ผลเสีย ซิงค์ เมื่อร่างกายรับมากเกินความต้องการ

ผลเสีย ซิงค์

ผลเสีย ซิงค์ เป็นหัวข้อที่มักถูกมองข้าม เมื่อพูดถึงการบริโภคแร่ธาตุเพื่อสุขภาพ ในขณะที่ซิงค์หรือสังกะสี มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย เช่นการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ แต่การบริโภคซิงค์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่ผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพได้

ผลเสีย ซิงค์ ทานเสริมในปริมาณมากเกินไป

การบริโภคซิงค์ ในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ท้องเสีย คล้ายกับ ผลเสีย แมกนีเซียม ที่หากทานมากเกิน และอาจลดการดูดซึม ของแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ เช่นทองแดง (Copper) ดังนั้น การบริโภคซิงค์ ควรอยู่ในปริมาณที่แนะนำต่อวัน (RDA)

ซึ่งสำหรับผู้ใหญ่เพศชายคือ 11 มิลลิกรัมต่อวัน และผู้ใหญ่เพศหญิง 8 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรได้รับ 11-12 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับเด็ก ควรบริโภค 2-8 มิลลิกรัมต่อวันขึ้นอยู่กับอายุ

ซิงค์ยังมีจำหน่ายในรูปแบบอาหารเสริมหลายชนิดเช่น Zinc-Citrate, Zinc-Gluconate และ Zinc-Picolinate การเลือกใช้ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพ หรือใช้ยาชนิดอื่นร่วมด้วย

แร่ธาตุซิงค์ (Zinc) คืออะไร

ซิงค์เป็นธาตุที่มีสัญลักษณ์ทางเคมีคือ Zn และหมายเลขอะตอม 30 ในตารางธาตุ ซิงค์บริสุทธิ์เป็นโลหะสีเงิน มีความสำคัญในรูปแบบไอออนซิงค์ (Zn²⁺) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลัก ในกระบวนการทางชีวเคมีต่างๆในร่างกาย โดยพบได้ในปริมาณน้อย แต่จำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ

ซิงค์ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สนับสนุนการเจริญเติบโตของเซลล์ การผลิตโปรตีน การซ่อมแซมเซลล์และมีบทบาทสำคัญต่อระบบเอนไซม์หลายชนิด

คุณประโยชน์ซิงค์ ต่อร่างกาย

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซิงค์ช่วยกระตุ้นการทำงาน ของเซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่นทีเซลล์ (T-cells) ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น และช่วยลดโอกาส ในการติดเชื้อ
  • ช่วยในการรักษาแผล ซิงค์ช่วยเร่งกระบวนการสมานแผล โดยมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการแบ่งตัว และซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง
  • สนับสนุนการเจริญเติบโต และพัฒนาการในเด็ก ซิงค์จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ของร่างกาย รวมถึงการพัฒนาระบบประสาท และสมอง
  • ดูแลสุขภาพผิว ซิงค์ช่วยลดการอักเสบ ของผิวหนัง และลดการเกิดสิว รวมถึงส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • บำรุงสุขภาพเส้นผม และเล็บ ซิงค์มีบทบาทสำคัญ ในการเสริมสร้างความแข็งแรง ของเส้นผม และเล็บ ลดปัญหาผมร่วง และเล็บเปราะ
  • ส่งเสริมการทำงาน ของเอนไซม์ ซิงค์เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ มากกว่า 300 ชนิดในร่างกาย ซึ่งช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร การซ่อมแซม DNA และการผลิตพลังงาน
  • เสริมสมรรถภาพ การสืบพันธุ์ ซิงค์ช่วยเพิ่มคุณภาพของสเปิร์มในผู้ชาย และมีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการผลิตฮอร์โมนเพศ
  • ป้องกันและลดความรุนแรง ของโรคไข้หวัด ซิงค์ช่วยลดระยะเวลา และความรุนแรง ของอาการไข้หวัดได้ เมื่อรับในปริมาณที่เหมาะสม
  • ช่วยในระบบประสาท และสมอง ซิงค์ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง และระบบประสาท เช่นความจำและการเรียนรู้
  • สนับสนุนการมองเห็น ซิงค์ช่วยเสริมการทำงาน ของวิตามินเอ ในกระบวนการมองเห็น และช่วยลดความเสี่ยง ของโรคจอประสาทตาเสื่อม

ที่มา: 44 ประโยชน์ของธาตุสังกะสี [1]

 

กินซิงค์ทุกวันดีหรือไม่

การรับประทานซิงค์ทุกวัน เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม ตามที่ร่างกายต้องการ อย่างไรก็ตาม การบริโภคซิงค์ ในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และท้องเสีย ดังนั้น ควรรับประทานซิงค์ ตามปริมาณที่แนะนำต่อวัน และควรปรึกษาแพทย์ก่อน [2]

ซิงค์ไม่ควรทานคู่กับอาหารอะไร

การรับประทานซิงค์ ควรระมัดระวัง ไม่ทานพร้อมกับอาหารบางชนิด เนื่องจากอาจลดประสิทธิภาพ การดูดซึมของซิงค์ ในร่างกายได้ ดังนี้

  • แอลกอฮอล์: การดื่มแอลกอฮอล์ อาจรบกวนการดูดซึมซิงค์ ทำให้ร่างกาย ได้รับซิงค์ไม่เพียงพอ
  • ยาลดกรด: ยาลดกรดสามารถลดการดูดซึมซิงค์ โดยการทำให้กรดในกระเพาะอาหารเป็นกลาง ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมซิงค์
  • อาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่นผลไม้ ผัก และธัญพืชไม่ขัดสี ไฟเบอร์สามารถจับกับซิงค์ และขัดขวางการดูดซึม เข้าสู่ร่างกายได้
  • แคลเซียม: การรับประทานแคลเซียม พร้อมกับซิงค์ อาจทำให้แร่ธาตุทั้งสอง จับตัวกันในกระเพาะอาหาร ลดการดูดซึมของทั้งคู่
  • ธาตุเหล็ก: ซิงค์และธาตุเหล็ก จะแข่งขันกันในการดูดซึม หากรับประทานพร้อม กันอาจลดประสิทธิภาพ การดูดซึมของทั้งสอง
  • อาหารที่มีทองแดงสูง: เช่นหอย ถั่ว และเมล็ดพืช การรับประทานซิงค์ อาจขัดขวางการดูดซึมทองแดงในร่างกาย
  • อาหารที่มีไฟเตสสูง: เช่นธัญพืช ถั่ว และเมล็ดพืช ไฟเตสสามารถจับกับซิงค์ และลดการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
  • ผักใบเขียวที่มีออกซาเลตสูง: เช่นผักโขม ออกซาเลตสามารถจับกับซิงค์ และป้องกันการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
  • เครื่องดื่มที่มีแทนนิน: เช่นชา และกาแฟ แทนนินจะจับกับซิงค์ ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ยากขึ้น

เพื่อให้ร่างกายได้รับซิงค์ อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทานสังกะสีห่างจากอาหารดังกล่าวอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และหากมีอาการไม่สบาย เมื่อทานซิงค์ตอนท้องว่าง ควรทานพร้อมอาหาร ที่ไม่มีสารที่ขัดขวางการดูดซึม [3]

แหล่งอาหารทั่วไปที่มีซิงค์

อาหารหลายประเภท เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยซิงค์ เช่น

  • อาหารทะเล เช่นหอยนางรม ซึ่งมีปริมาณซิงค์สูงที่สุด
  • เนื้อสัตว์ เช่นเนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อหมู
  • ถั่วและเมล็ดพืช เช่นเมล็ดฟักทอง เมล็ดงา และอัลมอนด์
  • ผลิตภัณฑ์จากนม เช่นนม ชีส และโยเกิร์ต
  • ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่นข้าวโอ๊ต และข้าวกล้อง

สรุป ผลเสีย ซิงค์ ทานมากอาจอาเจียน ปวดหัว

ผลเสียซิงค์ไม่ควรถูกละเลย เนื่องจากการบริโภค ในปริมาณที่เกินความจำ เป็นอาจส่งผลเสีย ต่อร่างกายในระยะยาว เช่นการลดประสิทธิภาพ การทำงานของภูมิคุ้มกัน หรือการรบกวนสมดุลของแร่ธาตุอื่นๆ การใส่ใจและบริโภคซิงค์ ในปริมาณที่เหมาะสม ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากแร่ธาตุนี้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

3