
บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี รวมข้อมูลล่าสุด และวิธีป้องกัน
- OTP
- 14 views

บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี ? ปัญหา “บัญชีม้า” กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสังคม เพราะเป็นช่องทางหลักที่มิจฉาชีพ ใช้รับเงินจากการหลอกลวงออนไลน์ บทความนี้ เราจะพาคุณมาดูว่า บัญชีม้าคืออะไร ทำไมถึงโดนแบน, ระยะเวลาที่อาจถูกแบนกี่ปี, ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง ฯลฯ เพื่อให้คุณปกป้องตัวเองและใช้บัญชีอย่างปลอดภัย
- บัญชีม้าคืออะไร? เพราะอะไรถึงโดนแบน
- รวมข้อมูลล่าสุดทุกธนาคาร บัญชีม้าโดนแบนกี่ปี
- ผลกระทบหลังโดนแบนบัญชี และวิธีตรวจสอบว่าถูกแบนบัญชีหรือไม่
- เคสตัวอย่าง และวิธีป้องกัน
บัญชีม้าคืออะไร? โดนแบนเพราะอะไร
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “บัญชีม้า” แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร จริง ๆ แล้วบัญชีม้า ก็คือบัญชีธนาคารของคนทั่วไป ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำผิดกฎหมาย เช่น ใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงออนไลน์ การพนัน หรือฟอกเงิน
ปัญหาคือ เจ้าของบัญชีบางคน อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ แค่ให้คนอื่นยืมบัญชี หรือเชื่อคำชวนในงานออนไลน์ที่ดูง่าย ๆ อย่าง “รับจ้างเปิดบัญชี” ก็เสี่ยงทันที เพราะถ้าเงินที่หมุนผ่านบัญชีนั้น มาจากการโกง ธนาคารจะสืบเจอและอายัดบัญชีทันที
เมื่อถูกตรวจสอบ และยืนยันว่าเป็นบัญชีม้า ผลที่ตามมาคือบัญชีจะถูกแบน ใช้งานไม่ได้ และมีสิทธิ์โดนขึ้นแบล็กลิสต์หลายปี หากถามว่า โดนบัญชีม้า เปิดบัญชีใหม่ได้ไหม อาจทำได้ยากหรือแทบไม่ได้เลย รวมถึงอาจต้องเจอคดีอาญา ถึงขั้นจำคุกหรือต้องไปสู้คดีในศาล
บัญชีม้าโดนแบนกี่ปี ? รวมข้อมูลล่าสุดทุกธนาคาร
เรื่องบัญชีม้า ยังเป็นปัญหาใหญ่ในปี 2568 เพราะใช้เป็นเครื่องมือหลักในการหลอกโอนเงิน และฟอกเงิน หน่วยงานรัฐและธนาคาร จึงเข้มงวดมาก ใครที่บัญชีถูกใช้ในทางผิดกฎหมายจะถูก “ระงับบัญชี” ทันที และในหลายกรณี ถูกขึ้นแบล็กลิสต์ทำให้เปิดบัญชีใหม่ได้ยาก
แต่ถ้าถามว่า “โดนแบนกี่ปี” ปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขตายตัวแบบ 3 ปีหรือ 5 ปีสำหรับทุกธนาคาร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร และข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ บางกรณีอาจแบนถาวรไม่ให้เปิดบัญชีอีก
ที่ชัดเจนคือ ด้านกฎหมาย พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 กำหนดโทษสำหรับผู้ที่ให้ยืมบัญชี หรือเปิดบัญชีม้า มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่เป็นคนจัดหา หรือโฆษณาให้เปิดบัญชีม้า โทษหนักขึ้นเป็นจำคุก 2-5 ปี หรือปรับ 200,000-500,000 บาท
ที่มา: กฎหมายน่ารู้ ตอนที่ 437 : บัญชีม้า ซิมม้า โทษหนัก ทั้งปรับ-จำคุก (14 มิถุนายน 2023) [1]
ผลกระทบหลังโดนแบนบัญชี มีมากกว่าที่คิด
เมื่อบัญชีถูกระบุว่าเป็นบัญชีม้า ผลกระทบไม่ได้จบแค่ “ใช้งานบัญชีไม่ได้ชั่วคราว” เท่านั้น มีผลลัพธ์หลายอย่างที่เจ้าของบัญชีอาจเจอ และบางครั้งร้ายแรงกว่าที่คิด
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
- ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่: ณ วันที่ 7 กันยายน 2567 มีบัญชีม้าถูกระงับกว่า 15,000 ราย และเจ้าของบัญชี ถูกห้ามเปิดบัญชีใหม่ จนกว่าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์
- ประวัติการเงินเสียหาย: แม้เครดิตบูโรจะไม่ตั้งแบล็กลิสต์ แต่ประวัติการถูกระงับบัญชี ทำให้ขอสินเชื่อยาก ความน่าเชื่อถือลดลง
- ทำธุรกรรมออนไลน์ไม่ได้: หลายคนถูกระงับ e-banking และโอนเงินออนไลน์ชั่วคราว หลังระบบตรวจพบเส้นทางเงิน ที่เชื่อมโยงกับบัญชีม้า
- เสี่ยงคดีอาญา: หากพบว่าให้เช่าหรือยืมบัญชี อาจโดนโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตัวเลขที่น่าสังเกต
- กว่า 15,000 ราย ของบัญชีที่ถูกระงับ / ไม่อนุญาตให้เปิดใหม่ ณ เดือนกันยายน 2567
- “เกือบ 200,000 บัญชี” ถูกอายัดว่าอาจเป็นบัญชีม้า ตามรายงานของ ธปท. เมื่อกลางปี 2567 (13 มิถุนายน 2024) [2]
- จำนวนเงินความเสียหายจากการใช้บัญชีม้าในช่วงหลายปีอยู่ที่กว่า 63,000 ล้านบาท
วิธีตรวจสอบว่าถูกแบนบัญชีหรือไม่
หลายคน กังวลว่าบัญชีตัวเองอาจโดนแบนเพราะเคยให้ใครยืมบัญชี หรือเกี่ยวข้องกับการโอนเงินที่น่าสงสัย ข่าวดีคือคุณสามารถตรวจสอบได้เองง่าย ๆ
- โทร Call Center ธนาคาร: วิธีเร็วที่สุดคือโทรไปที่ Call Center ของธนาคาร แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบสถานะบัญชี จะรู้ทันทีว่าบัญชีถูกอายัด หรืออยู่ในรายการต้องสงสัยหรือไม่
- ตรวจเครดิตบูโร: แม้เครดิตบูโรจะไม่ระบุว่า “บัญชีม้า” โดยตรง แต่รายงานจะบอกสถานะบัญชีสินเชื่อและการปิด/ระงับที่ผิดปกติ ถ้าเจออะไรแปลก ควรรีบติดต่อธนาคาร
- ไปสอบถามที่สาขาโดยตรง: หากไม่มั่นใจ ลองไปธนาคารพร้อมบัตรประชาชน ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติการเปิดบัญชี และสอบถามว่ามีการขึ้นแบล็กลิสต์หรือไม่
เคสตัวอย่าง : เผลอให้ยืมบัญชี สุดท้ายโดนแบน 5 ปี
คุณเอ (สมมติ) เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา วันหนึ่งมีเพื่อนชวนให้ยืมบัญชีเพื่อรับเงินค่าของ บอกว่าจะโอนให้แค่ครั้งเดียว คุณเอเห็นว่าไม่เสียหายก็เลยให้ยืม ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ธนาคารโทรมาแจ้งว่าบัญชีของคุณเอถูกอายัด เพราะเงินที่โอนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงออนไลน์ คุณเอต้องไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ และแม้จะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่บัญชีถูกแบนยาว 5 ปี ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้
ผลที่ตามมาคือการทำธุรกรรมออนไลน์ลำบากมาก ต้องพึ่งบัญชีคนอื่น แถมเวลาขอสินเชื่อก็ถูกปฏิเสธทันที เพราะประวัติไม่สะอาด สถิติจากสมาคมธนาคารไทยระบุว่า กว่า 70% ของบัญชีม้าที่ถูกอายัด มาจากเจ้าของบัญชีที่ “ให้ยืมบัญชีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์”
บทเรียน: อย่าให้ใครยืมบัญชีเด็ดขาด แม้จะเป็นเพื่อนหรือคนรู้จัก เพราะผลกระทบอาจตามมาหลายปีและกระทบชีวิตการเงินแบบไม่คุ้มเสี่ยง
วิธีป้องกันไม่ให้บัญชีถูกแบน

การป้องกันดีที่สุดคือไม่เปิดช่องให้บัญชีของเรากลายเป็นบัญชีม้า เพราะถ้าถูกแบนแล้วอาจใช้เวลาหลายปีในการเคลียร์ปัญหา ลองทำตามวิธีเหล่านี้
- ไม่ให้ใครยืมบัญชีเด็ดขาด: กว่า 70% ของเคสบัญชีม้าที่ถูกอายัด มาจากเจ้าของบัญชีที่ให้คนอื่นยืมโดยไม่รู้ตัวว่าเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงิน
- ตรวจสอบงานออนไลน์ก่อนโอนเงิน: งานที่ให้เปิดบัญชีเพื่อรับเงิน หรือโอนเงินต่อ มักเสี่ยงสูง ตรวจสอบแหล่งที่มาให้ชัดเจนก่อนเสมอ
- ใช้บัญชีอย่างระมัดระวัง: ตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย ตรวจสอบรายการเดินบัญชีบ่อย ๆ ถ้าเจอธุรกรรมแปลกรีบแจ้งธนาคารทันที
สรุปสั้น ๆ ป้องกันง่าย ๆ แค่ไม่ให้ใครใช้บัญชีแทน และตรวจสอบทุกครั้งก่อนทำธุรกรรม ลดความเสี่ยงบัญชีถูกแบนไปได้มากกว่า 90%
ที่มา: อย่าโลภ อย่าหลงเชื่อเปิดบัญชีม้า (25 พฤศจิกายน 2024) [3]
บทสรุป บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี ป้องกันไว้ ดีกว่าแก้ทีหลัง
สรุปแล้ว บัญชีม้า โดนแบนกี่ปี เรื่องบัญชีม้าไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะผลกระทบอาจตามหลอกหลอนหลายปี ตั้งแต่บัญชีถูกอายัด เปิดบัญชีใหม่ไม่ได้ ทำธุรกรรมลำบาก ไปจนถึงเสี่ยงคดีอาญา บทเรียนสำคัญคืออย่าให้ใครยืมบัญชี แม้จะเป็นเพื่อนหรือคนใกล้ตัวก็ตาม และควรตรวจสอบทุกครั้งก่อนทำธุรกรรมหรืองานออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงิน
ถ้าถูกแบนบัญชีม้าในธนาคารหนึ่ง จะเปิดบัญชีที่ธนาคารอื่นได้ไหม?
ส่วนใหญ่ถ้าถูกขึ้นแบล็กลิสต์ในระบบกลาง (NDID หรือข้อมูลที่ธนาคารแชร์กัน) จะมีผลกับทุกธนาคาร ทำให้เปิดบัญชีที่ธนาคารอื่นได้ยาก หรือแทบไม่ได้เลย จนกว่าจะเคลียร์ประวัติเรียบร้อย
หากถูกแบนเพราะโดนหลอกให้เปิดบัญชี สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ไหม?
ทำได้ โดยนำหลักฐาน เช่น ข้อความแชท เอกสารการโอนเงิน หรือหลักฐานที่พิสูจน์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง ไปยื่นต่อธนาคารหรือแจ้งความกับตำรวจ เพื่อขอให้ปลดอายัดบัญชีหรือปรับสถานะ
- Tags: ความรู้ทั่วไป

แหล่งอ้างอิง


