
รวม พันธุ์เสือ พบในไทย ราชาแห่งพงไพร ที่ใกล้สูญพันธุ์
- ผีเสื้อสีขาว
- 10 views

พันธุ์เสือ พบในไทย ประเทศที่เป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังคงมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง โดยเฉพาะสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของผืนป่า นั่นคือ เสือ แม้ปัจจุบันจำนวนเสือในประเทศจะลดลงอย่างมาก จากปัญหาการล่าและการสูญเสียพื้นที่ป่า แต่ไทยยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่ยังพบเสือหลายชนิดอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ
- เสือกระต่าย แมวป่าขนาดเล็ก พบในป่าพุ่มและทุ่งหญ้าไทย
- เสือดาว/เสือดำ เสือดาวสีปกติและแบบเมลานิซึม พบในป่าทึบหลายพื้นที่
- เสือลายเมฆ เสือป่าขนาดกลาง หายากและกระจายจำกัด
สายพันธุ์เสือ ที่พบในประเทศไทย มากที่สุด
สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย เสือโคร่งสายพันธุ์อินโดจีน Panthera tigris corbetti (10 เมษายน 2023) [1] เป็นเสือขนาดกลาง เป็นชนิดที่มีประชากรลดลงอย่างมาก และอยู่ในความดูแลของโครงการอนุรักษ์เสือของไทย สถานะของ เสือโคร่งอินโดจีน ในประเทศไทยจัดว่า ใกล้สูญพันธุ์ ตามมาตรฐานสากลและการประเมินของ IUCN Red List รวมถึงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย
นอกจากพบที่ไทยแล้ว ยังพบในป่าของพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และตอนใต้ของจีน มีขนสีเข้มกว่าสายพันธุ์เบงกอล และลายแถบเป็นเส้นเดี่ยวๆ ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์
สายพันธุ์เสือ ที่พบในประเทศไทย ทั้งหมด มีกี่ชนิด?
พันธุ์เสือ พบในไทย ข้อมูล ปี พ.ศ. 2567 ระบุว่ามีเสือโคร่งป่าในประเทศไทยประมาณ 179-223 ตัว (1 สิงหาคม 2024) [2] ประชากรเสือเพิ่มขึ้น จากการประมาณก่อนหน้านี้ ปี พ.ศ. 2565 อยู่ที่ 148-189 ตัว เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการยกย่อง ให้เป็นประเทศที่เพิ่มจำนวนประชากรเสือ
จำนวน ประชากร เสือป่า ที่พบในไทย มีทั้งหมด 9 ชนิด ได้แก่ เสือโคร่ง, เสือดาว/เสือดำ, เสือลายเมฆ, เสือไฟ, เสือปลา, เสือกระต่าย, แมวป่าหัวแบน, แมวลายหินอ่อน และแมวดาว (15 มกราคม 2025) [3]
เสือโคร่งอินโดจีน ที่พบในไทย มีลักษณะอย่างไร?
ลักษณะเด่นและพฤติกรรม
1. เสือโคร่งอินโดจีนจัดเป็นเสือขนาดใหญ่ รองจากเสือไซบีเรีย รูปร่างใหญ่ มีกล้ามเนื้อหนาแน่น ขาแข็งแรง ทำให้สามารถวิ่งเร็วและออกแรงกระโดดได้ไกล เป็นคุณสมบัติสำคัญของนักล่าอันดับสูงสุดของป่า
- ตัวผู้หนักเฉลี่ย 150-195 กิโลกรัม
- ตัวเมียหนักประมาณ 100-130 กิโลกรัม
- ความยาวรวมถึงหางอาจยาวถึง 2.4-2.7 เมตร
2. ลายเส้นถี่ สีเข้ม เป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะลายและสีที่โดดเด่น ได้แก่ พื้นสีส้มเข้ม ลายเส้นสีดำคมชัด ลายค่อนข้างถี่กว่าสายพันธุ์อื่น ท้องและด้านในของขาเป็นสีขาว ลายบนตัวแต่ละตัวไม่เหมือนกันเลย เปรียบเสมือน ลายนิ้วมือของเสือ ทำให้สามารถจำแนกตัวบุคคลได้ ในการวิจัยหรือการติดตามประชากร
3. เสือโคร่งอินโดจีนมี ศีรษะค่อนข้างใหญ่ หน้ากว้าง แสดงถึงพลัง กรามแข็งแรง เขี้ยวยาวและแหลม เพศผู้บางตัวมีแผงคอบาง ๆ ทำให้ดูสง่างาม ลักษณะเหล่านี้ช่วยให้มันจัดการเหยื่อขนาดใหญ่ เช่น กระทิง วัวแดง หรือกวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. สายตาคมในยามค่ำคืน เสือเป็นสัตว์ที่ออกหากินช่วงพลบค่ำถึงกลางคืน มีความสามารถมองเห็นในที่มืด ได้ดีกว่ามนุษย์หลายเท่า รวมถึงประสาทการได้ยินที่ไว ทำให้ตรวจจับเหยื่อได้แม้ในระยะไกล
พฤติกรรมของ เสือโคร่งอินโดจีน
- เป็นสัตว์ล่าเดี่ยว เสือโคร่งไม่อยู่เป็นฝูง แต่จะใช้ชีวิตเพียงลำพัง ยกเว้นช่วงผสมพันธุ์หรือแม่เสือที่เลี้ยงลูกอ่อน
- มีอาณาเขตกว้าง เพศผู้มีพื้นที่ครอบคลุมหลายสิบถึงหลายร้อยตารางกิโลเมตร เพศเมียมีพื้นที่เล็กกว่า ใช้รอยข่วน กลิ่นปัสสาวะ และรอยเดินเพื่อบอกเขตแดน
- ชอบอาศัยในป่าทึบ เสือโคร่งอินโดจีนในไทยพบมากใน ผืนป่าตะวันตก ทุ่งใหญ่/ห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่มีสัตว์เหยื่อชุกชุม พื้นที่เหล่านี้ช่วยให้ซ่อนตัวและล่าเหยื่อได้ดี
สถานะในปัจจุบัน ของเสือโคร่งอินโดจีน
เสือโคร่งอินโดจีนจัดอยู่ในสถานะ ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งเพราะ การลักลอบล่าสัตว์ การทำลายพื้นที่ป่า การลดลงของสัตว์เหยื่อ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศ ที่ประสบความสำเร็จด้านการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง โดยเฉพาะในผืนป่าตะวันตก ซึ่งเป็นสัญญาณดี ต่อการอนุรักษ์ในอนาคต
เสือโคร่งอินโดจีนในไทยเป็นเสือที่มีรูปร่างใหญ่ ลวดลายเข้มคม พฤติกรรมล่าเดี่ยว และมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ แม้จะอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แต่ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ที่ยังคงมีถิ่นที่อยู่อาศัยเหมาะสม สำหรับเสือชนิดนี้ การทำความเข้าใจลักษณะและความสำคัญ ของเสือโคร่งอินโดจีนจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ ของการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
ไปดู ความแตกต่าง ของสายพันธุ์เสือ ที่พบในไทย
เสือถือเป็นสัตว์นักล่าที่ทรงพลัง และมีบทบาทสำคัญต่อสมดุลของระบบนิเวศไทย หลายคนจะคิดว่า เสือ คือสัตว์ชนิดเดียวกันทั้งหมด แต่ความจริงแล้วประเทศไทย ยังคงมีเสือหลากหลายสายพันธุ์ อาศัยอยู่ในป่าธรรมชาติ แต่ละชนิดมีลักษณะเด่น พฤติกรรม และพื้นที่กระจายพันธุ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่เสือโคร่งอินโดจีน ไปจนถึงเสือปลานักล่าลุ่มน้ำที่มักพบในพื้นที่ชุ่มน้ำ
เสือกระต่าย นักล่าเงียบ ที่หายาก ที่สุดในไทย
เสือกระต่าย พันธุ์เสือ พบในไทย เป็นแมวป่าที่มีลักษณะเฉพาะตัว ชัดเจน หูกระจุกขน, ขายาว, หางสั้น ถึงจะชื่อ เสือกระต่าย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เกี่ยวกับกระต่ายทางชีววิทยา ชื่อน่าจะมาจากหูที่ยาวคล้ายกระต่าย มันแตกต่างจากแมวบ้าน และแมวป่าบางสายพันธุ์ในด้านรูปร่าง ที่อยู่อาศัย และพฤติกรรม ขณะนี้อยู่ในสถานะ ยังไม่ใกล้สูญพันธุ์มาก แต่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่และกิจกรรมของมนุษย์
ลักษณะนิสัย
- เสือกระต่ายเป็น สัตว์เดี่ยว แตกต่างจากสัตว์บางชนิดที่อาจอยู่รวมกันมากกว่า เช่นฝูงแมวป่า หรือแมวที่อยู่ร่วมกัน
- แม้จะเป็นแมวป่า แต่เสียงและพฤติกรรมการสื่อสารบางส่วนคล้ายแมวบ้าน เช่น การเมี๊ยว แต่มีจังหวะเสียงต่ำกว่าแมวบ้านทั่วไป
- การสืบพันธุ์ ปริมาณลูกเฉลี่ยประมาณ 3-6 ตัว อาจขึ้นอยู่กับภูมิภาค
พื้นที่อาศัย
- เสือกระต่ายชอบพื้นที่ หนองน้ำ มีพุ่มไม้แน่น ใกล้น้ำ มากกว่าแมวป่าบางชนิด ที่อาจอยู่ในป่าแห้งหรือป่าเปิดมากกว่า
- สามารถอยู่ใกล้เขตเกษตรกรรม ทุ่งนา ไร่ ได้เป็นลักษณะที่ทำให้มัน กึ่งป่า กึ่งเขตเกษตร มากขึ้น เมื่อเทียบกับแมวป่าที่เข้มข้นในป่าเท่านั้น
ขนาดและรูปร่าง
- แม้จะเป็นแมวป่า ขนาดกลาง-เล็ก แต่เสือกระต่ายใหญ่กว่าแมวบ้านบางสายพันธุ์ทั่วไป และมีขายาว ทำให้โครงสร้างดูต่างจากแมวบ้านธรรมดามาก
- หางสั้นกว่าพวกแมวบ้านบางสายพันธุ์ ซึ่งมักมีหางยาวกว่ามาก
- แมวบ้านหลายสายพันธุ์มีลาย จุด ลายเส้น ชัดเจนเสมอ แต่เสือกระต่าย เมื่อโตเต็มวัยมัก ไม่มีลาย ต่างจากแมวแถบ, แมวลายจุด เป็นต้น
- ขนาด ลำตัวยาวประมาณ 50–65 ซม. หางยาวประมาณ 26–31 ซม.
- น้ำหนัก อยู่ในช่วงประมาณ 4-16 กก. ขึ้นกับถิ่นและซับสปีชีส์
- ขน สีค่อนข้างแปรผัน อาจเป็นทราย น้ำตาลอ่อน-แดง เทาหรือสีย้อมอื่นๆ
เสือดาว VS เสือดำ ต่างกันอย่างไร?

แม้ชื่อจะฟังดูเป็นสัตว์คนละชนิด แต่เสือดาว และ เสือดำ แท้จริงแล้ว เป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน ต่างกันที่ สีของขน ไม่ใช่สายพันธุ์คนละแบบ ดังนั้นความแตกต่างจึงอยู่ที่พันธุกรรม และการแสดงออกของเม็ดสีเป็นหลัก
เสือดาว (Panthera pardus) เป็นสัตว์กินเนื้อในวงศ์แมวใหญ่ มีลักษณะโดดเด่นคือ
- ขน สีทอง-น้ำตาล
- มี ลายดอกกุหลาบ กระจายทั่วตัว ช่วยในการพรางตัวในป่าทึบและทุ่งหญ้าสูง
- ตัวขนาดกลางในกลุ่มเสือ รองจากเสือโคร่งและสิงโต
- พบได้ในเอเชียและแอฟริกา รวมถึงในไทย เช่น เขาใหญ่ ห้วยขาแข้ง
เสือดำ (Black panther) ไม่ใช่ชนิดสัตว์เฉพาะ แต่เป็นเสือดาวที่มีอาการ เมลานิซึม (Melanism) คือยีนที่ทำให้ร่างกายผลิตเม็ดสีดำมากผิดปกติ ส่งผลให้ขนเป็นสีดำสนิททั่วตัว ถ้าสังเกตใกล้ๆ จะยังเห็นลายดอกกุหลาบจางๆ ใต้ขนดำ รูปร่าง พฤติกรรม นิสัย และสายพันธุ์ เหมือนเสือดาวทุกประการ ดังนั้น เสือดำก็เท่ากับ เสือดาวสีดำ นั่นเอง
- เสือดาว = เสือปกติ ลายดอกกุหลาบ
- เสือดำ = เสือดาวที่มีภาวะเมลานิซึม ทำให้ตัวดำสนิท
- ทั้งคู่คือ ชนิดเดียวกัน 100% ต่างกันแค่สีและพันธุกรรมเท่านั้น
การอนุรักษ์ สายพันธุ์เสือโคร่ง ในประเทศไทย
จากแผนปฏิบัติการอนุรักษ์เสือโคร่งแห่งชาติ ประเทศไทยมีเป้าหมาย ในปี พ.ศ. 2565-2577 อยู่ 3 ประการ คือ
- รักษาและยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองกลุ่มป่าตะวันตก
- เสริมสร้างการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองและเพิ่มความแม่นยำในการติดตามประชากรเสือโคร่ง
- เพิ่มจำนวนเสือโคร่งป่าในกลุ่มป่าแก่งกระจาน ภูเขียว-น้ำหนาว และคลองแสง-เขาสก
เสือกับระบบนิเวศไทย ถ้าสูญพันธุ์ จะเกิดอะไรขึ้น?
เสือ โดยเฉพาะ เสือโคร่งและเสือดาว คือผู้ล่าลำดับสูงสุด ของป่าเมืองไทย หมายความว่าในธรรมชาติ แทบไม่มีสัตว์ตัวไหนล่ามันได้ จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อความสมดุล ของห่วงโซ่อาหารและสุขภาพของป่า
การอนุรักษ์เสือมีความสำคัญ เพราะเสือคือหัวใจ ของระบบนิเวศไทย หากเสือหายไป เหยื่อจะเพิ่มจนป่าถูกทำลาย ระบบนิเวศถล่มเป็นลูกโซ่ ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง มนุษย์ได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพราะเสือคือ ผู้จัดการระบบนิเวศตามธรรมชาติ ถ้าขาดเสือ จะเกิดผลตามมา
รวม พันธุ์เสือ พบในไทย สัตว์ผู้ทรงพลัง ต่อระบบนิเวศ
พันธุ์เสือ พบในไทย มีเสือหลักที่พบได้คือ เสือโคร่ง, เสือดาว/เสือดำ, เสือลายเมฆ, เสือไฟ, เสือปลา, เสือกระต่าย, แมวป่าหัวแบน, แมวลายหินอ่อน และแมวดาว ซึ่งกระจายอยู่ในผืนป่าที่สมบูรณ์ทั่วประเทศ หลายชนิดอยู่ในภาวะหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ จากการสูญเสียถิ่นอาศัยและการล่า จึงเป็นสัตว์ที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วนเพื่อคงความสมบูรณ์ของผืนป่าไทย
ทำไมเสือดำ จึงพบได้ น้อยกว่า?
เพราะเมลานิซึมเกิดจากการกลายพันธุ์ ทางพันธุกรรมที่เกิดไม่บ่อย และต้องถ่ายทอดแบบยีนเด่น ยีนด้อยตามแต่ละประชากรโอกาสที่ลูกเสือจะเกิดมาเป็นสีดำจึงต่ำกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม ในป่าทึบและมืดอย่างป่าฝนเขตร้อน เช่น ไทย มาเลเซีย พบเสือดำมากกว่า เพราะสีดำช่วยพรางตัวได้ดีกว่า
เสือไทย ใกล้สูญพันธุ์ หรือไม่?
เสือหลายชนิดในไทยอยู่ในภาวะ ใกล้สูญพันธุ์หรือหายากมาก โดยเฉพาะ เสือโคร่งอินโดจีน และ เสือลายเมฆ ที่มีประชากรลดลงจากการล่าและสูญเสียถิ่นอาศัย ส่วน เสือดาว/เสือดำ ก็ถูกคุกคามเช่นกัน แม้ยังพบในบางพื้นที่โดยรวม เสือไทย ยังอยู่ในสถานะเปราะบางและต้องได้รับการอนุรักษ์เร่งด่วน
- Tags: สัตว์


