
รีวิว เที่ยว เบอร์มิงแฮม (Birmingham) เมืองใหญ่ใจกลางอังกฤษ เที่ยวง่าย ครบทั้งวัฒนธรรม
- เฮียเกา
- 12 views

หากพูดถึงเมืองที่ มีชีวิตในแบบของตัวเองในอังกฤษ เที่ยว เบอร์มิงแฮม คือหนึ่งในนั้นแน่นอน เพราะมันไม่พยายามจะเหมือนลอนดอน ไม่เล็กน่ารักแบบ บาธ แต่กลับเต็มไปด้วยพลังของความคิดสร้างสรรค์ที่เติบโตจากอุตสาหกรรมเก่า เมืองนี้ถูกเรียกว่า “Workshop of the World” หรือ “โรงงานของโลก”
เพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากลอนดอนด้วยรถไฟ เมืองนี้ก็ต้อนรับคุณด้วยความคึกคักของ New Street Station ศูนย์กลางการเดินทางที่รวมทั้งตลาด ร้านอาหาร คาเฟ่ และเสียงดนตรีสดจากศิลปินท้องถิ่นไว้ในที่เดียว นักรีวิวใน TikTok พูดเหมือนกันว่า เบอร์มิงแฮมคือเมืองใหญ่ที่เดินง่ายกว่าที่คิด
เบอร์มิงแฮมไม่ได้เป็นเมืองที่ต้องวิ่งตามแลนด์มาร์ก แต่มันเป็นเมืองที่ต้อง เดินช้าๆ เพื่อเข้าใจมัน ยิ่งได้เห็นอาคารอิฐแดงเก่าที่ถูกรีโนเวตเป็นคาเฟ่หรือแกลเลอรี ยิ่งรู้สึกได้ว่า เมืองนี้ไม่ลืมอดีต แต่อยู่กับปัจจุบันได้อย่างเท่
- เบอร์มิงแฮมเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลง
- ประวัติและความสำคัญของเมืองใหญ่ใจกลางอังกฤษ
- เดินเที่ยวเบอร์มิงแฮมผสมความเก่าและใหม่แบบลงตัว
เบอร์มิงแฮม เมืองแห่งการเปลี่ยนแปลง จากอุตสาหกรรม สู่ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์
เบอร์มิงแฮมเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอังกฤษ และเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุโรป แต่แทนที่เมืองจะหยุดอยู่แค่ภาพของเครื่องจักรหรือปล่องควัน วันนี้เบอร์มิงแฮมได้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ แกลเลอรี และพื้นที่เปิดสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ (28 กุมภาพันธ์ 2022) [1]
หนึ่งในแลนด์มาร์กที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงนี้คือ Library of Birmingham อาคารห้องสมุดสาธารณะที่สวยที่สุดในยุโรป ด้วยดีไซน์สมัยใหม่และคาเฟ่ชั้นบนที่มองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา ส่วนใกล้ๆ กันคือ Cathedral Square ที่เต็มไปด้วยอาคารยุควิกตอเรียและสวนสงบกลางเมือง
แม้เมืองนี้จะเคยถูกมองว่าเป็นเมืองโรงงาน แต่วัฒนธรรมศิลปะกลับเติบโตอย่างรวดเร็ว อินฟลูฯใน YouTube รีวิวไว้ว่า “เบอร์มิงแฮมคือเมืองที่สมดุลระหว่างคนทำงานกับคนมีฝัน” เพราะคุณสามารถเห็นคนในสูทเดินผ่านศิลปินที่กำลังเพ้นท์กำแพงได้ในตรอกเดียวกัน
ประวัติและความสำคัญ ของเมืองใหญ่ใจกลางอังกฤษ
เบอร์มิงแฮมก่อตั้งตั้งแต่ยุคกลาง แต่เริ่มเจริญจริงจังในศตวรรษที่ 18 เมื่อเป็นจุดศูนย์กลางการผลิตโลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์อุตสาหกรรมของอังกฤษ เมืองนี้คือที่กำเนิดของสิ่งต่างๆ ที่โลกใช้อยู่ทุกวัน ตั้งแต่สกรู ไปจนถึงเครื่องยนต์ไอน้ำ และเป็นบ้านเกิดของ James Watt นักประดิษฐ์ชื่อดังที่เปลี่ยนโลกการผลิตสมัยใหม่
ปัจจุบัน เที่ยว เบอร์มิงแฮม เป็นเมืองที่มีนักศึกษามากที่สุดเมืองหนึ่งในอังกฤษ ทำให้บรรยากาศของเมืองมีชีวิตชีวาและทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ ถนนเก่าถูกปรับให้เข้ากับวิถีคนรุ่นใหม่ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของตึกอิฐแดงไว้ทั้งหมด นักเดินทางมักพูดตรงกันว่า “นี่คือเมืองที่มีทั้งกลิ่นอายอดีตและอนาคตอยู่ในที่เดียว”
แลนด์มาร์กเด่น เมืองเบอร์มิงแฮม
- Library of Birmingham: ห้องสมุดสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดของอังกฤษ พร้อมวิวดาดฟ้าที่มองเห็นเมืองทั้งเมือง
- Birmingham Cathedral (St. Philip’s): มหาวิหารยุคเก่าที่แวดล้อมด้วยสวนสาธารณะและร้านกาแฟเล็ก ๆ
- Jewellery Quarter: ย่านเก่าที่เต็มไปด้วยร้านทอง โรงงานเครื่องประดับ และสตรีทอาร์ตสุดเท่
- Centenary Square: ลานกลางเมืองสำหรับจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตใหญ่
เดินเที่ยวเบอร์มิงแฮม 1 วัน ผสมความเก่าและใหม่แบบลงตัว
เมืองใหญ่อย่างเบอร์มิงแฮมอาจฟังดูเหมือนต้องใช้เวลาเยอะ แต่ความจริงแล้วสามารถเดินเที่ยวได้ครบภายใน 1 วัน เพราะเส้นทางหลักทั้งหมดอยู่ใจกลางเมือง จุดเริ่มต้นที่เหมาะที่สุดคือ New Street Station ซึ่งเชื่อมต่อกับห้าง Grand Central และตลาด Bullring ที่มีทุกอย่างตั้งแต่แบรนด์หรูไปจนถึงของท้องถิ่น (19 ธันวาคม 2024) [2]
เดินต่อไปทางทิศตะวันตกจะถึง Gas Street Basin พื้นที่คลองเก่าที่ถูกรีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นย่านคาเฟ่และผับบรรยากาศดี ถัดไปไม่ไกลคือ The Mailbox ย่านช็อปปิ้งหรูที่มีร้านอาหารวิวคลองให้เลือกเยอะมาก อินฟลูฯสายคาเฟ่แนะนำว่า “การเดินในเมืองเบอร์มิงแฮมให้ฟีลเหมือนเดินในแมนเชสเตอร์แต่เรียบกว่ามาก”
ช่วงบ่ายสามารถขึ้นไปชมวิวที่ หอสมุดเบอร์มิงแฮม แล้วปิดท้ายวันด้วยการนั่งรถไฟท้องถิ่นไปยัง Cadbury World โรงงานช็อกโกแลตชื่อดังที่เป็นแลนด์มาร์กสำหรับสายของหวานโดยเฉพาะ

รีวิวจากอินฟลูฯจริง เมืองใหญ่ที่เดินง่าย และถ่ายรูปขึ้นทุกมุม
หลายคนรีวิวเบอร์มิงแฮมไว้ในโทนเดียวกันว่า “เป็นเมืองที่ underrated มาก” เพราะไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่เมื่อมาแล้วกลับตกหลุมรักทั้งความสะอาด ความเรียบง่าย และมุมถ่ายรูปที่ซ่อนอยู่ทุกมุม โดยเฉพาะรอบๆ Gas Street Basin ที่แสงเย็นตกกระทบผิวน้ำจนสะท้อนตึกอิฐแดงขึ้นฟ้า
บน TikTok มีคนแนะนำว่า “นี่คือเมืองที่เหมาะกับการเดินเล่นคนเดียวที่สุดในอังกฤษ” เพราะทั้งปลอดภัย มีคาเฟ่ให้แวะทุกระยะ และแสงในเมืองสวยจนกล้องมือถือยังถ่ายออกมาคม และยังบอกอีกว่า “Birmingham คือเมืองใหญ่ที่มีหัวใจของคนท้องถิ่น” ฟังแล้วอบอุ่นจริงๆ
ของกิน คาเฟ่ และช็อปปิ้ง จุดที่ทำให้เบอร์มิงแฮมต่างจากเมืองอื่นในอังกฤษ
เบอร์มิงแฮมคือเมืองที่มีร้านอาหารระดับดาวมิชลินมากที่สุดนอก ลอนดอน และยังมีตลาดอาหารที่คนท้องถิ่นชอบแวะทุกสุดสัปดาห์อย่าง Bullring Market ที่ขายทั้งของสด อาหารท้องถิ่น และสตรีทฟู้ดแบบอังกฤษแท้ๆ
ในส่วนคาเฟ่ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องร้านเท่ๆ ที่รีโนเวตจากโรงงานเก่า เช่น Wayland’s Yard คาเฟ่ยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟดริปและขนมปังอบสดใหม่ และ Faculty Coffee ที่ตั้งอยู่ในซอกเล็กๆ แต่คนแน่นทุกวัน ส่วนสายกินจริงจังต้องลองร้าน Opheem ร้านอาหารอินเดียฟิวชันระดับดาวมิชลิน ที่ถูกพูดถึง
ตลาด Bullring & Grand Central สวรรค์นักช็อปและสายกิน
Bullring เป็นย่านที่ผสมตลาดดั้งเดิมเข้ากับศูนย์การค้าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ ด้านนอกคือร้านขายของพื้นเมือง ส่วนด้านในคือห้าง Grand Central ที่ออกแบบสถาปัตยกรรมโค้งเงาแบบ futuristic จุดนี้เป็นที่ถ่ายรูปยอดนิยมของคนรุ่นใหม่ เพราะสะท้อนตึกและคนเดินได้อย่างมีมิติ (1 พฤศจิกายน 2025) [3]
มีสายช็อปอย่าง เคยพูดในรีวิวว่า “เบอร์มิงแฮมเป็นเมืองที่เดินช็อปได้ไม่รู้เบื่อ เพราะมีทั้ง Zara, Primark และตลาดท้องถิ่นในระยะไม่ถึง 500 เมตร” ซึ่งตรงกับความจริงแบบเป๊ะๆ
คาเฟ่และร้านอาหาร ที่รีวิวตรงกันว่าห้ามพลาด
- Wayland’s Yard – คาเฟ่ยอดนิยม ใกล้สถานีรถไฟ บรรยากาศโรงงานรีโนเวต
- Faculty Coffee – ร้านกาแฟไซซ์เล็กแต่กลิ่นอบอุ่น
- Opheem – ร้านอินเดียฟิวชันดาวมิชลินชื่อดัง
- The Canal House – ผับวิวคลอง Gas Street Basin ที่รีวิวทุกคนพูดถึง
สรุป เที่ยว เบอร์มิงแฮม เมืองที่มีชีวิตในแบบของตัวเอง เที่ยวได้ทุกสไตล์ไม่ซ้ำใคร
เบอร์มิงแฮมไม่ใช่เมืองที่พยายามให้ใครมารัก แต่มันเป็นเมืองที่ ถ้าเปิดใจ มันจะรักคุณกลับ เพราะภายใต้ความเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีความสร้างสรรค์และมิตรภาพซ่อนอยู่มากมาย ทั้งคาเฟ่ แสงแดดอุ่นยามบ่าย และคนที่ยิ้มง่ายกว่าที่คิด
เมืองนี้เหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวสายศิลปะที่อยากเห็นอังกฤษในมุมใหม่ คนทำคอนเทนต์ที่อยากได้ภาพโทนอิฐแดงเท่ๆ หรือแม้แต่คู่รักที่อยากเดินเล่นริมคลองตอนเย็น อินฟลูฯสายท่องเที่ยวหลายคนพูดตรงกันว่า “Birmingham ไม่ได้สวยเหมือนเมืองอื่น แต่มีเสน่ห์แบบจริงใจ” และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มันน่าจดจำ
เหมาะกับใคร และช่วงเวลาที่ควรมาเยือน
- คนชอบเมืองใหญ่แต่ไม่วุ่นวาย
- สายคาเฟ่และศิลปะชอบมุมถ่ายรูปแนวอุตสาหกรรม
- คนที่อยากเห็นอังกฤษนอกเหนือจากลอนดอน
- ช่วงที่เหมาะที่สุดคือ เมษายน–กันยายน เพราะอากาศอบอุ่น เดินง่าย แสงเย็นสวย
งบเที่ยว + วิธีเดินทางจากลอนดอน
- รถไฟ London – Birmingham (ไป–กลับ) 1,500–2,000 บาท
- อาหาร + คาเฟ่ 1,000–1,800 บาท
- ที่พัก (1 คืน) 2,000–3,500 บาท
รวมทั้งหมด 5,000–7,000 บาท ต่อคน
- Tags: สถานที่ท่องเที่ยว


