
สัตว์ป่า แห่งโพสต์ ที่กำลังเรียนรู้จังหวะของป่า
- Harry P
- 6 views

สัตว์ป่า แห่งโพสต์ อีฟ มิสซี่ (Yves Missi) คือหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ในกลุ่มเซนเตอร์รุ่นใหม่ เขามีทั้งพลังดิบ ความดุดันตามสัญชาตญาณ และโครงสร้างร่างกายที่เหมือนสัตว์ป่า ในพื้นที่ของตัวเอง มิสซี่คือผู้เล่นที่ยังไม่ถึงจุดสุด แต่เริ่มแสดงให้เห็นว่าจังหวะของเขา กำลังก้าวสู่โลก NBA อย่างไร
- โปรไฟล์พื้นฐานของมิสซี่
- บทบาทของอีฟ มิสซี่ในทีมพีลิแกนส์
- วิธีรับมือกับผู้เล่นแนวรับแบบมิสซี่
โครงสร้างร่างกายที่เกิดมาเพื่อเป็น rim protector
อีฟ มิสซี่เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2004 ที่ประเทศแคเมอรูน เขามีจุดเด่นทางกายภาพ ที่โดดเด่นตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น ความสูงระดับ 6 ฟุต 11 นิ้ว Wingspan ยาวเกิน 7 ฟุต 2 นิ้ว และสปริงเท้า ที่ทำให้เขาปะทะกับผู้เล่นระดับ NBA ได้แบบไม่เสียหลัก
มิสซี่ถูกดราฟท์ในรอบแรกของ NBA Draft 2024 เป็นลำดับที่ 21 โดย New Orleans Pelicans ทีมที่มองเห็นว่าร่างกาย และสัญชาตญาณแบบ raw athleticism ของเขา สามารถพัฒนาให้กลายเป็น เซนเตอร์เชิงป้องกันระดับแนวหน้าได้ จุดแข็งของเขาไม่ใช่แค่บล็อก แต่คือจังหวะก่อนบล็อก (2 พฤศจิกายน 2025) [1]
เกมรุกในโพสต์ พลังดิบที่กำลังถูกขัดเกลา

แม้อีฟ มิสซี่จะยังไม่ใช่เซนเตอร์ สายเทคนิคแบบ Jokic หรือ Sabonis แต่จุดเด่นของมิสซี่คือ ความตั้งใจทุกครั้งที่สัมผัสบอล เขาเล่นด้วยความมุ่งมั่น ไม่รีรอ และใช้แรงระเบิดกำลังขา ทำลายสมดุลคู่แข่ง
สิ่งที่พัฒนาขึ้นชัดเจนคือ
- การอ่านตำแหน่งผู้เล่นปีก ก่อนส่งบอลออก – มิสซี่เริ่มมองเห็นว่าปีกยืนตรงไหน รับบอลได้หรือไม่ และเลือกจังหวะส่งที่ปลอดภัยขึ้น
- การก้าวจังหวะที่แม่นขึ้น ในพื้นที่แคบ – มิสซี่เริ่มรู้ว่าควรวางเท้าตอนไหน เพื่อไม่เสียบาลานซ์ ทำให้หลุดจากการเบียดของคู่แข่งได้ดีขึ้น
- การปกป้องบอลในจังหวะโพสต์อัพ ที่ค่อยๆดีขึ้น – มิสซี่เริ่มใช้ไหล่ แขน และลำตัวบังบอลได้ดีขึ้น ไม่เปิดช่องให้คู่แข่งสกัดง่ายๆ
มิสซี่ยังเป็นผู้เล่นที่มีความเร็วทะลุคาดใน transition เมื่อบอลอยู่ในมือของแกนหลัก เขาสามารถวิ่งนำช่อง เพื่อทำฟาสต์เบรกง่ายๆ แบบที่เซนเตอร์ยุคใหม่ทำกัน เช่นเดียวกับที่ คอนโทรลเลอร์ จากอีกมิติ อย่างแบรนดิน พอดเซียมสกี้ เคยสร้างประโยชน์ให้ Warriors ด้วยการวิ่งสร้างแรงโน้มถ่วงแบบ off-ball ซึ่งเป็นแบบที่มิสซี่เริ่มทำมากขึ้น
เซนเตอร์ที่ทีมต้องหาวิธีใช้ให้คุ้มที่สุด
ฤดูกาลล่าสุดแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โครงสร้างของหลายทีมใน NBA เริ่มเปิดพื้นที่ให้เซนเตอร์สไตล์มิสซี่ มีบทบาทมากขึ้น เหมือนกับที่ Isaiah Jackson, Mark Williams หรือ Walker Kessler ค่อยๆเติบโตจากพลังดิบ ไปสู่ผู้เล่นที่เข้าใจ spacing และจังหวะของระบบอย่างลึกขึ้น
ปัจจุบันสิ่งที่ทีมต้องคิด ไม่ใช่เพียงแค่ว่าอีฟ มิสซี่ทำอะไรได้ แต่คือจะออกแบบบทบาท ให้เหมาะกับเส้นทางเติบโตของเขาอย่างไร บางทีมอาจปั้นมิสซี่เป็น drop defender ที่คุมวงในแบบตายตัว ขณะที่บางทีมอาจทดลอง ให้เขาสวิตช์ในบางจังหวะ เพื่อใช้ความคล่องตัว
ส่วนบางระบบอาจเลือกให้มิสซี่ เป็นตัวจบสกรีนสร้าง vertical spacing ด้วยพละกำลัง ทุกทางเลือกขึ้นอยู่กับว่าทีมต้องการให้เขาเป็น “สัตว์ป่า” ที่วิ่งกระแทกทุกอย่างตรงหน้า หรือ “ผู้ล่า” ที่รอจังหวะเหมาะ และเข้าจู่โจมอย่างแม่นยำ
สัตว์ป่าที่ใช้สัญชาตญาณเป็นฐาน แล้วค่อยเรียนรู้ชั้นเชิง

เกมรับคือจุดขายที่กำลังชัดขึ้นเรื่อยๆ
แกนหลักของอีฟ มิสซี่ยังอยู่ที่เกมรับ ซึ่งเป็นจุดที่สเกาต์มองตรงกัน เขามี block timing ที่ดี ตั้งหลักเร็ว และยืนนิ่งก่อนพุ่งบล็อก ทำให้คู่แข่งต้องเปลี่ยนมุมฟินิช แม้จะไม่แตะบอล การหมุนกลับมาช่วยใน weak side เริ่มนิ่งขึ้นตามประสบการณ์ ตอนอยู่ Baylor มิสซี่ทำ 1.5 บล็อกในเพียง 23.4 นาที
พร้อมเรตติ้งเกมรับที่แข็งมาก และเมื่อเข้าสู่ NBA ทีมพีลิแกนส์ก็ใช้เขาในบทบาท drop big เป็นหลัก โดยยังเสริมการดันขึ้นสูงในบางจังหวะ แม้การอ่านเพลย์สลับฝั่ง ยังไม่สมบูรณ์ แต่พื้นฐาน และสัญชาตญาณของเขาดีพอ ที่จะให้หลายฝ่ายเชื่อว่า ceiling ด้านนี้ยังอีกไกล
ป่าที่ทีมยังจัดระเบียบไม่เสร็จ
All-Rookie ในทีมผลงานพัง คือสัญญาณของค่าที่แท้จริง
ฤดูกาล 2024-25 พีลิแกนส์ชนะเพียง 21 เกม แต่ในสภาพทีมที่ไร้ทิศทาง มิสซี่กลับยืนเป็นหนึ่งในตัวหลักทันที เขาทำ 9.1 แต้ม 8.2 รีบาวด์ 1.3 บล็อก จาก 73 เกม และติด All-Rookie Second Team ชี้ชัดว่าแม้โครงสร้างทีมจะสั่นคลอน แต่เขาสามารถเป็นเสาหลักวงในได้ ตั้งแต่อายุเพียงยี่สิบต้นๆ
ปีสอง 2025-26: การเรียนรู้ท่ามกลางบทบาทที่ไม่นิ่ง
ต้นฤดูกาล 2025-26 บทบาทของเขาขึ้นลงตามปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ และการทดลองโรเตชันของทีม ทำให้ตัวเลขเฉลี่ยราว 6.1 แต้ม 5.4 รีบาวด์ 1.4 แอสซิสต์ แม้ดูดรอปจากปีแรก แต่ยังคงความคุ้มค่าต่อทุกนาทีในสนาม เพียงแต่ usage และความต่อเนื่องยังไม่ได้เพิ่ม แบบที่หลายคนคาดหวัง (28 พฤศจิกายน 2025) [2]
เหตุการณ์ปะทะกับ Jerami Grant ด้านดิบที่ต้องเรียนรู้
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกลางเกมกับ Portland เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2025 แม้จะไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่สะท้อนว่ามิสซี่เล่นด้วยไฟในตัว ที่พร้อมปะทะทุกจังหวะ สิ่งสำคัญคือ เขาต้องแปรพลังดิบนี้ ให้กลายเป็น จังหวะของป่า เลือกจู่โจมเมื่อถึงเวลา แทนการตอบสนองทันทีที่ถูกท้าทาย (13 พฤศจิกายน 2025) [3]
ถ้าคุณเป็นทีมคู่แข่ง จะใช้เกมรุกโจมตีมิสซี่ยังไง
การจะเข้าใจค่าของผู้เล่นแนวรับ เราต้องรู้ก่อนว่า “จะเจาะเขายังไง” ถ้าเรามองจากฝั่งคู่แข่ง สิ่งที่น่าทดสอบในตอนนี้คือ
- ดึงเขาออกมานอกโซน drop ให้ลึกที่สุด ผ่านการดึงชู้ตเตอร์มาสกรีนสูง แล้วบังคับให้เขาตัดสินใจเร็ว ว่าจะตามออก หรือถอยกลับ
- ใช้ ball-handler ที่มี floater ดี เพื่อให้เขาลังเลว่าควรสไลด์เข้าห่วงลึกแค่ไหน
- สร้าง mismatch ให้เขาต้องประกบปีกที่มีทักษะ handling ดี แล้วดูว่า lateral quickness ของเขาพอรับมือได้ไหมในระยะ 2-3 สเต็ป
ถ้าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เกมรับของทีมคู่แข่งเริ่มเจาะอีฟ มิสซี่ไม่ได้ด้วยวิธีเหล่านี้ นั่นแปลว่าการเรียนรู้ของเขา “ผ่านด่าน” สำคัญไปแล้ว และเขาน่าจะกลายเป็นเสาหลักแดนใน ที่ทีมต้องคิดหนักเวลาเจอพีลิแกนส์
บทสรุป สัตว์ป่า แห่งโพสต์ ที่เริ่มได้ยินเสียงของป่า
สุดท้ายแล้ว สัตว์ป่า แห่งโพสต์ “อีฟ มิสซี่” ไม่ใช่เซนเตอร์ที่โตแบบขุดหลุมฝึกทีละชั้น แต่เป็นผู้เล่นที่เรียนรู้จาก “กลิ่นอายของเกม” จังหวะเล็กๆที่คนอื่นไม่เห็น คำเตือนเล็กๆที่โค้ชพูด ทุกอย่างถูกซึมเข้าเกมของเขาทันที และถ้าเขาเพิ่มจังหวะคิดอีกเพียงครึ่งก้าว มิสซี่อาจกลายเป็นหนึ่งใน big man แบบใหม่ “ร่างสัตว์ป่าที่มีระบบในตัวเอง”
ทำไมอีฟ มิสซี่ถึงถูกมองว่าเป็นสัตว์ป่าแห่งโพสต์ ?
เพราะเขามีร่างกาย พละกำลัง และสัญชาตญาณป้องกันห่วงตามธรรมชาติ แต่ในเวลาเดียวกันก็เริ่มเรียนรู้จังหวะการอ่านเกม การยืนตำแหน่ง และการควบคุมอารมณ์ ทำให้ภาพของเขาเป็นทั้งพลังดิบ และความละเอียดทางเทคนิคในเวลาเดียวกัน เหมือนสัตว์ป่าที่เริ่มคุ้นชินกับกฎของป่า
เหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ส่งผลต่อภาพลักษณ์มิสซี่อย่างไร ?
มันทำให้เขาถูกมองว่ามีอารมณ์ร้อน แต่เมื่อดูตลอดทั้งฤดูกาล ตัวเลขฟาวล์เทคนิค และปัญหาด้านวินัยจริงๆ ไม่ได้มากจนเป็นความเสี่ยง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เขาจะเรียนรู้แยกแยะจังหวะที่ควรดุดัน กับจังหวะที่ควรนิ่งให้ได้ในปีต่อๆไป
- Tags: กีฬา


