
ฟอร์เวิร์ด จาเลน สมิธ พลังที่ถูกยืดไว้ด้วยเวลา
- Harry P
- 16 views

ฟอร์เวิร์ด จาเลน สมิธ (Jalen Smith) ไม่ใช่ผู้เล่นที่ไร้ความสามารถ เขาคือคนที่ยังไม่ได้รับจังหวะที่ถูกต้อง ช่วงเวลาที่พรสวรรค์ของเขา จะได้ระเบิดออกมาเต็มกำลัง บทความนี้จะพาไปสำรวจเส้นทางของชายคนนี้ พร้อมวิเคราะห์ว่าทำไม “พลัง” ของเขาถึงยังถูกยืดไว้ และอะไรคือเงื่อนไข ที่จะทำให้มันถูกปลดปล่อยในที่สุด
จากเด็กหนุ่มสายบู๊แห่งแมริแลนด์ สู่ชายผู้รอเวลาใน NBA
จาเลน สมิธเติบโตจากระบบบาสเกตบอล ของมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ในฐานะฟอร์เวิร์ดที่ทั้งแข็งแรง และขยัน เขามีชื่อเสียงจากการเล่นด้วยความมุ่งมั่น ไม่รู้เหน็ดเหนื่อย การรีบาวด์อย่างทรงพลัง และสไตล์การเล่น ที่ผสมระหว่างพละกำลัง และความคล่องตัว
ช่วงปี 2020 เขาได้รับเลือกในลำดับที่ 10 โดย Phoenix Suns ซึ่งในเวลานั้น ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นอันสดใสของอาชีพ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กลับตรงกันข้าม สมิธกลายเป็นผู้เล่น ที่ต้องนั่งรอโอกาสข้างสนาม มากกว่าที่จะได้ลงพิสูจน์ตัวเอง และเมื่อมองย้อนกลับ เขาเป็นเหมือนนักเรียน ที่พร้อมสอบ แต่ยังไม่ถึงเวลาสอบจริง
สมิธมีทุกอย่างที่ต้องการจะใช้ แต่ระบบที่เขาอยู่ กลับไม่เปิดพื้นที่ให้ใช้มันอย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นเพราะโครงสร้างทีม ที่เต็มไปด้วยตัวหลัก หรือสไตล์การเล่น ที่ไม่เข้ากับชุดผู้เล่นรอบตัว การเดินทางของจาเลน สมิธจึงกลายเป็นเส้นทางของพลัง ที่ถูกยืดไว้ด้วยเวลา (25 ตุลาคม 2025) [1]
พลังที่ถูกจำกัดด้วยระบบ เมื่อพรสวรรค์ชนขอบของโอกาส
ในช่วงที่อยู่กับ ฟีนิกซ์ ซันส์ (Phoenix Suns) สมิธต้องเผชิญ กับสิ่งที่นักบาสหลายคนกลัวที่สุด การมีความสามารถ แต่ไม่ถูกใช้อย่างถูกทาง ทีมของเขาเน้นการเล่นเร็ว ใช้การขยับบอล และการชู้ตสามแต้มเป็นหลัก ซึ่งเป็นระบบ ที่ไม่เปิดโอกาสให้ฟอร์เวิร์ด ที่มีสไตล์แบบพลังผสมอย่างเขา ได้โชว์ของมากนัก
สมิธจึงมักถูกใช้เป็นเพียงตัวเสริม และไม่สามารถสร้างจังหวะ ของตัวเองได้เต็มที่ แต่เมื่อถูกเทรดไป อินเดียนา เพเซอร์ส (Indiana Pacers) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 สถานการณ์ก็เริ่มพลิก เขาได้เวลาลงสนามมากขึ้น ได้มีบทบาทในเกมรับ และรีบาวด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัดที่สุด (11 กุมภาพันธ์ 2022) [2]
ผลงานของเขาในฤดูกาล 2022-23 เฉลี่ย 9.4 แต้ม 5.8 รีบาวด์ พร้อมเปอร์เซ็นต์ชู้ตสามแต้มที่ 35% จากเวลาเล่นที่จำกัด แสดงให้เห็นว่าพลังของเขายังอยู่ครบ เพียงแค่ต้องการระบบที่เข้าใจ สมิธจึงกลายเป็นตัวอย่างของผู้เล่น ที่ไม่ได้ขาดฝีมือ แต่ขาด “พื้นที่ให้ได้เติบโต” ต่างหาก
พื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการเคลื่อนไหวที่เฉียบกว่าไซซ์

สิ่งที่ทำให้จาเลน สมิธแตกต่างจากผู้เล่น ในตำแหน่งเดียวกันคือ “พื้นฐาน” เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่หวือหวา แต่เข้าใจวิธีช่วยทีม อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการตั้งสกรีนให้เพื่อน การวิ่งตัดเข้าหาห่วงในจังหวะที่ถูกต้อง และการรีบาวด์ทั้งรุก และรับที่มั่นคง
สมิธมี footwork ที่สมดุล และคล่องตัวกว่าผู้เล่นรูปร่างใกล้เคียงกัน ซึ่งทำให้เขาเข้าถึงบอลได้เร็ว และยืนป้องกันได้ดีในพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ ความสามารถในการชู้ตสามแต้มของเขา ก็เป็นอีกจุด ที่ช่วยขยายบทบาทได้มากขึ้น เพราะในยุคที่ทีม ต้องการฟอร์เวิร์ดที่ “ยืดสนาม” เพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนเล่น
สมิธสามารถกลายเป็นตัวเลือก ที่สำคัญในระบบ pick-and-pop หรือ pick-and-roll ได้อย่างกลมกลืน หากเขาได้รับโอกาสเล่นต่อเนื่อง และมั่นคงมากขึ้น จุดแข็งเหล่านี้จะยิ่งชัดเจน และอาจทำให้เขา ได้กลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองลับ ที่ทีมไม่อยากขาด
ปมที่ขวางการเติบโตของฟอร์เวิร์ดรุ่นใหม่
แม้จะมีพรสวรรค์รอบด้าน แต่เวลากลับเป็นศัตรูของสมิธ การเปลี่ยนทีมบ่อย การอยู่ในสภาพแวดล้อม ที่ไม่ต่อเนื่อง และการต้องพิสูจน์ตัวเอง ในทุกฤดูกาล ล้วนทำให้เขา ไม่สามารถสร้างจังหวะ ความมั่นใจได้เต็มร้อย ผู้เล่นระดับกลางใน NBA มักติดอยู่ในวงจรของ “โอกาสจำกัด ฟอร์มไม่ต่อเนื่อง นาทีลดลง”
ซึ่งทำให้ศักยภาพที่แท้จริง ไม่เคยถูกเปิดเผยออกมา แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า พลังของจาเลน สมิธหายไป มันเพียงแค่ “ถูกยืดไว้” ด้วยเวลา เพื่อรอวันที่จังหวะ ระบบ และความพร้อมทางจิตใจ จะมาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์ พลังที่รอเวลา ไม่ได้แปลว่าไร้ค่า
เมื่อการเติบโต ต้องใช้ความอดทนมากกว่าผลลัพธ์ ในโลกของกีฬา ทุกคนพูดถึง “การระเบิดฟอร์ม” แต่แท้จริงแล้ว บางครั้ง “การรอเวลา” ต่างหากที่เป็นบททดสอบของนักกีฬา การยืดเวลาออกไป ไม่ได้หมายถึงความล้มเหลว แต่มันคือช่วงเวลาที่คนหนึ่งคน เรียนรู้จะใช้พลังให้ถูกจังหวะ
บทใหม่กับชิคาโก บูลส์ เวลาของการปลดล็อกกำลังเริ่มต้น

การย้ายมาอยู่กับชิคาโก บูลส์ (Chicago Bulls) เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสมิธ เพราะทีมกำลังต้องการพลังสดใหม่ ในแดนหน้า หลังจากเจอปัญหาความลึกของผู้เล่น ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา การเข้ามาของเขา จึงเหมือนชิ้นส่วนที่ขาดไปในจิ๊กซอว์ (8 กรกฎาคม 2024) [3]
ผู้เล่นที่สามารถรีบาวด์ได้หนักแน่น ป้องกันห่วงได้ดี และยังช่วยยืดเกม ด้วยการชู้ตระยะกลางถึงไกล การได้เล่นเคียงข้าง Nikola Vucevic และ Patrick Williams จะช่วยให้สมิธ ไม่ต้องแบกรับภาระเกมในเองมากเกินไป เขามีอิสระในการขยับเข้าหาช่องว่าง
ทำเกมรับ และหาจังหวะชู้ตที่ถนัด หากจาเลน สมิธรักษาความแม่นสามแต้มไว้เหนือ 36% และรักษาพลังเกมรับให้มั่นคง โอกาสในการกลายเป็น rotation player ระดับคงที่ก็อยู่ไม่ไกล การย้ายทีมครั้งนี้จึงอาจเป็น “เวลาของการปลดล็อก” ที่แฟนบาสหลายคนรอคอย
เส้นขนานแห่งศักยภาพ สมิธเหมือนใครในยุคนี้
ในเชิงสไตล์การเล่นจาเลน สมิธคล้ายกับผู้เล่นอย่าง ไอเซอาห์ แจ็กสัน (Isaiah Jackson) ผู้มี ปฏิกิริยา แห่งขอบห่วง หรือยาค็อบ โพลเทิล (Jakob Poeltl) แต่มีระยะชู้ตที่ดีกว่า เขาไม่ใช่สายแกร่งแบบ traditional big แต่เป็น hybrid forward ที่มีทั้งการชู้ต การสู้รีบาวด์ และการป้องกันได้หลายตำแหน่ง
บทสรุป เมื่อเวลาคือสนามทดสอบสุดท้ายของสมิธ
ท้ายที่สุด “จาเลน สมิธ” คือหนึ่งในผู้เล่นที่ชื่อของเขา อาจไม่ได้ดังระเบิด แต่เต็มไปด้วยความน่าสนใจในมุมของเวลา และโอกาส เขาไม่ใช่ดาวที่เปล่งแสงเร็ว แต่คือพลังที่รอวันปะทุอย่างมั่นคง มีเส้นทางที่เต็มไปด้วยการรอคอย การปรับตัว และการสะสมพลัง เพื่อรอวันที่จะพิสูจน์ และนั้นอาจมีค่ามากกว่าที่ใครคาดคิด
อะไรคือปัจจัยที่ทำให้จาเลน สมิธยังไม่ทะลุเพดาน ?
โอกาสลงสนามที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ความมั่นใจ และจังหวะเกมยังไม่เสถียร ในระบบทีมที่ไม่เน้นการใช้ฟอร์เวิร์ดไฮบริด ทำให้เขาไม่สามารถแสดงศักยภาพเต็มที่ อีกทั้งการเปลี่ยนทีมหลายครั้งในระยะสั้น ทำให้ต้องเริ่มต้นใหม่ซ้ำๆ ในแต่ละระบบ
บทบาทในทีมบูลส์ เหมาะกับจุดแข็งของสมิธหรือไม่ ?
เหมาะ ถ้าบูลส์ให้โอกาสเขาเล่นในบทบาท stretch forward ที่มีหน้าที่รีบาวด์ และคุมพื้นที่ในแดนในอย่างต่อเนื่อง สมิธสามารถเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่สร้างสมดุลระหว่างพลัง กับเทคนิคได้ดี เขาอาจไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ในเร็ววัน แต่ในระบบที่ให้เวลา เขาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ส่องสว่างในที่สุด
- Tags: กีฬา


