ่น และฟื้นตัวได้เร็ว

บทส่งท้าย คิกบ็อกซิ่ง กฎกติกา

สรุปคิกบ็อกซิ่ง เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่เน้นการใช้หมัด และเท้า ในการโจมตีคู่ต่อสู้ ผู้ชกที่ดีจะต้องมีการเคลื่อนไหว ที่รวดเร็ว และการป้องกันตัวที่ดี คิกบ็อกซิ่งไม่เพียงแต่เป็น ศิลปะการป้องกันตัว แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ให้กับร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยลด ความเครียด และพัฒนาสมาธิอีกด้วย

คิกบ็อกซิ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่รุนแรงหรือไม่?

คิกบ็อกซิ่ง เป็นศิลปะการต่อสู้ ที่มีความรุนแรง ในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีการใช้หมัด และเท้า ในการโจมตีคู่ต่อสู้ แต่ถึงอย่างไรก็สามารถฝึกฝน และแข่งขันอย่างปลอดภัยได้ หากเล่นอยู่ภายใต้กติกา และการควบคุม ของครูผู้ฝึก คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬา ที่ต้องอาศัยทักษะหลายด้าน และมีความคล่องแคล่ว ในการโจมตี และป้องกันตัว โดยการตัดสินผลแพ้ – ชนะ จะมาจากคะแนน หรือ การน็อกเอาท์ ที่ปลอดภัย

คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬา ที่เหมาะสำหรับใครบ้าง?

คิกบ็อกซิ่งเป็นกีฬา ที่เหมาะสำหรับทุกคน ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรง ของร่างกาย และพัฒนาทักษะการป้องกันตัว โดยเฉพาะผู้ที่สนใจออกกำลังกาย ที่ท้าทาย สามารถฝึกฝนได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ที่สำคัญยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการ เผาผลาญแคลอรี และเสริมสร้างความมั่นใจ ในตัวเองด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง