
บัญชีม้า ธนาคารตรวจสอบยังไง วิธีดู
- OTP
- 29 views

บัญชีม้า ธนาคารตรวจสอบยังไง ? บทความนี้ จะพาคุณไปทำความเข้าใจ วิธีที่ธนาคารตรวจสอบบัญชีม้า ตั้งแต่ระบบ Transaction Monitoring, ขั้นตอน KYC ไปจนถึงการทำงานร่วมกับ ปปง. และตำรวจ นอกจากนี้ยังมี สัญญาณเตือนบัญชีเสี่ยง, ความต่างระหว่าง “บัญชีต้องสงสัย” กับ “บัญชีม้า”, ผลทางกฎหมายหากเผลอให้คนอื่นใช้บัญชี รวมถึง แนวทางป้องกันตัว
- ขั้นตอนที่ธนาคารใช้ตรวจสอบบัญชีม้า
- สัญญาณเตือนบัญชีเสี่ยงเป็นบัญชีม้า
- วิธีแยกบัญชีต้องสงสัย vs บัญชีม้า
- ผลทางกฎหมายหากเผลอให้คนอื่นใช้บัญชี และแนวทางป้องกัน
ขั้นตอนที่ธนาคารใช้ตรวจสอบบัญชีม้า
บัญชีม้า เป็นหนึ่งในปัญหาที่ธนาคารให้ความสำคัญมาก เพราะมักถูกใช้ฟอกเงิน หรือทำธุรกรรมผิดกฎหมาย แล้วธนาคารตรวจสอบอย่างไรบ้าง? มาดูกัน
- Transaction Monitoring จับตาความผิดปกติ ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ จะถูกตรวจสอบแบบเรียลไทม์ หากพบการโอนเงินที่มีจำนวนมากผิดปกติ หรือมีรูปแบบซ้ำ ๆ ที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของเจ้าของบัญชี ระบบจะแจ้งเตือน ให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเพิ่มเติม
- KYC (Know Your Customer) ธนาคาร ต้องรู้จักลูกค้าของตัวเองให้ดีตั้งแต่เปิดบัญชี มีการตรวจสอบบัตรประชาชน ข้อมูลส่วนตัว อาชีพ รายได้ เพื่อให้รู้ว่าบัญชีนั้น ๆ ควรมีพฤติกรรมการใช้เงินแบบไหน ถ้าเจอธุรกรรมที่ไม่สัมพันธ์กับข้อมูลเดิม จะถูกตั้งข้อสังเกตทันที
- ทำงานร่วมกับ ปปง. และหน่วยงานรัฐ เมื่อมีเคสที่เข้าข่ายผิดปกติรุนแรง ธนาคารจะรายงานไปยัง ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) เพื่อสืบต่อ และหากจำเป็น ก็จะประสานงานกับตำรวจ หรือหน่วยงานอื่น เพื่ออายัดบัญชี
สัญญาณเตือนบัญชีเสี่ยงเป็นบัญชีม้า
- เงินเข้า-ออกถี่มากโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน เช่น มีการรับโอน และโอนออกหลายครั้งในแต่ละวัน หรือมีการเคลื่อนย้ายเงินไปมาหลายบัญชีในเวลาสั้น ๆ ซึ่งไม่สอดคล้องกับประวัติการใช้งานบัญชีปกติ
- ยอดเงินไม่สัมพันธ์กับรายได้หรือการใช้ชีวิตของเจ้าของบัญชี ถ้าเจ้าของบัญชี ประกาศว่ามีรายได้จำกัด แต่บัญชีมีรายรับหรือโอนเงินเข้าเป็นจำนวนมากบ่อยครั้ง โดยไม่มีหลักฐาน หรือกิจกรรมที่อธิบายได้ว่าเป็นเงินได้ถูกต้อง นั่นอาจเป็นสัญญา
- รับโอนจากคนไม่รู้จักหลายคน ถ้าพบว่าเงินถูกโอนไปให้ หรือได้รับโอนจากบัญชี ที่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อน หรือมีผู้โอนมาหลากหลายแหล่ง โดยไม่มีเหตุผลทางธุรกิจหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ชัดเจน นี่เป็นอีกสัญญาณที่น่าสงสัย
- มีการโอนเงินเข้าออกด้วยมูลค่าที่เปลี่ยนแปลงมากโดยไม่สัมพันธ์กับรูปแบบการใช้บัญชีเดิม เช่น บัญชีที่ปกติใช้รับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่แล้วอยู่ ๆ มีเงินเข้าเป็นก้อนใหญ่ หรือโอนออกหลายหมื่นหลายแสน อย่างรวดเร็ว
ที่มา: รู้ทันกลโกง “บัญชีม้า” วิธีรับมือ เมื่อตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกเปิดบัญชี-โอนเงิน ทำอย่างไร (23 กุมภาพันธ์ 2025) [1]
บัญชีต้องสงสัย vs บัญชีม้า ธนาคารแยกยังไง
บัญชีต้องสงสัย (Suspicious Account)
เป็นบัญชีที่แสดงพฤติกรรมการเงินผิดปกติ เช่น เงินเข้าออกถี่มากผิดปกติ, ยอดเงินไม่สัมพันธ์กับรายได้, รับโอนจากหลายบัญชีที่ไม่รู้จัก ฯลฯ ระบบของธนาคารจะ “ตั้งธง” ไว้ก่อน แล้วส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม อาจมีการโทรหาลูกค้าเพื่อยืนยันธุรกรรม หรือขอเอกสารยืนยันรายได้ ขั้นตอนนี้ยังไม่ถือว่าลูกค้าผิด
บัญชีม้า (Mule Account)
คือบัญชีที่ผ่านการสืบสวนแล้ว และมีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่น ถูกใช้รับเงินจากมิจฉาชีพ โอนเงินไปบัญชีอื่นเพื่อฟอกเงิน หรือเจ้าของบัญชีรับจ้างเปิดบัญชี เมื่อยืนยันแล้ว ธนาคารจะอายัดเงิน แจ้ง ปปง. และประสานงานกับตำรวจเพื่อดำเนินคดี
ถ้าเผลอให้คนอื่นใช้บัญชีจะเกิดอะไรขึ้น
หลายคนอาจคิดว่าให้ยืมบัญชีไม่เป็นไร แต่จริง ๆ เสี่ยงหนักมาก ทั้งทางกฎหมาย และเรื่องประวัติการเงิน
ผลทางกฎหมาย
ตั้งแต่มี พ.ร.ก.ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 หากรู้หรือควรจะรู้ว่าบัญชีจะถูกใช้ทำผิดกฎหมาย อาจโดนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และธนาคารมีสิทธิ์อายัดบัญชีทันที อ่านเพิ่มเติม: บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี
ผลกระทบอื่น ๆ
- ประวัติจะถูกบันทึกในระบบเครดิตบูโร ส่งผลต่อการกู้ยืม
- เสี่ยงถูกขึ้นแบล็กลิสต์ของธนาคาร ทำให้เปิดบัญชีใหม่ยาก
- อาจถูกฟ้องทางแพ่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย หากบัญชีถูกใช้โกงผู้อื่น
ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่าเฉพาะ 3 เดือนแรกปี 2568 มีบัญชีม้าถูกระงับกว่า 130,000 บัญชี และมีผู้ถูกดำเนินคดีกว่า 800 คน (15 เมษายน 2025) [2]
วิธีป้องกัน ไม่ให้บัญชีของเรากลายเป็นบัญชีม้า

ปัญหาบัญชีม้ายังรุนแรง ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าในปี 2567 มีการอายัดบัญชีที่เข้าข่ายบัญชีม้ากว่า 130,000 บัญชี ภายในเวลาเพียง 3 เดือนแรก หรือคิดเป็นกว่า 10% ของบัญชีที่ถูกตรวจสอบทั้งหมด แปลว่าความเสี่ยงอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
- ไม่ให้คนอื่นยืมบัญชีหรือสมุดบัญชี: กว่า 70% ของคดีบัญชีม้า เริ่มจากเจ้าของบัญชีให้ยืมหรือไม่ดูแลบัญชีตัวเอง ทำให้ถูกมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางรับเงิน
- ไม่รับจ้างเปิดบัญชี: สถิติจากสมาคมธนาคารไทยระบุว่าผู้ที่ยอมเปิดบัญชีให้คนอื่นใช้มีโอกาสถูกอายัดบัญชีและถูกดำเนินคดีสูงกว่า 80% ของเคสที่สืบสวนจนเสร็จสิ้น
- ระวังการสมัครงานหรือกู้เงินที่ดูน่าสงสัย: งานออนไลน์ที่ให้เปิดบัญชีใหม่เพื่อโอนเงิน มักเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหลอกลวง คิดเสมอว่าถ้ามีการขอข้อมูลบัญชี หรือรหัส OTP มีโอกาสเสี่ยงมากกว่า 90% ที่เป็นมิจฉาชีพ
ธนาคารและภาครัฐทำงานร่วมกันอย่างไรในการจัดการบัญชีม้า
- แลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีต้องสงสัย (CFR) ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2567 ทุกธนาคารต้องส่งข้อมูลบัญชีเสี่ยงเข้าสู่ระบบ Central Fraud Registry เพื่อให้ธนาคารอื่นระวังและป้องกันการทำธุรกรรมต่อเนื่อง (2 กันยายน 2024) [3]
- การทำงานของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ AOC 1441 และ บช.สอท. รับแจ้งเหตุและสืบสวนร่วมกับ ปปง. และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเร่งระงับบัญชีม้า
- ช่องทางแจ้งเบาะแส ประชาชนแจ้งเหตุได้ผ่านสายด่วน 1441 หรือเว็บไซต์ com เพื่อให้ธนาคารและหน่วยงานรัฐอายัดบัญชีตาม พ.ร.ก. ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566
สรุปส่งท้าย บัญชีม้า ธนาคารตรวจสอบยังไง ?
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณจะเห็นภาพชัดแล้วว่า บัญชีม้า ธนาคารตรวจสอบยังไง โดยธนาคารมีทั้งระบบตรวจสอบธุรกรรมแบบเรียลไทม์ ขั้นตอน KYC การทำงานร่วมกับ ปปง. และหน่วยงานรัฐ เพื่อหยุดบัญชีม้าให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันเราก็มีบทบาทสำคัญในการป้องกันตัวเอง ไม่ให้บัญชีถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
ถ้าถูกอายัดบัญชีผิดพลาด ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ต้องทำอย่างไร?
ให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีทันที พร้อมเตรียมหลักฐานยืนยันตัวตนและแหล่งที่มาของเงิน เช่น สลิปโอนเงิน สัญญาซื้อขาย เอกสารรายได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปลดอายัดบัญชีโดยเร็ว หากจำเป็นอาจยื่นเรื่องกับ ปปง. หรือแจ้งความ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์
หากคุณเพิ่งรู้ว่าถูกใช้เป็นบัญชีม้าโดยไม่ตั้งใจ ควรทำอย่างไร?
ควรรีบแจ้งธนาคาร และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (AOC 1441) เพื่อหยุดการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย และเก็บหลักฐานว่า ตนไม่ได้มีส่วนร่วมโดยสมัครใจ เช่น ข้อความแชท หรือหลักฐานที่ถูกหลอกให้เปิดบัญชี เพื่อใช้ประกอบการสืบสวน และลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
- Tags: ความรู้ทั่วไป

แหล่งอ้างอิง


