สตรอว์เบอร์รี เป็นผลไม้ที่ชื่นชอบ ของใครหลายคน และยังมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว กินเมื่อไหร่ก็สดชื่นแน่นอน ปัจจุบันผลไม้ดังกล่าว นิยมนำมาแปรรูปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แยม เยลลี่ เป็นต้น ซึ่งไม่เพียงแค่สีสันสดใส และรสชาติที่ใครก็ต่างติดอกติดใจ
สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ที่นิยมมากที่สุด [1] ปัจจุบันเพาะปลูกได้ง่าย และแพร่กระจายมากขึ้น ในหลายพื้นที่ของไทย ผลไม้ชนิดนี้มีรูปร่าง รวมถึงสีสันดึงดูดใจ รสชาติเปรี้ยวจนถึงหวาน กลิ่นหอมถูกใจผู้บริโภค
จัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง รวมทั้งอุดมไปด้วยกรดแกลลิก (gallic acid) และกรดเอลลาจิก (ellagic acid) ซึ่งพบได้มากในพืชตระกูลเบอร์รี มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยป้องกันและลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจได้
ช่วยรักษาโรคเหน็บชา, ช่วยรักษาโรคนิ่วในไต, ช่วยป้องกันโรคเกาต์, ช่วยลดอาการเจ็บคอ, แก้ต่อมทอมซิลอักเสบ, แก้หวัด, ช่วยรักษาภูมิแพ้, ช่วยรักษาเลือดออกตามไรฟัน, ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง, มีอนุมูลอิสระ ภูมิคุ้มกัน, ช่วยบำรุงผิวพรรณ, ช่วยลดความอ้วน, ช่วยดีท็อกซ์, ช่วยบำรุงประสาท, ช่วยบำรุงสมอง
อีกทั้งช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง, ช่วยป้องกันโรคหัวใจ, ช่วยรักษาโรคหลอดเลือดอุดตัน, ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต, บำรุงโลหิต, ช่วยบำรุงสายตา, ช่วยบำรุงกระดูก, ช่วยบำรุงฟัน, แก้ท้องผูก, ช่วยระบบย่อย, ช่วยระบบลำไส้, ช่วยขับปัสสาวะ และสุดท้ายช่วยในเรื่อง รักษาโรคไขข้อ อีกด้วย
สตรอว์เบอร์รี ได้รับการยกย่อง ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ และความงาม นั่นก็เพราะอุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระสูง และหลากหลายชนิด เมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่น มากกว่าส้ม 1.5 เท่า องุ่น 2 เท่า กีวี 3 เท่า มะเขือเทศและกล้วยหอม 7 เท่า และมากกว่าลูกแพร์ 15 เท่า