ผลเสีย ซีลีเนียม (Selenium) ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

ผลเสีย ซีลีเนียม

ผลเสีย ซีลีเนียม เป็นประเด็นที่ควรใส่ใจ เนื่องจากแม้ซีลีเนียม จะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่การได้รับในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ความสมดุลในการบริโภค จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในขณะที่ซีลีเนียม ช่วยเสริมสร้างระบบต่างๆในร่างกาย การได้รับเกินขนาด ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

ผลเสีย ซีลีเนียม อันตรายการบริโภคมากเกิน

การบริโภคซีลีเนียมในปริมาณที่มากเกินไป (มากกว่า 400 ไมโครกรัมต่อวัน) อาจทำให้เกิดพิษที่เรียกว่า Selenosis ซึ่งมีอาการดังนี้

  • ลมหายใจมีกลิ่นกระเทียม เกิดจากการสะสมของซีลีเนียมในร่างกาย ทำให้มีการปล่อยสารประกอบซีลีเนียม ในรูปแบบที่มีกลิ่น เหมือนกระเทียม ผ่านลมหายใจ หรือเหงื่อ
  • ผลเสียซีลีเนียมจากการบริโภคมากเกิน จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย เป็นผลจากการที่ซีลีเนียม กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นผลเสียจากการบริโภคมากเกินความต้องการ มีอาการคล้ายกับ ผลเสีย ซิงค์
  • รู้สึกอ่อนเพลีย หรืออ่อนแรง ร่างกายจะตอบสนอง ต่อปริมาณซีลีเนียม ที่มากเกินไป ด้วยการลดการทำงานของเซลล์บางประเภท ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้า
  • ผมร่วง ซีลีเนียมเกินขนาด ทำลายโครงสร้างโปรตีนที่สำคัญในเส้นผม ส่งผลให้ผมเปราะบาง หรือหลุดร่วง
  • เล็บเปราะ หรือหลุดลอก ซีลีเนียมส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเล็บ ทำให้เล็บบาง และแตกง่าย
  • ผิวหนังแดง หรือระคายเคือง ซีลีเนียมที่เกิน อาจกระตุ้นการตอบสนองของผิวหนัง เช่นเกิดผื่นแดง หรือผิวแห้งลอก
  • วิงเวียนศีรษะ การสะสมของซีลีเนียม ในระบบประสาท อาจรบกวนการส่งสัญญาณ ทำให้เกิดอาการมึนงงหรือวิงเวียน
  • ความผิดปกติ ของการตอบสนองทางประสาท ในกรณีที่ได้รับซีลีเนียม ในปริมาณที่สูงมาก อาจส่งผลให้ระบบประสาท ทำงานผิดปกติ เช่นมีอาการชา หรือสูญเสียการควบคุมบางส่วน
  • ความเสียหายต่ออวัยวะภายใน การสะสมของซีลีเนียม ในปริมาณมาก อาจทำให้ตับ ไต หรือหัวใจทำงานผิดปกติ
  • เป็นพิษต่อชีวิต หากได้รับซีลีเนียมในระดับที่สูงเกินไปอย่างเฉียบพลัน (มากกว่า 3,200–6,700 mcg ต่อวัน) อาจทำให้เกิดอาการร้ายแรง เช่นความดันโลหิตลดลง หรือหัวใจล้มเหลว

ธาตุซีลีเนียม (Selenium) คืออะไร

ซีลีเนียม (Selenium) เป็นธาตุเคมี จำเป็นที่ร่างกายต้องการในปริมาณน้อยมาก (Trace Element) โดยมีบทบาทสำคัญ ในการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ รวมถึงการต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน และสนับสนุนการทำงานของระบบฮอร์โมนไทรอยด์ พบได้ในอาหาร เช่นปลา อาหารทะเล เนื้อสัตว์ เมล็ดธัญพืช และไข่

ซีลีเนียมมีสัญลักษณ์ธาตุ Se เลขอะตอม 34 อยู่ในหมู่ 16 ของตารางธาตุ (Chalcogen) และมีเลขมวล 78.96 เป็นธาตุกึ่งโลหะ (Metalloid) ที่มีคุณสมบัติทั้งของโลหะ และอโลหะ ลักษณะปรากฏมีสีเทาเงิน หรือดำ ไม่พบรูปบริสุทธิ์ในธรรมชาติ แต่มักพบในสารประกอบเช่น Selenium Dioxide หรือ Selenite ในทางชีวภาพ

ซีลีเนียมช่วยลดความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระผ่านเอนไซม์ Glutathione Peroxidase กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ในระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยเปลี่ยนฮอร์โมนไทรอยด์ จากรูปแบบไม่ Active (T4) เปลี่ยนเป็น Active (T3) ซึ่งจำเป็นต่อการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย [1]

แร่ธาตุซีลีเนียมมีหน้าที่อะไร

  • ต้านอนุมูลอิสระ ซีลีเนียมเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ Glutathione Peroxidase ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ จากความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งผลดีต่อการลดความเสี่ยง ของโรคเรื้อรัง เช่นโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
  • ส่งเสริมการทำงาน ของภูมิคุ้มกัน ซีลีเนียมช่วยเพิ่มการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว และกระตุ้นการทำงาน ของภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น
  • สนับสนุนการทำงาน ของต่อมไทรอยด์ ซีลีเนียมช่วยเปลี่ยนฮอร์โมนไทรอยด์ จากรูปแบบที่ไม่ทำงาน (T4) ให้เป็นรูปแบบที่ทำงานได้ (T3) ซึ่งจำเป็นสำหรับการควบคุมการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
  • ลดความเสี่ยง ของโรคหัวใจ การบริโภคซีลีเนียมในปริมาณที่เพียงพอ ช่วยลดระดับการอักเสบ และลดความเสี่ยง ของโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • บำรุงสุขภาพผิวพรรณ และเส้นผม ซีลีเนียมช่วยปกป้องผิว จากความเสียหาย ที่เกิดจากแสงแดด และมลภาวะ พร้อมทั้งส่งเสริมการเจริญเติบโต ของเส้นผมและเล็บ

ที่มา: ซีลีเนียม คืออะไร [2]

 

แร่ธาตุซีลีเนียม พบได้ที่ไหน

ผลเสีย ซีลีเนียม

ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุ ที่มีความสำคัญต่อร่างกาย การบริโภคอาหารที่มีซีลีเนียมสูง สามารถช่วยป้องกันการขาดซีลีเนียมได้ ต่อไปนี้คืออาหารที่มีปริมาณซีลีเนียมสูง พร้อมปริมาณที่ได้รับต่อหน่วยบริโภค

  • ถั่วบราซิล: 1 ออนซ์ (6-8 เม็ด) มีซีลีเนียมประมาณ 544 ไมโครกรัม
  • ทูน่าครีบเหลือง: 3 ออนซ์ (85 กรัม) มีซีลีเนียมประมาณ 92 ไมโครกรัม
  • กุ้ง: 3 ออนซ์ (ประมาณ 12 ตัว) มีซีลีเนียมประมาณ 42.1 มคก.
  • เนื้อวัว: 100 กรัม มีซีลีเนียม 36 มคก.
  • เนื้อไก่: 3 ออนซ์ (ประมาณ 85 กรัม) มีซีลีเนียม 22-25 มคก.
  • ไข่ต้ม: 1 ฟอง มีซีลีเนียม 20 microgram
  • ข้าวกล้อง: 1 ถ้วยตวง มีซีลีเนียมประมาณ 19 microgram

ควรระวังการบริโภคซีลีเนียมไม่ให้เกิน 400 microgram ต่อวันเพื่อป้องกันภาวะซีลีเนียมเป็นพิษ

ปริมาณ Selenium กินวันละกี่ไมโครกรัม

ปริมาณซีลีเนียม ที่ร่างกายต้องการ ในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ ดังนี้
เด็กเล็ก (1-3 ปี): 20 ไมโครกรัมต่อวัน

  • เด็ก (4-8 ปี): 30 ไมโครกรัมต่อวัน
  • วัยรุ่น (9-13 ปี): 40 ไมโครกรัม/ต่อวัน
  • วัยรุ่น (14-18 ปี): 55 ไมโครกรัม/ต่อวัน
  • ผู้ใหญ่ (19 ปีขึ้นไป): 55 microgram/ต่อวัน
  • หญิงตั้งครรภ์: เพิ่มอีก 5 microgram/ต่อวัน
  • หญิงให้นมบุตร: เพิ่มอีก 15 mcg. ต่อวัน

ที่มา: Selenium [3]

 

อันตรายจากการขาดซีลีเนียม

การขาดซีลีเนียม อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • โรคไทรอยด์ ทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ ทำงานผิดปกติ
  • ความผิดปกติของหัวใจ เช่นโรค Keshan Disease ซึ่งพบได้ในพื้นที่ ที่ขาดแคลนซีลีเนียม
  • เส้นผมและเล็บเปราะบาง อาจทำให้ผมร่วง และเล็บแตกง่าย

สรุป ผลเสีย ซีลีเนียม กินสมดุล หลีกเลี่ยงภาวะเป็นพิษ

ผลเสีย ซีลีเนียม สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการบริโภคอย่างเหมาะสม และสมดุล เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเป็นพิษ ที่อาจเกิดจากการได้รับในปริมาณมากเกินไป แม้ว่าซีลีเนียมจะมีคุณประโยชน์หลายประการ แต่การดูแลสุขภาพ โดยใส่ใจกับปริมาณการบริโภค เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

43