ตะลิงปลิง สรรพคุณดีๆ ที่มาพร้อมกับความเปรี้ยว

OTP
25 ก.ค. 24
14:05
47 views

ตะลิงปลิง สายรับประทานเปรี้ยว หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดี กับผลไม้ชนิดนี้ ที่มีเนื้อฉ่ำน้ำ และ มีรสเปรี้ยว เรามักจะนิยมนำผลตะลิงปลิงมากินสด ๆ จิ้มกินกับน้ำพริกต่าง ๆ หรือนำมาต้มดื่ม และนำมาคั้นน้ำไว้ปรุงรสเปรี้ยวในอาหาร รู้หรือไม่ว่านอกจากความเปรี้ยวจี๊ดแล้ว สรรพคุณทางยาก็มีดี ถึงใจเช่นกัน

ข้อมูลแนะนำ ตะลิงปลิง

ชื่อ: ตะลิงปลิง
ชื่อสามัญ: Bilimbi, Bilimbing, Cucumber tree, Tree sorrel
ชื่อวิทยาศาสตร์: Averrhoa bilimbi L.
ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ: มูงมัง (เกาะสมุย), กะลิงปริง ลิงปลิง ลิงปลิง ปลีมิง (ระนอง), บลีมิง (นราธิวาส), มะเฟืองตรน, หลิงปลิง (ภาคใต้) เป็นต้น
วงศ์: Oxalidaceae (วงศ์เดียวกับ มะเฟือง )
ถิ่นกำเนิด: หมู่เกาะมาลูกู ในประเทศอินโดนีเซีย
ปัจจุบันเป็นพืชประจำถิ่น: ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เอเชียใต้, ทวีปอเมริกากลาง, ทวีปอเมริกาใต้, ประเทศแทนซาเนีย, ประเทศออสเตรเลีย และจาเมกา

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นตะลิงปลิง

ลำต้น: ไม้ต้นทรงพุ่ม สูงได้ถึง 15 เมตร
ใบ: เป็นใบประกอบแบบขนนก ยาว 20 – 60 ซม. ออกสลับ ใบย่อย 25-35 ใบ รูปขอบขนาน แกมรูปหอก กว้างประมาณ 5.5 ซม. ยาวประมาณ 12 ซม. ปลายแหลม โคนสอบ มีขนนุ่ม
ดอก: สีแดงอมม่วง กลางดอกมีสีนวล กลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นช่อสั้นตามโคนต้นและกิ่งแก่ กลีบดอก 5 กลีบ เมื่อบานขนาดผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. เกสรผู้ 10 อัน สั้น 5 อัน ยาว 5 อัน อยู่สลับกัน
ผล: ผลรูปป้อมรี ผิวเกลี้ยง กว้าง 2-5 ซม. ยาว 4-10 ซม. เป็นพูตื้นๆ 4 พู ปลายแหลม โคนมน เมื่อสุกสีเขียวอมเหลือง มีรสเปรี้ยว

ที่มา: ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ตะลิงปลิง [1]

สรรพคุณทางยาสมุนไพร เปรี้ยวจี๊ด

ผล: ช่วยทำให้เจริญอาหาร, ผลใช้ผสมกับพริกไทย นำมารับประทานจะช่วยขับเหงื่อได้, ช่วยฟอกโลหิต, ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน, เป็นยาลดไข้, ช่วยละลายเสมหะ, แก้เสมหะเหนียวข้น, ใช้เป็นยาบำรุงแก้อาการปวดมดลูก, น้ำตะลิงปลิงมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้ดี
ดอก: นำมาชงเป็นชา สรรพคุณแก้ไอ
ราก: ช่วยแก้พิษร้อนใน แก้กระหายน้ำ, ช่วยดับพิษร้อนของไข้, ช่วยแก้อาการเลือดออกตามกระเพาะอาหารและลำไส้, ช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์
ผล และราก: ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร, ช่วยบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร, ใช้เป็นยาบำรุงแก้อาการปวดมดลูก, ช่วยฝาดสมาน
ใบ: ใช้รักษาโรครูมาตอยด์, ช่วยรักษาอาการอักเสบ, ช่วยแก้ไขข้ออักเสบ (ใบ, ราก), ใช้พอกแก้อาการคัน ลดอาการบวมแดงให้หายเร็วขึ้น หรือใช้ต้มอาบก็ได้ (ใบ, ราก), ใบสามารถนำมาพอก ใช้รักษาสิวได้ (ใบ, ราก)
ใช้ใบต้มดื่ม,ราก: ช่วยรักษาอาการอักเสบของลำไส้, ช่วยรักษาซิฟิลิส (Syphilis)

ที่มา: สรรพคุณของตะลิงปลิง [2]

น้ำตะลิงปลิง ลองทำได้ ไม่ยากเลย

วิธีการทำน้ำตะลิงปลิงง่ายๆ ดังนี้

นำ ตะลิงปลิง ประมาณครึ่งกิโลกรัม มาล้างให้สะอาด ตากแห้งเพื่อที่จะสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน ต้มน้ำตาล 2 ถ้วย โดยเติมน้ำประมาณ 3 ถ้วยครึ่ง นำตะลิงปลิงเข้าเครื่องปั่นรวมกับน้ำเชื่อม แต่อย่าให้ล้น ปั่นรวมกัน กรองด้วยผ้าขาวบาง กรองเอาเฉพาะน้ำ นำมาดื่มโดยเติมเกลือ เติมน้ำเปล่า ตามความชอบ

คุณค่าทางโภชนาการของตะลิงปลิง

เฉพาะส่วนที่ทานได้ ต่อ 100 กรัม ได้ดังนี้

โปรตีน 0.61 กรัม
แคโรทีน 0.035 มิลลิกรัม
วิตามินบี 1 0.010 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 0.026 มิลลิกรัม
วิตามินบี 3 0.302 มิลลิกรัม
วิตามินซี 15.5 มิลลิกรัม
ธาตุแคลเซียม 3.4 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก 1.01 มิลลิกรัม
ธาตุฟอสฟอรัส 11.1 มิลลิกรัม

เปรี้ยวแบบนี้ ช่วยขับสารพิษ ก็ได้นะ

ตะลิงปลิง มีคุณสมบัติของพืชที่ล้างพิษ คือ มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้ขับของเสีย ออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะทางรูขุมขน ปัสสาวะ อุจจาระ หรือการอาเจียน รวมถึงช่วยดูดซับสารเคมีที่มีพิษต่างๆ เมื่อนำผลตะลิงปลิงใช้ผสมกับพริกไทย นำมารับประทานมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นขับเหงื่อ ช่วยฟอกโลหิตได้ จัดอยู่ใน “พืชสมุนไพรช่วยขับสารพิษ” อีกชนิดหนึ่ง

โทษของ ตะลิงปลิง

ตะลิงปลิงเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด การทานอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดมากๆ

อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของฟัน ทำให้ฟันกร่อนง่าย
อาจมีอาการท้องร่วง หรือท้องเสียได้
ผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยง เพราะหากร่างกายได้รับกรดออกซาเลตสูง จะเกิดการสะสม และส่งสัญญาณไปกระตุ้นสมอง ทำให้เกิดอาการชักถึงขั้นเสียชีวิต
หากทานมากๆ อาจทำให้เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะรวมถึงอาจเกิดการตกตะกอน จนเข้าไปอุดตันในเนื้อไตและท่อไต ทำให้เป็นโรคไตวาย

การขยายพันธุ์ การปลูก และการดูแลรักษา

ตะลิงปลิงปลูกเลี้ยงง่าย มีวิธีการปลูก และการดูแลง่ายๆ ดังนี้

การขยายพันธุ์: นิยมขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด หรือตอนกิ่ง
การปลูก: ตะลิงปลิงชอบดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี แต่ไม่ทนน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
ระยะเวลาออกดอก ออกผล: ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด จะมีทรงพุ่มสูงใหญ่ และแข็งแรงกว่าต้นที่ได้ตอนกิ่ง แต่จะใช้เวลา 2-3 ปี จึงจะมีดอกมีผล, ต้นจากการตอนกิ่ง จะให้ผลหลังจากการปลูกลงดิน 5-8 เดือน
การดูแล: หลังจากปลูกได้นาน 3-4 เดือนควรหมั่นตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่ม ถ้าไม่ต้องการให้ต้นสูงมาก ก็ตัดส่วนยอดออก เพื่อให้แตกกิ่งข้าง ๆ จะช่วยให้เก็บผลได้ง่าย ควรใส่ปุ๋ยคอกสลับกับปุ๋ยเคมีบ้างทุก 3 เดือน

ที่มา: วิธีการปลูกตะลิงปลิงให้ได้ผลดี [3]

สรุป ตะลิงปลิง เปรี้ยวแต่ดี

สรุป ตะลิงปลิง สามารถนำมารับประทาน ทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู แม้ว่าสรรพคุณทางยาสมุนไพรมากมาย แต่เวลาทาน ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม สามารถช่วยขับสารพิษได้ ไม่ควรรับประทานเป็นน้ำปั่น เพราะอาจกินตะลิงปลิง เกินพอดีได้ โดยคนทั่วไปสามารถรับประทานได้ตามปกติ สำหรับผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรรับประทาน