พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง และประโยชน์อื่นๆของ Pistachio

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง พิสตาชิโอเป็นหนึ่งในถั่ว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และเป็นแหล่งของโพแทสเซียม ที่สำคัญต่อร่างกาย โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็น ในการรักษาสมดุลของของเหลว ในร่างกาย ช่วยควบคุมความดันโลหิต และสนับสนุนการทำงาน ของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง คุณค่าโภชนาการพิสตาชิโอ

Pistachio มีปริมาณโพแทสเซียมสูงเช่นเดียวกับ ถั่วแดง โพแทสเซียมสูง การบริโภคพิสตาชิโอเป็นประจำ สามารถช่วยเพิ่มปริมาณโพแทสเซียมในร่างกาย ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อการรักษาระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และลดความเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด โดยพิสตาชิโอปริมาณ 100 g. มีสารอาหารดังนี้

  • แคลอรี 562 kcal
  • ไขมันทั้งหมด 45 g.
  • ไขมันอิ่มตัว 6 g.
  • โซเดียม 1 mg.
  • โพแทสเซียม 1,025 mg.
  • คาร์โบไฮเดรต 28 g.
  • เส้นใยอาหาร 10 g.
  • น้ำตาล 8 g.
  • โปรตีน 20 g.
  • วิตามินซี 5.6 mg.
  • แคลเซียม 105 mg.
  • เหล็ก 3.9 mg.
  • วิตามินบี6 1.7 mg.
  • แมกนีเซียม 121 mg.

ที่มา: Nuts, pistachio nuts [1]

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง ประโยชน์การทานพิสตาชิโอ

  • อุดมไปด้วยสารอาหาร: พิสตาชิโอเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินบี6 และโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างพลังงาน และการทำงานของร่างกาย
  • ดีต่อหัวใจ: พิสตาชิโอมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งเป็นประโยชน์ ต่อการป้องกันโรคหัวใจ
  • ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก: ไฟเบอร์และโปรตีนในพิสตาชิโอ ช่วยให้อิ่มนาน ลดความหิวและการบริโภคแคลอรีเพิ่ม ทำให้ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
  • ส่งเสริมการทำงาน ของระบบย่อยอาหาร: ไฟเบอร์ในพิสตาชิโอ ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันท้องผูก และเสริมสร้างระบบทางเดินอาหาร
  • สนับสนุนสุขภาพตา: พิสตาชิโอมี Lutein และ Zeaxanthin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดีต่อสุขภาพตา ป้องกันโรค ที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น เช่นจอประสาทตาเสื่อม
  • ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: การบริโภคพิสตาชิโออย่างเหมาะสม สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ทำให้เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน หรือมีความเสี่ยง ที่จะเป็นเบาหวาน

ที่มา: ถั่วพิสตาชิโอ [2]

 

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง ประโยชน์การได้รับโพแทสเซียม

  • ควบคุมความดันโลหิต: โพแทสเซียมช่วยลดผลกระทบ ของโซเดียมในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ความดันโลหิตสูง การบริโภคพิสตาชิโอ ที่มีโพแทสเซียมสูง สามารถช่วยลดความดันโลหิต และลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้
  • สนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาท: โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญ ในการส่งสัญญาณประสาท และการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยในการรักษาสมดุล ของของเหลวในร่างกาย: โพแทสเซียมเป็นส่วนสำคัญ ในการรักษาสมดุลของของเหลวในเซลล์ และในเลือด ช่วยให้ร่างกายทำงาน ได้อย่างสมดุล

ที่มา: 16 ประโยชน์ของโพแทสเซียม [3]

 

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง วิธีการบริโภคพิสตาชิโอ

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง
  • ทานเป็นของว่าง: พิสตาชิโอคั่ว หรือแบบอบ สามารถทานเป็นของว่างระหว่างวันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติม แค่แกะเปลือก และทานทันที
  • ใส่ในสลัด: พิสตาชิโอช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ และรสชาติอร่อย ให้กับสลัดผักหรือผลไม้
  • ใช้ในขนม: ใส่พิสตาชิโอใน Cookie Cake หรือทำ Ice cream พิสตาชิโอ เพื่อเพิ่มความหอมมัน และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
  • ทำเนยพิสตาชิโอ: ปั่นพิสตาชิโอเป็นเนย สำหรับทาขนมปัง หรือใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและขนมต่างๆ
  • ผสมใน Yogurt หรือ smoothie: ใส่พิสตาชิโอในโยเกิร์ต ข้าวโอ๊ตหรือ smoothie เพื่อเพิ่มโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง ข้อแนะนำการทานพิสตาชิโอ

  • เลือกพิสตาชิโอที่ไม่ใส่เกลือ หรือมีเกลือน้อย: พิสตาชิโอที่มีเกลือสูง อาจเพิ่มปริมาณโซเดียมในร่างกาย ซึ่งไม่เป็นผลดี ต่อผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง การเลือกพิสตาชิโอที่ไม่ใส่เกลือ หรือมีเกลือน้อย เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
  • ทานในปริมาณที่พอเหมาะ: ถึงแม้ว่าพิสตาชิโอ จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากพิสตาชิโอมีไขมัน และแคลอรีสูง การทานมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
  • ทานพิสตาชิโอที่สดใหม่: การเลือกพิสตาชิโอที่สดใหม่ และไม่มีกลิ่นเหม็นหืน จะช่วยให้ได้รับสารอาหาร ที่มีคุณภาพ และปลอดภัย

พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง ข้อควรระวังการทานพิสตาชิโอ

  • ระวังการแพ้ถั่ว: ผู้ที่แพ้ถั่วควรระวัง ในการทานพิสตาชิโอ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่นผื่นคัน หายใจลำบาก หรืออาการรุนแรงอื่นๆ หากมีอาการแพ้ควรหยุดทาน และปรึกษาแพทย์ทันที
  • การเลือกพิสตาชิโอ ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งมากเกินไป: พิสตาชิโอที่มีการปรุงแต่งมาก เช่นการคั่ว หรือการเคลือบน้ำตาล อาจมีสารเคมีตกค้าง หรือปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งไม่เป็นผลดี ต่อสุขภาพในระยะยาว
  • เก็บรักษาในที่แห้งและเย็น: พิสตาชิโอควรเก็บในที่แห้งและเย็น เพื่อป้องกันการเหม็นหืน และการเกิดเชื้อรา การเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษา และคงคุณค่าทางโภชนาการได้ดีขึ้น

สรุป พิสตาชิโอโพแทสเซียมสูง ต่อดีระบบประสาท กล้ามเนื้อ

พิสตาชิโอเป็นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในหลายด้าน การบริโภคพิสตาชิโอเป็นประจำ สามารถช่วยรักษาระดับโพแทสเซียมในร่างกาย ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ สนับสนุนการทำงานของระบบประสาท และกล้ามเนื้อ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

247