รีวิว เที่ยว ยอร์ค เมืองอังกฤษยุควิกตอเรีย ที่ยังมีลมหายใจ ถ่ายรูปสวย ได้ฟีลย้อนเวลา

เที่ยว ยอร์ค คือการเดินเข้าไปในเมืองที่รู้สึกเหมือนหลุดไปอีกยุคหนึ่งจริงๆ เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่เมืองเก่า แต่เป็นเมืองที่ ประวัติศาสตร์ยังเดินอยู่บนถนนเดียวกับเรา ตั้งแต่สมัยโรมันสร้างกำแพงเมือง, ไวกิ้งเข้ายึดครอง, จนถึงยุควิกตอเรียที่ทำให้เมืองเริ่มเจริญด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม

ยอร์คคือเมืองที่ผสม 3 ยุค เข้ากับความเป็นอังกฤษเหนือแบบอบอุ่น มีทั้งมหาวิหารยักษ์ York Minster, กำแพงเมืองให้เดินชมวิว, ถนน Shambles ที่ให้ฟีลร้านพ่อมด แม่มดแบบแฮร์รี่พอตเตอร์ และคาเฟ่ ผับอังกฤษที่ยังคงกลิ่นอายโบราณเหมือนเวลาไม่ได้เดินไปไหน นักท่องเที่ยวเยอะ แต่ไม่ได้วุ่นวายเท่า ลอนดอน

คนส่วนใหญ่ที่เคยมารีวิวใน TikTok และ YouTube จะพูดคล้ายกันว่า มันเป็นเมืองที่เดินแล้วไม่อยากรีบออก เพราะทุกซอยมันเล่าเรื่องได้ ทำให้ยอร์คเหมาะกับทั้งคนชอบถ่ายรูป, คู่รัก, สายประวัติศาสตร์, และคนที่อยากพักความเร่งรีบแบบเข้าอังกฤษโหมดสบายแท้จริง

เมืองเก่าที่ผสมยุคกลางไว้อย่างลงตัว
เดินเที่ยวใจกลางเมืองแบบไร้แผนที่ สถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาด
สายตามรอยมุมหนังยุคกลางที่ยังมีชีวิต

ยอร์ค เมืองเก่าที่ผสมโรมัน ไวกิ้ง และอังกฤษยุคกลางไว้อย่างลงตัว

สิ่งที่ทำให้ยอร์คโดดเด่นกว่าเมืองเก่าทั่วไปคือ ร่องรอย 3 อารยธรรมยังอยู่ชัดเจน เริ่มจากกำแพงเมืองโรมันที่ยังเดินได้เป็นวงรอบเมือง, พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง Jorvik Viking Centre ที่สร้างบนพื้นที่ขุดเจอของจริง, ไปจนถึงย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยตึกครึ่งไม้สีเอียงแบบยุคกลาง (5 พฤศจิกายน 2025) [1]

ทำให้เดินเล่นแค่ครึ่งชั่วโมงก็รู้สึกว่าเมืองนี้มีคาแรกเตอร์ชัดมาก และยังสวยแบบไม่ต้องแต่งเติมอะไรเพิ่ม ยิ่งถ้ามาช่วงอากาศดี จะเห็นแสงอุ่นกระทบอิฐเก่าและหน้าต่างตะวันตกแบบอังกฤษแท้ ทำให้ภาพดูมีเสน่ห์แม้ไม่ต้องแต่งฟิลเตอร์เลย

จุดแรกที่ทุกคนต้องมาเช็กอิน

ยอร์คมินสเตอร์ – มหาวิหารหินสูงตระหง่านที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปเหนือ
กำแพงเมือง York City Walls – เดินฟรีรอบเมือง มุมถ่ายรูปเพียบ
Clifford’s Tower – หอคอยวงกลมที่ตั้งอยู่บนเนิน มองเห็นวิวเมือง 360°

รีวิวเมืองยอร์ค ที่อินฟลูฯพูดตรงกัน

YouTube สายประวัติศาสตร์: บอกว่าเมืองนี้คือ ของจริงที่ยังไม่ถูกปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบหลอกๆ
TikTok Travel: รีวิวว่ายอร์คคือ เมืองอังกฤษที่กล้องมือถือก็ถ่ายสวย
Blogger สายครอบครัว: แนะนำว่านั่งรถไฟมาง่ายกว่าเช่ารถ เพราะตัวเมืองเดินได้สบาย

เดินเที่ยวใจกลางเมืองยอร์ค แบบไม่ต้องมีแผนที่ ที่เที่ยวตัวเมืองห้ามพลาด

ยอร์คเป็นเมืองที่เดินสนุกมาก เพราะทุกแลนด์มาร์กอยู่ ในระยะเดินได้ ไม่ต้องนั่งรถขนส่งในเมือง แค่เริ่มจาก มหาวิหารยอร์ค แล้วค่อยไหลลงไปยัง Shambles ตลาดกลางเมือง และ Clifford’s Tower ก็เก็บได้ทั้งวัน (29 กันยายน 2025) [2]

ยิ่งช่วงบ่ายหลัง 3 โมง แสงเมืองจะเริ่มสวยจนถ่ายรูปมุมไหนก็ดูอบอุ่น ไม่ต้องเป็นสายกล้องก็ได้ภาพสวยเหมือนแมกาซีน

เส้นทางแนะนำ สำหรับสายชิล

เริ่มที่ มหาวิหารยอร์กมินสเตอร์ → เข้าด้านในหรือถ่ายด้านนอก
เดินเข้าย่านเมืองเก่า → ร้านเบเกอรี่ + คาเฟ่เยอะมาก
ลง ตลาดแชมเบิลส์ → หาของกินง่ายๆ ราคาไม่แรง
เดินต่อ หอคอยคลิฟฟอร์ดส์ → ปิดท้ายดูวิวพระอาทิตย์ตก

ร้านที่อินฟลูฯ รีวิวซ้ำเยอะสุด

Brew & Brownie – คาเฟ่ดีไซน์อังกฤษอบอุ่น + เค้กอร่อย
Shambles Kitchen – แซนด์วิช + เบอร์ริโต้ คนท้องถิ่นบอกว่าดีจริง
The House of Trembling Madness – ผับเก่าสุด มีคราฟต์เบียร์อังกฤษหลายตัว

ถนน Shambles & มุมหนังยุคกลางที่ยังมีชีวิต จุดถ่ายรูปที่รีวิวตรงกันว่า “ต้องไป”

Shambles Street คือถนนที่คนพูดถึงยอร์คมากที่สุด เพราะโครงสร้างบ้านยุคกลางยังคงสภาพจริง ทั้งผนังไม้เอียงนิดๆ หน้าต่างโบราณ และป้ายร้านเหล็กดัดแบบศตวรรษก่อน ทำให้มันเป็นถนนที่เวลาเดินแล้วเหมือนย้อนเข้าไปในโลกของ Harry Potter (2025) [3]

หลายบล็อกท่องเที่ยวถึงขั้นเรียกว่า “Diagon Alley ของโลกจริง” เพราะร้านขายเวทมนตร์ ของสะสมแฟนตาซี และร้านหนังสือเก่าเปิดเรียงตามทางแบบจัดเต็ม ยิ่งช่วงเย็นคนเยอะ แต่ฟีลจะอบอุ่นที่สุดเพราะร้านเริ่มเปิดไฟสีส้ม

มุมถ่ายรูปที่ได้ภาพสวย แบบยอดนิยม

หน้าร้าน The Shop That Must Not Be Named – สายพอตเตอร์ห้ามพลาด
ช่วงหัวมุมร้านไอศกรีม Shambles Gelato – มุมตึกเอียงสวยสุด
มุมที่เห็นตึกซ้อนกันสามหลัง + ป้ายแขวนเหล็กดัด – ถ่ายมือถือยังสวย

ข้อแนะนำจากอินฟลูฯ สั้นๆ 3 เรื่อง

ช่วง 09.00–10.00 คนยังไม่แน่น ถ่ายรูปสบาย
ถ้าฝนตก เบื้องหน้าเปียกสะท้อนกระจก ได้ภาพโทนหนังอังกฤษสวยมาก
ไม่ต้องซื้อทัวร์ เดินเองได้ แต่แนะนำหูฟังออดิโอไกด์ถ้าอยากฟังประวัติจริง

สรุป เที่ยว ยอร์ค เมืองที่ไปง่าย เที่ยวชิล ถ่ายรูปสวย และเหมาะกับทุกสไตล์ท่องเที่ยว

สรุปได้ว่า เที่ยว ยอร์ค คุ้มทั้งสายถ่ายรูปและสายเที่ยวช้า เพราะเดินง่าย ไม่ต้องใช้รถภายในเมือง และมีทั้งของกิน คาเฟ่ ประวัติศาสตร์ และมุมถ่ายรูปที่ไม่ต้องหามุมให้ยุ่งยาก เมืองนี้ครบทั้งบรรยากาศ วัฒนธรรม ความคลาสสิก และความอบอุ่นแบบอังกฤษเหนือที่แตกต่างจากลอนดอนแบบเห็นได้ชัด