
พญาสัตบรรณ ต้นไม้มงคล ส่งเสริมเกียรติยศชื่อเสียง
- OTP
- 39 views

พญาสัตบรรณ หรือต้นตีนเป็ด ต้นไม้มงคล ตามความเชื่อนั้น เชื่อว่าปลูกไว้ในบ้าน จะช่วยส่งเสริมเกียรติยศชื่อเสียง นิยมปลูกกันในสถานที่ราชการ อาคาร หรือวัด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครในอดีต ที่นำต้นตีนเป็ดมาปลูกบริเวณริมถนนรวมกว่า 2,000 ต้น ที่ยังอยู่จนถึงปัจจุบันนี้
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ: พญาสัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด
ชื่อวิทยาศาสตร์: Alstonia scholaris
ชื่อท้องถิ่นอื่น: หัสบัน, สัตบรรณ, สัตตบรรณ, จะบัน, บะซา, ปูลา, ปูแล, ตีนเป็ด, ตีนเป็ดขาว, ตีนเป็ดไทย, ต้นตีนเป็ด เป็นต้น
วงศ์: Apocynaceae (วงศ์ตีนเป็ด)
ถิ่นกำเนิด: ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบได้ทุกภาค
ต้นไม้มงคลประจำจังหวัด: สมุทรสาคร
ที่มา: พญาสัตบรรณ [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ต้นพญาสัตบรรณ

พญาสัตบรรณ เป็นไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 15 – 35 เมตร โคนต้นมักเป็นพูพอน
- เปลือก ค่อนข้างหนา สีเทาอ่อน หรือเทาอมเหลือง
- ใบ ใบเดี่ยวเรียงกันเป็นวง 4 – 7 ใบ แผ่นใบรูปมน แกมรูปไข่กลับ ปลายแหลมเป็นติ่งเล็กน้อย โคนสอบเข้าหากันเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ
- ดอก ดอกเล็ก สีเขียวอมเหลือง หรืออมขาว ออกเป็นกลุ่มในช่อ ซึ่งแยกกิ่งก้าน ออกจากจุดเดียวกัน ตามปลายกิ่ง
- ผล เป็นฝักเรียว ยาว 10 – 20 ซม. เมล็ดแบบทรงบรรทัดแคบๆ ยาว ประมาณ 7 มม. มีขนนุ่ม ยาวปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้าง
- ออกดอก ตุลาคม – ธันวาคม เริ่มติดฝักประมาณเดือนมกราคม เมล็ดแก่ประมาณเดือน มีนาคม
การขยายพันธุ์ การปลูก และการดูแลรักษา

ขยายพันธุ์
- โดยการเพาะเมล็ด และการปักชำ
การปลูก
- นิยมปลูกในแปลงปลูก ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 ซม. เพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ควรปลูกให้ห่างจากบ้าน เพราะเมื่อต้นไม้มีอายุมากขึ้นขนาดทรงพุ่ม จะสูงใหญ่
- ดินปลูก ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2
การดูแลรักษา
- ต้นพญาสัตบรรณ ต้องการแสงแดดจัด รดน้ำ 5 วัน/ครั้ง ชอบดินร่วนซุย และควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ในอัตรา 2 : 3 กก./ต้น ปีละ 3 – 4 ครั้งก็พอ โดยปกติแล้วจะมีความทนทานต่อสภาพธรรมชาติได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรูพืช
ที่มา: พญาสัตบรรณ ไม้มงคลแก่บ้านและผู้อาศัย [2]
ต้นไม้มงคล พญาสัตบรรณ สื่อความหมาย
คนไทยโบราณเชื่อว่า การปลูกต้นพญาสัตบรรณ ไว้ที่บ้าน จะทำให้ได้รับการยกย่อง การนับถือจากบุคคลทั่วไป จะทำให้มีเกียรติยศ ซึ่งความหมายของคำว่าพญา คือ ผู้เป็นใหญ่ที่ควรยกย่อง และเคารพนับถือ ส่วนคำว่า สัต หมายถึง สิ่งที่ดีงาม ความมีคุณธรรมนั่นเอง
บริเวณที่ควรปลูก พญาสัตบรรณตามความเชื่อ จะนิยมปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ หน้าบ้าน ทางทิศเหนือ และ ผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ แต่ถ้าอยากให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นไปอีก ผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือหรือเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับ ต้นสัก เป็นต้น
สรรพคุณของ พญาสัตบรรณ
- เปลือกต้น (มีรสขม) เป็นยาขมช่วยให้เจริญอาหาร, ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน, ใช้แก้หวัด, แก้อาการไอ, รักษาหลอดลมอักเสบ, รักษาโรคบิด, ท้องร่วง, ท้องเดินเรื้อรัง, โรคลำไส้ และลำไส้ติดเชื้อ, ต้มน้ำดื่มช่วยรักษาโรคมาลาเรีย, ใช้เป็นยาสมานลำไส้ได้, ขับพยาธิไส้เดือน, ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย, ช่วยขับระดูของสตรี, ช่วยขับน้ำนม, ใช้ต้มน้ำอาบ ช่วยรักษาผดผื่นคัน
- ใบ ใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน, โรคลักปิดลักเปิด, แก้ไข้, ช่วยรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง, พอกเพื่อดับพิษต่าง ๆ ได้, รักษาแผล แผลเปื่อย และอาการปวดข้อ
- ยาง น้ำยางใช้หยอดหูแก้อาการปวดหูได้, ใช้อุดฟันเพื่อแก้อาการปวดฟัน, ช่วยบำรุงกระเพาะ, ใช้รักษาแผลที่เป็นตุ่มหนอง ช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว
- ดอก แก้ไข้เหนือ ไข้ตัวร้อน
ที่มา: สรรพคุณของพญาสัตบรรณ [3]
ประโยชน์ของ พญาสัตบรรณ
- สารสกัดจากใบพญาสัตบรรณสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของต้นคะน้า ส่วนสารสกัดจากเปลือกของลำต้นก็จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของข้าวโพด ข้าว ถั่วเขียวผิวดำ ถั่วเขียวผิวมัน และคะน้าได้
- เนื้อไม้หยาบ อ่อน แต่เหนียว สามารถใช้ทำหีบใส่ของ หีบศพ ทำโต๊ะ เก้าอี้ ฝักมีดของเล่นสำหรับเด็ก รองเท้าไม้ หรือไม้จิ้มฟันได้
- ปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงา ภายในบ้านได้
- สารสกัดจากน้ำมันหอมระเหย ของดอกพญาสัตบรรณ สามารถใช้ไล่ยุงได้
- เนื้อไม้ ใช้ทำฟืน หรือนำใช้ทำโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ของบ้าน เช่น เสาบ้าน เป็นต้น
- ต้นพญาสัตบรรณจัดเป็นไม้มงคลนาม ปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล
สรุป พญาสัตบรรณ ไม้มงคล มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียนะ

สรุป แม้ว่าต้นพญาสัตบรรณจะมีประโยชน์ ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ในเขตกรุงเทพมหานคร ได้อย่างมาก แต่ก็มีผู้แพ้กลิ่นหลายคนที่เกิดอาการแพ้ ทุกช่วงฤดูหนาว กลิ่นของดอกพญาสัตบรรณ เกิดจากสารหอมระเหยในกลุ่มลินาโลออล (linalool) เป็นสารที่กระตุ้นให้ระบบประสาท สร้างความรู้สึกอยากอาเจียนได้
- Tags: ต้นไม้

แหล่งอ้างอิง


