
วิธีใช้ AI จำลองผ่าตัด ในทางการแพทย์
- MY Kismet
- 9 views

วิธีใช้ AI จำลองผ่าตัด วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ ที่กำลังนำการแพทย์ ก้าวขึ้นไปสู่อีกขั้น ทั้งนี้การสร้างแบบจำลอง ถูกสร้างขึ้นเพื่อ เพิ่มศักยภาพการทำงาน ของแพทย์ในตอนนี้ และเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ของกลุ่มผู้ป่วย หลายประเทศเริ่มมีการ ใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว และเทคโนโลยีนี้ มีข้อดีที่เราอยากนำเสนอ
- ยุคแรกของการแพทย์สมัยใหม่และหุ่นยนต์ตัวแรก
- ศักยภาพการทำงานและประโยชน์ที่การแพทย์ได้รับ
- ประโยชน์ส่วนอื่นและอนาคตการเติบโต
การทำงานร่วมกัน ในวงการแพทย์และเอไอ
องค์ความรู้ทั้งหมด เกี่ยวกับสาขาการแพทย์ และการทำงานร่วมกัน ของมนุษย์และ ปัญญาประดิษฐ์ มีองค์ความรู้มากกว่า 90% ที่เชื่อว่าเริ่มขึ้นตั้งแต่ ช่วงทศวรรษ 1950 และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาจนถึงช่วง ทศวรรษ 1980 หลังจากนั้น การพัฒนาแหล่งข้อมูล ได้มีการตีแผ่แง่มุม เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
วงการแพทย์ในตอนนี้ จะมีองค์ความรู้ ทางการแพทย์ ที่ใช้ในการวินิจฉัย การตรวจโรค และการอธิบาย ผลกระทบของโรคนั้นๆ จะเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจาก “Bigdata” เป็นกลุ่มฐานข้อมูลใหญ่ ที่มีการวิเคราะห์แล้ว ว่ามีสัดส่วนความแม่นยำสูง (11 กันยายน 2020) [1] อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้
ยังสามารถนำไป พัฒนาต่อยอด ระบบเทคโนโลยีได้ สำหรับการเลือกฟัง การวิเคราะห์ของหุ่นยนต์ ได้เริ่มมีการรับฟังครั้งแรก เมื่อปี 2499 โดยเป็นการใช้ ลักษณะพิเศษ เรื่องการเลียนแบบ พฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อใช้เป็นฐานการวิเคราะห์ และจัดการหาทางออก โดยเป็นการจัดการผ่าน อัลกอริทึมแบบคำนวณ
หุ่นยนต์ผ่าตัดตัวแรก ที่ได้รับการพัฒนาเป็นต้นแบบ
หุ่นยนต์ในทางการแพทย์ มีการใช้งานอยู่ 2 รูปแบบคือ รูปแบบการสัมผัส และรูปแบบอัตโนมัติ โดยเป็นสัมผัส จะเน้นเป็นการเลียนแบบ พฤติกรรมของผู้ใช้ และอัตโนมัติ จะเป็นการทำงาน ผ่านการวิเคราะห์ และการจำลองการรักษา ที่มีประสิทธิผลสูงสุด ก่อนการลงมือรักษา
หุ่นยนต์ตัวแรก ที่ใช้ในการผ่าตัด มีชื่อเรียกว่า “ROBODOC” ถูกใช้ในการผ่าตัดกระดูก เริ่มใช้ครั้งแรกเมื่อปี 1992 เป็นระบบหุ่นยนต์ แบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ตัวนี้ ได้มีการจำลองการผ่าตัด กระดูกสะโพกและข้อ และมีการ วางแผนการรักษา แบบไม่พึ่งพาซีเมนต์ และการพัฒนาครั้งนี้ ยังคงต้องปรับปรุงอีกหลายเรื่อง
ระบบเอไอ เพิ่มศักยภาพด้านใด ในวงการแพทย์
ปัญญาประดิษฐ์ถือได้ว่า มีประโยชน์สูงสุด ในวงการแพทย์ สมัยใหม่ เพราะมีฐานข้อมูล ขนาดใหญ่ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา ยกตัวอย่าง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีสถานพยาบาล มากกว่า 300 แห่ง และค่ารักษา การผ่าตัดค่อนข้างสูง และการเข้ามาของเอไอ สามารถจัดการปัญหาได้ดังนี้
- การจัดลำดับ: ข้อมูลคนไข้ และการวินิจฉัยโรค ระบบเอไอสามารถ จัดเรียงความสำคัญ ของคนไข้ที่ต้องการ ความช่วยเหลือ จากมากไปน้อยได้
- ตารางเวลา: ระบบเอไอสามารถ จัดตารางเวลา การผ่าตัดได้ เพื่อลดปัญหาความซับซ้อน ของการทำงานร่วมกัน
- ความแม่นยำ: มีการสำรวจพบว่า การใช้ระบบเอไอ คำนวณเวลาที่ใช้ ในการผ่าตัด สามารถวิเคราะห์ ได้อย่างแม่นยำมากกว่า 34% สิ่งนี้ช่วยในการ จัดการช่วงเวลา ของการผ่าตัดได้ (2025) [2]
- ลดภาวะแทรกซ้อน: ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล การรักษาเบื้องต้น เพื่อลดปัญหาการเกิด ภาวะแทรกซ้อน ขณะผ่าตัดได้เป็นอย่างดี สิ่งนี้ช่วยทำให้ คนไข้มีโอกาสรอดสูง
ประโยชน์ที่บ่งชี้ว่า ใช้ AI จำลองผ่าตัดเป็นเรื่องดี

ในตอนนี้นั้น มีการคาดการณ์ว่า ช่วงปี 2023-2026 การผ่าตัดโดยเอไอ มีโอกาสเติบโต ค่าเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 12.5% และนั้นอาจจะเป็น เรื่องที่ดีของวงการแพทย์ เพราะตอนนี้นั้น มีโรงเรียนเกี่ยวกับ การแพทย์ได้เพิ่มหลักสูตร การสอนผ่านเอไอแล้วกว่า 84.9% (3 พฤศจิกายน 2025) [3] ประโยชน์ที่เอไอ สามารถทำได้มี ดังนี้
1. สำหรับการผ่าตัด ในทางการแพทย์ เอไอช่วยให้การรักษา แบบการผ่าตัด มีความแม่นยำเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 40% และสิ่งนี้ทำให้ ระยะเวลาในการรักษา ลดน้อยลงไปด้วย
2. ช่วงเวลาในการรักษา หรือการผ่าตัด มีโอกาสลดลง 25% เพราะการทำงานของเอไอ เป็นการทำงาน แบบการวิเคราะห์เรียลไทม์ สิ่งนี้สามารถ คาดการณ์การรักษา ได้แบบใกล้ชิด
3. ผู้ป่วยที่เข้ารับ การผ่าตัดส่วนใหญ่ มีโอกาสฟื้นตัวเร็ว จากการผ่าตัดเพิ่มขึ้น 15% เพราะการผ่าตัดที่ใช้ วัสดุใหม่ รักษาตัวเองได้ และทำให้ไม่มีโอกาสเกิด ภาวะแทรกซ้อน ขณะการผ่าตัด
4. สำหรับกลุ่มแพทย์ การทำงานของระบบเอไอ สามารถจำลองรูปแบบ การผ่าตัดที่แม่นยำ โดยมีการวิเคราะห์ สรีรของผู้ป่วยก่อนแล้ว สิ่งนี้ทำให้แพทย์ ลดความเหนื่อยลงได้
5. หากมีกรณีพิเศษ หรือการผ่าตัด ที่มีความยากสูง ระบบเอไอเหล่านี้ สามารถจำลองการผ่าตัด เพื่อวิเคราะห์ และหาโอกาสรอดได้ สิ่งนี้ทำให้แพทย์ ลดความกังวล ในการผ่าตัดลงได้
สิ่งที่ระบบ AI ทำให้ได้มากกว่าการผ่าตัด
ก่อนการผ่าตัด
ระบบเอไอสามารถ วิเคราะห์ข้อมูล ผ่านการสร้างแบบจำลอง หรือผ่านการ MRI เพื่อสร้างฐานข้อมูล สำหรับคนไข้ได้ สิ่งเหล่านี้สามารถ ทำให้แพทย์มองเห็น บริเวณที่มีปัญหา และยังระบุตำแหน่ง ที่ต้องรักษา ได้อย่างชัดเจน
หลังการผ่าตัด
หลังจากเข้ารับ การผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ระบบเอไอสามารถ ตรวจจับชีพจร ในระหว่างการพักฟื้นได้ อีกทั้งยังสามารถ วิเคราะห์โครงสร้างคนไข้ เพื่อตรวจหา ภาวะแทรกซ้อน ระหว่างการพักฟื้นได้ เมื่อเกิดภาวะเหล่านั้นขึ้น จะมีสัญญาณเตือน ทำให้แพทย์รักษาได้ทัน
หากสนใจอ่านเพิ่มเติมคลิกอ่านได้ที่ pharmahealthexpo
อนาคตวงการแพทย์ และปัญญาประดิษฐ์
สำหรับการคาดการณ์ ของกลุ่มตลาดโลก ในเรื่องของการใช้ เอไอในการผ่าตัด เชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโต 12.5% ในทุกๆ ปี เพราะเชื่อว่าในอนาคต จะเกิดโรคเรื้อรัง เพิ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการรักษา แบบการผ่าตัด มีโอกาสเพิ่มจำนวนขึ้น ในอนาคตนั้น การผ่าตัดผ่านระบบเอไอ อาจจะได้รับความนิยมสูง
อีกส่วนที่จะเติบโต คืออัลกอริทึม ของฐานข้อมูลเครื่องจักร มีโอกาสเติบโตสูง หากเทียบฐานข้อมูล ตั้งแต่ปี 2023 ถึงช่วงปี 2026 การคาดการณ์ และการวิเคราะห์คนไข้ มีสัดส่วนที่ดีมากขึ้น อีกทั้งในอนาคต ความคล่องตัว ในเรื่องของการใช้งาน และการควบคุม จะมีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนสุดท้าย วิธีใช้ AI จำลองผ่าตัด
สุดท้ายแล้ววิธีใช้ AI จำลองผ่าตัดถือเป็นสิ่งใหม่ ที่กำลังทำให้การแพทย์ มีความก้าวหน้าไปอีกขั้น นอกจากจะช่วย ในส่วนของการผ่าตัดแล้ว ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด ก็สามารถใช้เอไอ ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็น ความพัฒนาของวงการแพทย์
ทำไมต้องติดตาม หลังการผ่าตัดเสร็จ
สำหรับการติดตาม เพื่อการเก็บข้อมูล การรักษาหลังการผ่าตัด เป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะในระยะนี้ คนไข้มีโอกาสสูง ที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน และเมื่อเกิดภาวะนี้ขึ้น ระบบเอไอเหล่านี้ จะช่วยให้แพทย์ เข้ารักษาได้ทัน ลดการเกิดปัญหาทับซ้อน และทำให้ผู้ป่วย มีโอกาสรอดสูง
ทำไมต้องเรียงลำดับ การผ่าตัด
สำหรับการเข้าห้องผ่าตัด ที่มีจำกัดของโรงพยาบาล ผู้ป่วยหลายคน ที่อยู่ในภาวะวิกฤต จำเป็นต้องได้รับ การรักษาในขณะนั้น การเตรียมการ และการเรียงลำดับ ความสำคัญของผู้ป่วย ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต อีกทั้งช่วยจัดการ การทำงานของแพทย์ได้เป็นอย่างดี
- Tags: วิทยาศาสตร์
แหล่งอ้างอิง


