พาราลิมปิก ประวัติ การแข่งขันสำหรับผู้พิการที่มีหัวใจนักสู้

พาราลิมปิก ประวัติ

พาราลิมปิก ประวัติ ที่มาพร้อมกับเรื่องราว ที่น่าสนใจ พาราลิมปิก เป็นการแข่งขันกีฬา สำหรับผู้พิการที่มีหัวใจนักสู้ ซึ่งจะมีการแข่งขันกีฬามากมายหลากหลายประเภท โดยอยู่ภายใต้การรับผิดชอบดูแล ของทางคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล ที่ก่อตั้งขึ้นใน วันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1989 ในเมืองดึสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

  • จุดกำเนิดของ กีฬาพาราลิมปิก
  • กีฬาที่น่าสนใจ ในพาราลิมปิก
  • เป้าหมายหลักในการแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิก

จุดกำเนิดของ กีฬาพาราลิมปิก 

กีฬาพาราลิมปิก เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1948 โดยดอกเตอร์ลุดวิก กูทมัน เป็นศัลยแพทย์ ของโรงพยาบาลสโตก แมนเดวิลล์ ที่มีจุดประสงค์หลัก ในการจัดแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก คือ เพื่อต้องการเสริมสร้างฟื้นฟู ทางด้านร่างกาย และจิตใจ ให้กับเหล่าทหารผ่านศึก ชาวอังกฤษ จากการรบ ของสงครามโลกครั้งที่ 2 

อีกทั้งยังมีการจัดแข่งขันอีกครั้ง ในช่วงปี ค.ศ. 1952 ซึ่งในครั้งนี้มีทหารผ่านศึก ที่เป็นชาวดัตช์ เข้าร่วมการแข่งขันด้วย (8 พฤศจิกายน 2024) [1]

เผยรายชื่อของกีฬาที่น่าสนใจ ในพาราลิมปิก

ในการแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิกปี ค.ศ. 2020 ได้มีการจัดแข่งขันกีฬาทั้งหมด 22 ชนิด อาทิเช่น ว่ายน้ำ กรีฑา วีลแชร์บาสเกตบอล วีลแชร์รักบี้ และเทเบิลเทนนิส เป็นต้น อีกทั้งยังมีกีฬา ที่ถูกบรรจุเข้ามาใหม่ในภายหลัง ได้แก่ เทควันโด และ แบดมินตัน วิธีเล่น ซึ่งกีฬาทั้ง 2 ชนิดนี้ ถูกเข้ามาแทนที่ กีฬาฟุตบอล 7 คน และ กีฬาเรือใบ เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า กีฬา 2 ชนิดนี้ ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย (23 สิงหาคม 2021) [2]

ลักษณะของนักกีฬา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก

  • พิการทางร่างกาย เช่น สูญเสีย หรือมีความบกพร่อง ทางการของแขน ขา หรือทั้งร่างกาย
  • พิการทางสายตา เช่น มีระดับสายตา ที่ต่างกัน ตั้งแต่บอดสนิท จนถึงสายตาบกพร่องบางส่วน
  • พิการทางสติปัญญา เป็นคนที่มีข้อจำกัดทาง ด้านความคิด วิเคราะห์
  • มีคุณสมบัติพื้นฐาน ของการเป็นนักกีฬา เช่น มีร่างกาย ที่แข็งแรง และมีความตั้งใจ ในการฝึกซ้อม

ความแตกต่างระหว่างพาราลิมปิก กับโอลิมปิก

พาราลิมปิก ประวัติ

พาราลิมปิก กับโอลิมปิก จะมีความคล้ายคลึงกันอยู่มากมายหลายด้าน แต่ก็จะมีสิ่งที่แตกต่างกันอยู่บางประการ เช่น ผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน พาราลิมปิก จะเป็นผู้พิการ ประเภทของกีฬา ก็จะเป็นกีฬาเฉพาะ สำหรับผู้พิการเท่านั้น และจะขึ้นหลังจาก การแข่งขันโอลิมปิกเสมอ ในขณะที่โอลิมปิก จะเป็นการแข่งขันกีฬา สำหรับคนทั่วไป มีกีฬามากมายให้เลือกแข่งขัน และจะจัดขึ้น ก่อนพาราลิมปิก (28 สิงหาคม 2024) [3]

เป้าหมายหลักของการจัดแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก คืออะไร?

เป้าหมายหลัก ของการจัดแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิก คือ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ของผู้พิการ ในกิจกรรมกีฬา ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเพิ่มความมั่นใจ ให้ผู้พิการเห็นว่าตนเอง สามารถพัฒนาศักยภาพได้ อีกทั้งยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขภาพจิตใจ ให้กับผู้พิการ ผ่านการออกกำลังกาย และการแข่งขัน ที่สำคัญยังสร้างความสามัคคี และมิตรภาพระหว่างประเทศ ผ่านการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกด้วย

ประเทศไทยกับการแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิก

ประเทศไทย ได้มีการเข้าร่วมแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิกครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1984 ซึ่งในการแข่งขันครั้งนั้น ทีมชาติไทยยังไม่สามารถคว้าเหรียญพาราลิมปิกมาได้ จนกระทั่งในการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่ถูกจัดขึ้น ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้มีนักกีฬาไทยคนแรก ที่สามารถคว้าเหรียญเงิน 

จากการแข่งขัน พุ่งแหลนชาย ในพาราลิมปิกได้สำเร็จ ซึ่งเขาคนนั้นคือ สกุล คำตัน และหลังจากที่ประเทศไทย ได้เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิกมาทั้งหมด 9 ครั้ง ทำให้สามารถคว้าเหรียญมาได้ มากถึง 87 เหรียญ โดยมีเหรียญทอง 24 เหรียญ, เหรียญเงิน 29 เหรียญ และเหรียญทองแดง 34 เหรียญ

สรุปโดยย่อของ พาราลิมปิก ประวัติ

สรุปพาราลิมปิก คือ การแข่งขันกีฬาสำหรับผู้พิการ ทางด้านร่างกาย สายตา และสติปัญญา ในการแข่งขันจะมีการแบ่งประเภทผู้แข่งขัน ตามความพิการ เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรม รวมทั้งยังกีฬา ที่เหมือนในโอลิมปิก และมีกีฬาเฉพาะสำหรับผู้พิการ พาราลิมปิก เป็นการแข่งขันกีฬา ที่เน้นความเท่าเทียม และ ต้องการสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับนักกีฬา

กีฬาพาราลิมปิก ช่วยสร้างแรงบันดาลใจอย่างไร?

การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ โดยแสดงให้เห็นว่าผู้พิการ ก็สามารถพัฒนาศักยภาพ ของตนเอง และประสบความสำเร็จได้ แม้มีข้อจำกัดทาง ร่างกาย สายตา หรือสติปัญญา เป็นตัวอย่างที่ทำให้ผู้พิการคนอื่นๆ มีกำลังใจในการฝึกฝน และ พัฒนาตนเอง

การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก จำกัดเพศหรือไม่?

กีฬาพาราลิมปิก ไม่จำกัดเพศผู้เข้าแข่งขัน ผู้ชายและผู้หญิง สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ มีการจัดประเภทการแข่งขันแยกเพศ ในบางกีฬาที่เหมาะสม เพื่อความเป็นธรรม ในการแข่งขัน อีกทั้งยังมีการแบ่งประเภท ตามความพิการ เพื่อให้การแข่งขันเท่าเทียมด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง