
ประโยชน์ของ เลมอน และเคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่คุณควรรู้
- OTP
- 16 views

ประโยชน์ของ เลมอน ผลไม้รสเปรี้ยวสีเหลืองสด ที่หลายคนคุ้นเคย มีอะไรบ้าง บทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักเลมอนอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจว่าเลมอน ไม่ได้เป็นเพียงผลไม้ธรรมดา แต่เป็น “ผลไม้มหัศจรรย์” ที่ช่วยดูแลร่างกายได้รอบด้าน ไปจนถึงการดื่มน้ำเลมอนตอนเช้า และผลต่อการลดน้ำหนัก พร้อมคำแนะนำการดื่มอย่างถูกวิธี
- ประวัติความเป็นมา ของเลมอน
- ประโยชน์สำหรับสุขภาพด้านต่าง ๆ
- คำแนะนำ การดื่มเลมอนอย่างถูกวิธี
- เลมอนกับการลดน้ำหนัก
ทำความรู้จัก เลมอน
- ชื่อ: เลมอน
- ชื่อสามัญ (Common name): Lemon
- ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Citrus × limon
- วงศ์ (Family): Rutaceae (วงศ์ส้ม)
- ถิ่นกำเนิด: แถบตอนล่างของเทือกเขาหิมาลัย – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย พม่า และจีนตอนใต้ (ถือเป็นลูกผสมระหว่าง Citrus medica และ Citrus × aurantium)
ลักษณะทางกายภาพ ต้นเลมอน
- ลำต้นและกิ่ง: เลมอน เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3–6 เมตร ลำต้นมักมีหนามแหลมสั้น ๆ ตามกิ่ง กิ่งก้านแตกออกค่อนข้างมาก ทำให้ทรงพุ่มค่อนข้างกลม
- ใบ: ใบเลมอน เป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้มเป็นมัน รูปไข่ถึงรูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยเมื่อขยี้ใบ
- ดอก: ดอกเลมอน มีสีขาวอมม่วงอ่อน ออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบ และปลายกิ่ง กลีบดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยดึงดูดแมลงผสมเกสร
- ผล: ผลเลมอน มีรูปทรงรีถึงกลม ปลายผลมักมีติ่งเล็ก ๆ เปลือกบางถึงปานกลาง ผิวเรียบหรือขรุขระเล็กน้อย เมื่อสุกจะมีสีเหลืองสด เนื้อในฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวจัด
- เมล็ด: เมล็ดเลมอน มีรูปร่างรี สีขาวครีม มีหลายเมล็ดในแต่ละผล เมล็ดสามารถเพาะเป็นต้นใหม่ได้ แต่คุณสมบัติของผลอาจแปรผัน เนื่องจากเป็นลูกผสม
ประวัติและที่มาของเลมอน จากอดีตสู่ปัจจุบัน
เลมอน (Citrus × limon) น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากแถบ ตอนล่างของเทือกเขาหิมาลัยของอินเดีย ซึ่งเป็นผลไม้ลูกผสมระหว่าง citron (Citrus medica) กับ sour orange (Citrus × aurantium) ราวปี 200 ค.ศ. เลมอนถูกนำเข้ามาปลูกในอิตาลีใต้แล้วขั้นต้น ผ่านมาหลายศตวรรษ พ่อค้าอาหรับช่วยเผยแพร่เลมอน ไปยังบริเวณเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างปีประมาณ ค.ศ. 1000-1150
ในปี 1747 Dr. James Lind ทำการทดลองบนเรือ HMS Salisbury เพื่อศึกษาว่าเลมอน และผลไม้รสเปรี้ยวสามารถรักษาโรคลักปิดลักเปิด (scurvy) ได้จริงหรือไม่ ผลปรากฏว่าคนที่ได้รับเลมอน และส้มฟื้นตัวเร็วกว่า (26 พฤษภาคม 2010) [1]
ปัจจุบัน เลมอนเป็นทั้งผลไม้ที่ผู้คนนิยมบริโภคเพื่อสุขภาพ เป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และความงาม ส่งผลให้เลมอนไม่ใช่แค่ผลไม้พื้นบ้าน แต่กลายเป็น “ผลไม้มหัศจรรย์” ที่มีบทบาทหลายด้านในชีวิตประจำวัน
ประโยชน์ของเลมอน กับสุขภาพที่คุณอาจไม่เคยรู้

เลมอน ไม่ได้มีดีแค่ความเปรี้ยว แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหาร ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นอย่างน่าทึ่ง หากคุณชอบผลไม้ ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลองอ่านต่อในหัวข้อ Blueberry ประโยชน์คือ ซึ่งเป็นอีกผลไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงสุขภาพ
- แหล่งวิตามินซีชั้นยอด: เลมอน 1 ผลให้วิตามินซีราว 50–60% ของที่ร่างกายต้องการต่อวัน ช่วยสร้างคอลลาเจน และป้องกันอนุมูลอิสระ
- เสริมภูมิคุ้มกัน: วิตามินซี ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว ลดโอกาสติดเชื้อทางเดินหายใจได้ 8–14%
- ป้องกันหวัด: น้ำเลมอนอุ่นช่วยบรรเทาเจ็บคอ และอาจลดระยะเวลาหวัดลงเฉลี่ย 1–1.5 วัน
- ช่วยย่อยและดีท็อกซ์: กระตุ้นน้ำย่อย และ การขับถ่าย บางคนรู้สึกดีขึ้นมากกว่า 70% เมื่อดื่มตอนเช้า
- ลดการอักเสบ: ฟลาโวนอยด์ในเลมอนลดเครื่องหมายการอักเสบได้ถึง 20–30%
- ปรับสมดุล pH: เลมอนให้ผลเป็นด่างหลังเผาผลาญ ช่วยลดกรดไหลย้อนได้ 40–50%
- บำรุงผิว: วิตามินซีช่วยลดริ้วรอย ผู้ที่ได้รับเพียงพอมีโอกาสเกิดรอยเหี่ยวย่นน้อยลง 33%
ดื่มน้ำเลมอนตอนเช้า ดีจริงไหม?
- กระตุ้นระบบย่อยอาหาร: น้ำเลมอนอุ่นช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและตับ ทำให้ร่างกายพร้อมรับอาหารเช้า และบางคนสังเกตว่าช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
- ขับสารพิษ และบำรุงผิว: วิตามินซีในเลมอนช่วยเสริมการทำงานของตับในการกำจัดของเสีย และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ทำให้ผิวดูใสขึ้นเมื่อดื่มเป็นประจำ
- เพิ่มความสดชื่น และพลังงาน: กลิ่นหอมของเลมอนช่วยปลุกสมองให้ตื่น ตัวน้ำอุ่นเองก็ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น หลายคนรู้สึกกระปรี้กระเปร่าในช่วงเช้าเมื่อดื่มก่อนเริ่มวัน
- ข้อควรระวัง: ถึงจะดี แต่เลมอนมีกรดซิตริกที่อาจกัดเคลือบฟันได้ ควรดื่มด้วยหลอด ลดการสัมผัสกับฟัน และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังดื่ม หรือเว้นระยะก่อนแปรงฟันอย่างน้อย 30 นาที
ที่มา: The Benefits of Lemon Water: What’s True and What’s Hype? (25 ตุลาคม 2024) [2]
เลมอนช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
- กลไกการทำงาน: เลมอนอุดมไปด้วยวิตามินซีและกรดซิตริก ที่ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และอาจช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น งานวิจัยบางชิ้นพบว่าวิตามินซีที่เพียงพอ ช่วยให้การเผาผลาญไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- กระตุ้นการเผาผลาญและช่วยให้อิ่มนาน: น้ำเลมอนมีแคลอรีต่ำ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น บางคนดื่มก่อนมื้ออาหารเพื่อลดปริมาณการกินลงโดยไม่รู้ตัว
- เปรียบเทียบกับน้ำเปล่า: การดื่มน้ำเปล่าก็ช่วยเรื่องอิ่มท้อง และเร่งการเผาผลาญได้ แต่เลมอนเพิ่มรสชาติ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเหมาะกับคนที่อยากดื่มน้ำมากขึ้นโดยไม่เพิ่มแคลอรี
- สูตรน้ำเลมอนง่าย ๆ: ผสมน้ำอุ่น 1 แก้วกับน้ำเลมอนครึ่งผล สามารถเติมใบสะระแหน่หรือขิงฝานบาง ๆ เพื่อเพิ่มความหอม ดื่มก่อนอาหารเช้าหรือระหว่างวันก็ได้
ที่มา: Does Lemon Water Help You Lose Weight? (11 มิถุนายน 2017) [3]
บทสรุป ประโยชน์ของ เลมอน ผลไม้เล็กที่พลังไม่เล็ก
โดยสรุปแล้ว ประโยชน์ของ เลมอน เมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่กำเนิดในเทือกเขาหิมาลัย เลมอนเดินทางข้ามเวลา และวัฒนธรรม จนกลายเป็นผลไม้ที่ผู้คนทั่วโลกหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นการใช้รักษาโรคลักปิดลักเปิดในศตวรรษที่ 18 การกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหาร และเครื่องดื่ม ไปจนถึงการดื่มเพื่อสุขภาพ ในยุคปัจจุบัน
น้ำเลมอนควรดื่มกี่แก้วต่อวัน ถึงจะปลอดภัย?
โดยทั่วไป แนะนำดื่มน้ำเลมอน 1–2 แก้วต่อวันก็เพียงพอ สำหรับการได้รับวิตามินซี และกระตุ้นการย่อย ไม่ควรดื่มในปริมาณมากเกินไปทั้งวัน เพราะกรดซิตริก อาจทำให้เคลือบฟันสึก และกระเพาะระคายเคืองได้
เลมอนที่ผ่านการต้ม จะเสียคุณค่าทางโภชนาการหรือไม่?
ความร้อนสูง อาจทำให้วิตามินซีในเลมอนสลายไปบางส่วน จึงควรผสมน้ำเลมอนกับน้ำอุ่น แทนน้ำร้อนจัด เพื่อรักษาสารอาหาร และรสชาติให้ดีที่สุด
- Tags: ผลไม้

แหล่งอ้างอิง


