พลูด่าง เป็นไม้ฟอกอากาศได้นะ รู้ยัง

พลูด่าง มีอยู่หลากหลายชนิด แต่ละชนิด ก็มีเอกลักษณ์ความโดดเด่น ต่างกัน เราจะยกตัวอย่างที่ได้รับความนิยม มาดูกันว่าชนิดใด จะตรงใจคุณที่สุด

• พลูด่าง เป็นไม้เลื้อย ที่มีใบสีเขียวปนเหลืยง ใบ มีลักษณะ คล้ายกับใบโพธิ์ โดยเราสามารถนำมาปลูกในแจกัน หรือปลูกลงกระถางก็ได้ การดูแลรักษาก็ง่าย ชอบแสงแดดจัด และให้น้ำ เพียงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอ
• พลูฉลุ เป็นพลูที่มีลำต้นเป็นราก เลื้อยไปมาตามผิวดิน ใบ มีลักษณะแหว่งตรงกลาง และข้าง ๆ สลับกันไป ดูแลรักษาที่ง่าย ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
• พลูทอง หรือ ราชินีสีทอง เป็นไม้เลื้อย มีอายุได้เป็นสิบปี ใบ มีลักษณะเป็นรูปไข่ และมีสีเขียวอมเหลือง ขอบใบหนา และที่สำคัญพลูทอง ถือเป็นไม้ประดับ ที่ช่วยดูดซับสารพิษในอากาศ ได้เป็นอย่างดี
• พลูงาช้าง หรือ พลูอินเดีย เป็นไม้อิงอาศัย ชอบเกาะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ ชอบแสงแดดแบบรำไร ต้องการน้ำปานกลาง ใบ มีลักษณะเป็นหัวใจ มีสีเขียวอ่อนปนขาว ขอบใบเรียบ พลูด่างชนิดนี้ เหมาะที่จะปลูกในกระถาง หรือปลูกบนไม้แขวน
• พลูปีกนก มีลำต้นคล้ายกับ ทรงกระบอกขนาดเล็ก ใบ มีลักษณะ รี สีเขียวปนเหลือง มีดอกเป็นช่อ อยู่ที่ปลายยอด ดูแลรักษาง่าย รดน้ำแค่ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และส่วนใหญ่ยังนิยมนำมาปลูกในอาคาร เพื่อดูดซับสารพิษ และฝุ่นละอองด้วย
• พลูฉีก จัดอยู่ในตระกูลอิพิ ไม่ใช่มอนสเตอร่า ไม้เลื้อยโตไว ใบสีเขียว มีลักษณะเรียวยาว สลับกับใบที่ฉีก เข้ามาเกือบถึงกลางใบ ใบจะเล็กกว่ามอนสเตอร่า แต่ใหญ่กว่าพลูอื่น ๆ เจริญเติบโตเร็ว แตกยอดบ่อย เลี้ยงได้ทั้งในดิน และในน้ำ สามารถอยู่ในที่แสงรำไร ไปจนถึงแดดจัด ขยายพันธุ์ง่ายมากแค่ตัดแล้วปักชำ

ที่มา: พลูด่างมีกี่ชนิด แบบไหนน่าปลูกบ้าง [2]