
ผลเสีย โคบอลต์ ความเสี่ยงการบริโภคเกินจำเป็น
- Fiona
- 37 views

ผลเสีย โคบอลต์ เป็นหัวข้อที่เริ่มถูกพูดถึง ในบริบทของการเสริมอาหาร และโภชนาการมากขึ้น แม้ว่าโคบอลต์จะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็น ในปริมาณเล็กน้อย สำหรับกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง และการทำงานของร่างกาย แต่การได้รับในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่ไม่คาดคิด
ผลเสียโคบอลต์ จากอาหารเสริม ปริมาณมากเกิน
แม้ว่าโคบอลต์ จะเป็นแร่ธาตุ ที่มีบทบาทสำคัญ ในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง และการทำงานของร่างกาย แต่การได้รับในปริมาณที่มากเกินไป จากอาหารเสริม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ มีดังนี้
- ผลเสียโคบอลต์ความเป็นพิษในระบบทางเดินอาหาร การบริโภคโคบอลต์ในปริมาณสูง อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้องได้ จากการระคายเคืองทางเดินอาหาร เป็นอาการคล้ายกับ ผลเสีย ซัลเฟอร์
- ผลกระทบต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือด โคบอลต์ในปริมาณที่มากเกินไป อาจมีผลต่อการทำงานของหัวใจ เช่นการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว หรือความผิดปกติ ในระบบไหลเวียนโลหิต
- ความเสี่ยงต่อการสะสมในร่างกาย การได้รับโคบอลต์ ในระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดการสะสมในอวัยวะต่างๆ เช่นตับ ไต และปอด ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหาย ต่ออวัยวะเหล่านี้
- ผลกระทบต่อการทำงาน ของต่อมไทรอยด์ โคบอลต์ในปริมาณสูง สามารถรบกวนการทำงาน ของต่อมไทรอยด์ อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์
- ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ การได้รับโคบอลต์เกินความจำเป็น อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในปอด หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในกรณีที่มีการสะสม ในเนื้อเยื่อปอด
โคบอลต์ คือธาตุอะไร
ในด้านชีววิทยา โคบอลต์เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่พบในธรรมชาติ และมีความจำเป็นสำหรับมนุษย์ในรูปของ วิตามินบี 12 ซึ่งมีอะตอมของโคบอลต์ เป็นส่วนประกอบ โคบอลต์ในรูปแบบที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของวิตามินจะไม่สามารถนำมาใช้ ในกระบวนการทางชีวภาพ ของมนุษย์ได้
โคบอลต์ (สัญลักษณ์ Co) เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 27 จัดอยู่ในกลุ่มโลหะ Transition มีลักษณะเป็นโลหะสีเทาเงิน แข็งและมันวาว ในธรรมชาติ โคบอลต์มักพบในรูปของสารประกอบเคมี ร่วมกับธาตุอื่นๆ โดยเฉพาะในแร่โคบอลต์ และนิกเกิล [1]
โคบอลต์ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
นอกเหนือจากประโยชน์ต่อร่างกาย โคบอลต์เป็นธาตุโลหะ ที่มีบทบาทสำคัญ ในหลายอุตสาหกรรม มีดังนี้
- การผลิต Lithium ion battery: โคบอลต์ถูกใช้เป็นส่วนประกอบใน Cathode ของแบตเตอรี่ Lithium ion เพื่อเพิ่มความเสถียร และความจุของแบตเตอรี่
- การผลิตแม่เหล็กถาวร: โคบอลต์ถูกผสมกับเหล็ก และนิกเกิล เพื่อสร้างโลหะผสม Alnico ซึ่งมีความแรงแม่เหล็กสูง ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวัด
- การผลิตโลหะ ผสมทนความร้อน: โคบอลต์ถูกใช้ในโลหะผสม ที่ต้องการความทนทาน ต่ออุณหภูมิสูง เช่นในเครื่องยนต์เจ็ท และกังหันก๊าซ
- การใช้ในอุตสาหกรรมเคมี: โคบอลต์ถูกใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ในกระบวนการผลิตปิโตรเคมี และพลาสติก
- การรักษาทางการแพทย์: Cobalt-60 isotope ถูกใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยการฉายรังสี
ที่มา: ข้อเท็จจริงโคบอลต์ [2]
โคบอลต์อันตรายไหม
โคบอลต์ในอาหารที่พบตามธรรมชาติ ไม่เป็นอันตราย หากบริโภคในปริมาณที่ร่างกายต้องการ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของวิตามิน B12 ซึ่งมีความสำคัญต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม การได้รับโคบอลต์ในปริมาณที่เกินความจำเป็น อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ในบางกรณี [3]
โคบอลต์ในอุตสาหกรรม มักอยู่ในรูปแบบของโลหะหนัก หรือสารประกอบทางเคมี เช่นโคบอลต์ออกไซด์ หรือโคบอลต์ซัลเฟต การสัมผัสกับโคบอลต์ในปริมาณสูง หรือเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
ประโยชน์ของธาตุโคบอลต์ต่อร่างกาย
อาการจากการขาดโคบอลต์ในรูปแบบวิตามินบีสิบสอง สามารถนำไปสู่ผลกระทบต่อสุขภาพ เช่นอาการอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้า การทำงานของระบบประสาทผิดปกติ เช่นชาปลายมือปลายเท้า หรือการทรงตัวไม่ดี ปัญหาด้านความจำและสมาธิ ผิวซีดจากภาวะโลหิตจาง ประโยชน์ของโคบอลต์ มีดังนี้
- สนับสนุนการสร้างเม็ดเลือดแดง วิตามินบีสิบสอง ซึ่งมีโคบอลต์เป็นส่วนประกอบสำคัญ มีบทบาทในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง (Anemia) โดยเฉพาะในรูปแบบของ Pernicious Anemia
- ช่วยระบบประสาท โคบอลต์มีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพ ของระบบประสาท ช่วยส่งเสริมการทำงานของปลอกหุ้มเส้นประสาท (Myelin Sheath) ที่ช่วยป้องกันการสื่อสารผิดพลาด ในระบบประสาท
- กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน โคบอลต์เกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน และโปรตีนในร่างกาย ช่วยในกระบวนการผลิตพลังงาน และส่งเสริมการทำงานของเซลล์
- ส่งเสริมสุขภาพกระดูก การได้รับวิตามินบีสิบสอง ในระดับที่เหมาะสม มีความสำคัญต่อการสร้างมวลกระดูก โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน
- ช่วยในกระบวนการสร้าง DNA โคบอลต์ในรูปของวิตามินบีสิบสอง มีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์ DNA ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต และการซ่อมแซมเซลล์
แหล่งที่มาของแร่ธาตุโคบอลต์

แหล่งที่มาของโคบอลต์ มาจากอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีสิบสอง ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่นตับ เนื้อแดง ไข่ และผลิตภัณฑ์นม อาหารทะเล เช่นปลาแซลมอน ปลาทูน่า และหอยนางรม หรือในรูปแบบอาหารเสริมวิตามินบีสิบสอง ในรูปแบบเม็ดหรือฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมสารอาหาร
ปริมาณวิตามินบีสิบสอง ที่แนะนำในแต่ละวันผู้ใหญ่ 2.4 ไมโครกรัม สตรีมีครรภ์: 2.6 ไมโครกรัม สตรีให้นมบุตร: 2.8 ไมโครกรัม โคบอลต์ในรูปแบบธรรมชาติ จากอาหารนั้นปลอดภัย เมื่อบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
สรุป ผลเสีย โคบอลต์ อาจเกิดเมื่อปริมาณสูงเกินจำเป็น
ผลเสียโคบอลต์ในบริบทของการเสริมอาหาร อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการรับปริมาณที่สูงเกินความจำเป็น อันนำไปสู่ความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่นการสะสมในอวัยวะ และการรบกวนกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างรอบคอบ เป็นแนวทางสำคัญ ในการป้องกันผลกระทบเหล่านี้
- Tags: สุขภาพ


