จำปาทอง คือ ดอกจำปา ที่นับว่าเป็น ดอกไม้ไทย โบราณชนิดหนึ่ง มีรูปลักษณ์ และกลิ่นอันหอม ละมุน
เป็นต้นไม้ที่มี สรรพคุณทางยา ในตัวเองสูงมาก ส่วนเรื่องเครื่องหอมนั้น ก็นำมาทำเป็น น้ำปรุงได้กลิ่นที่ดีงามแท้ๆ หรือจะเป็นน้ำอบก็ได้ กลิ่นที่เป็นอัตลักษณ์เช่นกัน
จำปาทองหรือ จำปาดอง เป็นเครื่องพุทธบูชา เทวดาบูชา ที่สวยสดงดงามมาก คือภูมิปัญญาของเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ สดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ของคนในยุคสมัยก่อน เป็นการรักษาสภาพ ของดอกจำปา ไว้ได้นานหลาย 10 ปีโดยไม่เน่าเปื่อย หรือเหี่ยวเฉาไป ตามกาลเวลา มีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพร [1]
อ่าน สรรพคุณของต้นจำปา เพิ่มเติมได้ที่นี่ Kaset
เล่ากันว่าศาสตร์ ด้านที่เเพร่ออกมา จากพระบรมมหาราชวัง คงเป็นที่นิยม ของชาววังในขณะนั้น ส่วนใครเป็นผู้ริเริ่มนั้น เราไม่ขอกล่าวถึง เพราะว่าเกิดไม่ทัน ในสมัยนั้น แต่คุณครูผู้ประสิทธิ์ ประสาทความรู้ ในศาสตร์นี้กล่าวว่า มีคนไทยไปเที่ยว ที่เมืองพม่า แล้วพม่าก็มีจำปาทองเหมือนกัน ดองใส่ขวดเล็กๆ ขาย เป็นที่ระลึก
ซึ่งเป็นเวลา ที่เหมาะเจาะพอดี ที่ จำปาทอง เริ่มแพร่หลาย ทางเมืองล้านนานั้น จะนิยมนำดอกจำปา ไปล้าง กับน้ำส้มป่อย มีวิธีทำที่เป็นเอกลักษณ์ มีจำปาทองอยู่ขวดนึง อายุประมาณ 100 ปีได้ จึงเป็นการยืนยัน ได้ว่าจำปาดองหรือ จำปาทองเนี่ยเป็น เครื่องบูชา ที่มีอายุยืนยาวนาน ได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ในอดีตถือกันว่า จำปา เป็นดอกไม้ชั้นสูง หรือเป็นดอกไม้ครู ของเหล่าเจ้านายในวัง ดังจะเห็นได้จากจะมี การนำดอกจำปา มาทัดหูหัวโขน หรือนำไปทำเครื่องแขวน และเมื่อนำมาดองแล้ว จะมีสีเหลืองทอง งดงามดั่ง อำพันเลยมีความเชื่อว่า ถ้านำไปสักการะ เป็นพุทธบูชาแล้ว จะเจริญด้วย ศิริโภคทรัพย์สมบัติ อันเป็นนิรันดร์” [2]
จำปาดอง วัตถุดิบที่ใช้ ก็มีเพียงแค่ น้ำฝน ที่สะอาดสะอ้าน ไร้สารพิษ สารเคมี ห้ามใช้น้ำประปา ที่มีคลอรีน เพราะจะใช้การไม่ได้ ต้องใช้น้ำดื่ม ที่สะอาดเท่านั้น สุดท้ายคือ สารส้ม แต่ไม่ใช่ สารส้มที่ไว้สำหรับ ถูรักแร้นะ เป็นสารส้มที่ใช้ในครัวเรือน ที่มีขายกันทั่วไป ใช้สัก 1 ห่อก็ประมาณ ครึ่งกิโล เพียงเท่านี้
ที่มา: จำปาดอง [3]
สรุป เป็นการถนอมดอกไม้ เอาไว้ให้คงทนถาวร สามารถนำเอาออก มาใช้ประดับใน ที่ต่างๆได้ในยามที่ไม่ใช่หน้า เช่นตั้งบูชา พระพุทธรูป หรือ ประดับโต๊ะหมู่ และสถานที่อันบังควร อย่างที่เคยบอก จำปานั้นเป็นดอกไม้ ที่แสดงถึงความสูงส่ง เป็นมงคล เมื่อดองไปสักสองสามวัน น้ำในชวดที่ดอง ก็จะกลายเป็น สีเหลืองทอง อำพันอร่าม งดงามไม่มีคำบรรยาย