
วอลรัส ราชันเขี้ยวยักษ์ แห่งขอบโลกขั้วเหนือ
- J. Kanji
- 7 views

วอลรัส ราชันเขี้ยวยักษ์ โดดเด่นด้วยเขี้ยวยาว หนวดหนา และพฤติกรรมสังคมที่ซับซ้อน มันไม่ใช่แค่สัตว์ตัวใหญ่ แต่ยังเป็นส่วนสำคัญ ของระบบนิเวศทะเลหนาว ด้วยความสามารถในการปรับตัว และบทบาทในฝูง ทำให้ชีวิตของมัน น่าศึกษายิ่งกว่าที่เห็น มันคือสัญลักษณ์สำคัญ ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลง ของอาร์กติกในปัจจุบัน
- ลักษณะของวอลรัส และการปรับตัวในอาร์กติก
- แหล่งอาศัย อาหาร และพฤติกรรมสังคมในฝูงของวอลรัส
- ความท้าทาย และผลกระทบต่ออนาคตของวอลรัส
ลักษณะที่โดดเด่นของวอลรัส
วอลรัสเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทางทะเลในตระกูล Odobenidae มีขนาดตัวใหญ่ จนเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ประจำขั้วโลก ตัวผู้โตเต็มวัยอาจหนักได้ตั้งแต่ 1,000–1,700 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะเล็กกว่าเล็กน้อย แต่ยังคงดูใหญ่โตอยู่ดี สิ่งที่ทำให้วอลรัสโดดเด่นกว่าสัตว์อื่น คือเขี้ยวคู่ยาว ๆ เขี้ยวนี้แท้จริงแล้วคือฟันเขี้ยว (canine) ที่งอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ
บางตัวมีความยาวได้เกือบ 1 เมตร เขี้ยวเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพียงโชว์ความเท่ แต่ใช้ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ปีนขึ้นก้อนน้ำแข็ง ป้องกันตัวจากผู้ล่า เช่น หมีขั้วโลก และวาฬเพชฌฆาต ใช้กำหนดระดับชั้นทางสังคมในฝูง ยิ่งเขี้ยวยาวยิ่งมีอำนาจ นอกจากเขี้ยวแล้ว เสน่ห์อีกอย่างคือ “หนวด” ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งแข็ง ๆ เรียงกันเป็นแถบ
วอลรัสใช้หนวด ที่ไวเหมือนเซนเซอร์ ค้นหาอาหารใต้ทะเล ในที่มืดสนิทได้อย่างแม่นยำ หนวดเหล่านี้ มีปลายประสาทจำนวนมาก ทำให้ตรวจจับการสั่นสะเทือนเล็ก ๆ ใต้ผิวน้ำได้ดีเยี่ยม และยังช่วยให้ระบุขนาด รูปร่าง และตำแหน่งของเหยื่อ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (25 พฤศจิกายน 2025) [1]
แหล่งอาศัยของวอลรัส โลกน้ำแข็งและชายฝั่งอาร์กติก
วอลรัสกระจายตัว อยู่ในเขตอาร์กติก และใกล้อาร์กติก ซึ่งกินพื้นที่ใหญ่ตั้งแต่ อลาสก้า, แคนาดา, ไปจนถึงรัสเซีย โดยข้อมูลของ USGS ในปี 2014 รายงานว่า วอลรัสในฝั่งแปซิฟิก มีการขึ้นฝั่งรวมฝูงถี่ขึ้น กว่าทศวรรษก่อน เนื่องจากน้ำแข็งทะเลหดตัวเร็วขึ้น เพราะอาหารหลักของมัน อยู่ตามพื้นทะเลโคลนตื้น ๆ บริเวณชายฝั่ง และชั้นน้ำแข็งตามฤดูกาล
พื้นที่โปรดของวอลรัส มีลักษณะเด่นคือ
- ก้อนน้ำแข็งลอย (ice floes) ใช้เป็นที่พักหลังขึ้นมาหายใจ พักผ่อน และรวมฝูงนับร้อยตัว
- ชายฝั่งกรวดและทราย เป็นจุดที่วอลรัสขึ้นมานอนตากแดด หรือตั้งอาณานิคมขนาดใหญ่
- เขตน้ำที่อุณหภูมิต่ำ วอลรัสทนเย็นได้เยี่ยม เพราะมีไขมันสะสมหนากว่า 15 เซนติเมตร
แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น อย่างต่อเนื่อง พื้นที่พักของวอลรัสบางแห่ง เริ่มลดลงมากจนต้องย้ายถิ่นบ่อยขึ้น ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของมัน อย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านการหาอาหาร การรวมฝูง และความปลอดภัยของลูกอ่อน
พฤติกรรมการใช้ชีวิตในฝูง ยักษ์ใหญ่ที่รักสังคม
วอลรัสเป็นสัตว์สังคมอย่างแท้จริง มักรวมตัวเป็นฝูงใหญ่ ตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักพัน ยิ่งช่วงฤดูร้อน ยิ่งเห็นเป็นฝูงใหญ่ขึ้น จุดเด่นของพฤติกรรมวอลรัส ได้แก่
- ชอบสัมผัสกัน: ไม่ว่าจะเป็นการถูตัว นอนทับกัน หรือเอนตัวพิงกัน วอลรัสชอบอยู่ใกล้ ๆ กันเพื่อความอบอุ่น และความปลอดภัย
- มีลำดับชั้นในฝูง: ตัวผู้ที่มีเขี้ยวยาว และแข็งแรงกว่า จะมีตำแหน่งทางสังคมสูงกว่า ตัวอื่นจะหลีกทาง หรือยอมถอยโดยอัตโนมัติ
- สื่อสารด้วยเสียงดังมาก: เสียงร้องของวอลรัสดัง จนบางครั้งได้ยินเป็นกิโลเมตร มีทั้งเสียงบ่น เสียงเรียกคู่ เสียงเตือนภัย และเสียงอวดเก่ง ของตัวผู้เวลาต่อสู้
- ชอบแช่น้ำเพื่อคลายร้อน: แม้จะอยู่ในอาร์กติก แต่บางวันแดดแรงมาก จนวอลรัสต้องรีบลงน้ำ เพราะร่างกายขนาดใหญ่ของมัน ร้อนง่ายกว่าที่คิด
วอลรัสกินอะไร และทำไมมันถึงกินเยอะมาก ?

แม้จะตัวใหญ่โต แต่เมนูโปรดของวอลรัส กลับเป็นสัตว์ขนาดเล็ก โดยเฉพาะ หอยสองฝา (clams) ซึ่งเป็นอาหารที่มีอยู่ทั่วไป ตามพื้นทะเลโคลน วอลรัสจะใช้หนวดสแกนพื้นทะเล และเมื่อเจอหอย มันจะดูดเนื้อหอยออกอย่างแรง ชนิดที่เปลือกปลิว แทบไม่ต้องใช้แรงกัดเลย อาหารอื่น ๆ ได้แก่ หอยทากทะเล กุ้งเล็ก ๆ และปลาบางชนิด
วอลรัสเป็นนักกินตัวจริง เพราะต้องกินถึงหลายสิบกิโลกรัมต่อวัน เพื่อรักษาพลังงาน และไขมันสำหรับเอาตัวรอด ในเขตหนาวจัด อีกทั้งยังต้องสะสมชั้นไขมันหนา เพื่อป้องกันความเย็น และใช้เป็นพลังงานสำรอง ในช่วงที่หาอาหารได้ยากในฤดูหนาว ทำให้พวกมันต้องหาอาหารบ่อย และใช้พลังงานมากกว่า สัตว์ทะเลหลายชนิด
วงจรชีวิตและการสืบพันธุ์ ความผูกพันของแม่กับลูกน้อย
วอลรัสโตช้า และอายุยืนกว่า 30–40 ปี บางตัวอาจถึง 50 ปีด้วย โดยช่วงวัยเจริญพันธุ์จะเริ่มราวอายุ 7–10 ปี และหลังจากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ แข็งแรงเต็มที่จนเข้าสู่ช่วงพีคของชีวิต
- ฤดูผสมพันธุ์: เกิดช่วงฤดูหนาว ตัวผู้จะต่อสู้กันเพื่อแย่งสิทธิ์ผสมพันธุ์ โดยใช้ทั้งเสียงดังและเขี้ยว เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่และดุดัน
- อุ้มท้องยาวนานมาก: แม่วอลรัสตั้งท้องนานประมาณ 15–16 เดือน ถือว่ายาวสุด ๆ เมื่อเทียบกับสัตว์ทะเลชนิดอื่น
- ลูกวอลรัส: เมื่อคลอดออกมา ลูกจะหนักราว 45–75 กิโลกรัม และสามารถว่ายน้ำได้เกือบทันที
แม่วอลรัสจะเลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิด เป็นเวลานาน บางคู่ดูแลกันถึงสองปีขึ้นไป และลูกวอลรัสมีความผูกพันกับแม่สูงมาก มักร้องเรียกแม่ตลอดเวลา อีกทั้งแม่จะคอยประคองลูกเวลาว่ายน้ำ และสอนทักษะพื้นฐาน ในการเอาตัวรอดอย่างต่อเนื่อง
ความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลงของทะเล
แม้วอลรัสจะไม่มีศัตรู ตามธรรมชาติมากนัก นอกจากวาฬเพชฌฆาต และหมีขั้วโลก แต่ภัยที่ใหญ่ที่สุดของมัน กลับเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งข้อมูลอัปเดตของ IUCN ในปี 2025 ยังระบุว่าวอลรัสถูก จัดให้อยู่ในกลุ่ม Vulnerable ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยง ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน (2025) [2]
- น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น – ทำให้วอลรัสไม่มีพื้นที่ พักใกล้แหล่งอาหาร ต้องว่ายน้ำไกลขึ้น เสี่ยงเสียพลังงานจนร่างกายอ่อนล้า
- การรวมตัวบนชายฝั่งเพิ่มความเสี่ยง – เมื่อไม่มีน้ำแข็ง วอลรัสหลายหมื่นตัว จะขึ้นฝั่งเดียวกัน บางครั้งเกิดการแตกตื่น ทำให้ลูกวอลรัสถูกเหยียบตายจำนวนมาก
- การแข่งขันหากินหนักขึ้น – ทะเลอุ่นขึ้น ระบบนิเวศเปลี่ยนไป ทำให้หอยสองฝา และสัตว์หน้าดิน ลดจำนวนลงในบางพื้นที่
งานวิจัยปี 2012 ยังชี้ชัดว่า ภาวะโลกร้อน และการลดลงของน้ำแข็งทะเล ส่งผลให้พฤติกรรมของวอลรัส เปลี่ยนไปอย่างเป็นระบบ เช่น ต้องย้ายจากน้ำแข็ง ไปใช้ชายฝั่งแทน ทำให้มีความเสี่ยง ต่อการถูกเหยียบตาย เมื่อเกิดการแตกตื่น และยังอาจส่งผล ต่อจำนวนประชากร ในระยะยาว เนื่องจากเข้าถึงแหล่งอาหาร ได้ยากขึ้น (22 กรกฎาคม 2012) [3]
บทสรุป เรื่องราวของ วอลรัส ราชันเขี้ยวยักษ์
วอลรัส ราชันเขี้ยวยักษ์ ไม่ใช่แค่ยักษ์ใหญ่ ริมขอบอาร์กติก แต่คือผู้รักษาสมดุล ของระบบนิเวศทะเลหนาว พฤติกรรมสังคมที่แน่นแฟ้น การพึ่งพาน้ำแข็งเป็นที่พัก และบทบาทต่อห่วงโซ่อาหาร ทำให้มันเป็นดัชนีชี้วัด การเปลี่ยนแปลงของโลกร้อน อย่างชัดเจน ยิ่งน้ำแข็งละลายเร็วขึ้นเท่าไร ชีวิตของวอลรัส ก็ดูจะยิ่งท้าทายขึ้นเท่านั้น
ทำไมวอลรัสต้องมีเขี้ยวยาวมาก ?
เขี้ยวยาวช่วยให้วอลรัสป้องกันตัว ปีนก้อนน้ำแข็ง และสร้างลำดับชั้นในฝูง ตัวที่มีเขี้ยวยาว และแข็งแรงกว่า มักมีอำนาจมากกว่า และมีโอกาสได้คู่ผสมพันธุ์สูงขึ้น นอกจากนี้เขี้ยวยังเป็นเครื่องมือสำคัญ เวลาวอลรัสต้องต้านคลื่นแรง ๆ และยึดตัวเองบนแผ่นน้ำแข็ง เพื่อพักหรือป้องกันลูกอ่อน
วอลรัสใช้ชีวิตบนบก หรือน้ำมากกว่ากัน ?
มันใช้ชีวิตทั้งสองแบบ ลงน้ำเพื่อหาอาหาร และขึ้นบกหรือน้ำแข็งเพื่อพักผ่อน เขี้ยวของมันยังช่วยดึงตัวขึ้นจากน้ำ ได้อย่างสะดวกอีกด้วย และในบางฤดูกาล จะใช้เวลาบนบกมากขึ้น เมื่อแผ่นน้ำแข็งละลาย ส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิต ปรับตามสภาพแวดล้อม
- Tags: สัตว์


