เที่ยว Coventry เมืองประวัติศาสตร์สงคราม มหาวิหาร และศูนย์กลางศิลปะจากเถ้าถ่าน

เที่ยว Coventry

เที่ยว Coventry (โคเวนทรี) เป็นหนึ่งในเมืองที่มีประวัติศาสตร์เข้มข้นที่สุดของอังกฤษ โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเมืองถูกทิ้งระเบิดอย่างหนักจนแทบพังทั้งเมือง แต่จากความเสียหายนั้นเองทำให้เกิดการสร้างเมืองแบบใหม่และสร้าง Coventry Cathedral ขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพและการให้อภัยในยุคหลัง

แม้จะผ่านสงครามมาอย่างหนัก แต่โคเวนทรีกลับกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น บรรยากาศผสมระหว่างสิ่งปลูกสร้างยุคกลางบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่และอาคารโมเดิร์นที่ถูกฟื้นฟูขึ้นใหม่ ทำให้การเดินเมืองรู้สึกเหมือนกำลังเดินผ่านทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตในเวลาเดียวกัน

ในปัจจุบัน โคเวนทรียังเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและการศึกษา โดยเคยได้รับเลือกให้เป็น UK City of Culture ทำให้เมืองเต็มไปด้วยกิจกรรมทางศิลปะ เทศกาลดนตรี นิทรรศการ และพื้นที่สร้างสรรค์มากมาย เป็นเมืองที่เหมาะกับสายประวัติศาสตร์ สายศิลปะ และสายเดินเล่นสบายๆ แบบไม่วุ่นวายเกินไป

  • ทำไมโคเวนทรีถึงเป็นเมืองที่ควรแวะในทริปอังกฤษตอนกลาง
  • เมืองมหาวิทยาลัยและศิลปะเป็นพลังสร้างสรรค์ที่ทำให้มีชีวิต
  • ลานกลางเมืองและถนนคนเดินที่มีชีวิตทั้งวันทั้งคืน

ทำไม เที่ยว Coventry ถึงเป็นเมืองที่ควรแวะในทริปอังกฤษตอนกลาง

ข้อโดดเด่นที่สุดของโคเวนทรี คือการที่เมืองเล่าเรื่องราวได้เองผ่านสถาปัตยกรรม ตั้งแต่มหาวิหารเก่าที่เหลือเพียงซากจนถึงมหาวิหารใหม่ที่ดีไซน์ล้ำแต่เต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างลึกซึ้งและจับใจ เป็นเมืองที่ไม่ใช่เช็กลิสต์เพื่อถ่ายรูปเท่านั้น แต่เป็นเมืองที่ผู้มาเยือนเข้าใจประวัติศาสตร์อย่างมีอารมณ์ร่วม

อีกเหตุผลคือความสะดวกในการเดินทางโคเวนทรีอยู่ห่างจาก Birmingham เพียงประมาณ 20 นาทีด้วยรถไฟ และอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเชื่อมไปยัง Leicester, Warwick, Stratford-upon-Avon และ Oxford ได้ง่ายมาก ทำให้ใส่ลงในแพลนแบบ 1 วันเต็มได้อย่างไม่ยาก

โคเวนทรียังให้ความรู้สึกไม่หวือหวาเกินไป เป็นเมืองเรียบง่ายที่ใช้ชีวิตได้จริง มีพิพิธภัณฑ์ฟรีหลายแห่ง เช่น Transport Museum และมีคาเฟ่น่ารักหลายร้านในเขตเมืองเก่า เหมาะกับนักเดินทางที่อยากสัมผัสเมืองอังกฤษแบบลึกขึ้น อบอุ่นขึ้น และมีความหมายมากขึ้นกว่าการเที่ยวเมืองยอดนิยมทั่วไป (18 ธันวาคม 2024) [1]

เมืองที่ผ่านสงครามและลุกขึ้นใหม่ ร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ยังคงอยู่

โคเวนทรีคือหนึ่งในเมืองที่ถูกโจมตีหนักที่สุดใน UK ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เหตุการณ์ Coventry Blitz ในปี 1940 ทำลายตัวเมืองรวมถึงมหาวิหารหลักจนเหลือเพียงโครงกำแพง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเมืองเลือกเก็บซากเหล่านั้นไว้ เพื่อรำลึกและเตือนใจผู้คนว่าความสูญเสียครั้งนั้นนำไปสู่อะไรบ้าง

การเดินผ่านพื้นที่ซากมหาวิหารเก่า เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสงบและความรู้สึกเคารพต่อเมืองและผู้คนที่เคยอยู่ตรงนี้มาก่อน บริเวณนั้นยังมีแผ่นคำอธิบายเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์จริงให้เข้าใจได้ชัดเจนโดยไม่ต้องคาดเดา

หลังสงคราม เมืองได้ฟื้นตัวครั้งใหญ่ด้วยการออกแบบใหม่แบบโมเดิร์น ทำให้โคเวนทรีกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการเริ่มต้นใหม่ ทุกมุมของเมืองเต็มไปด้วยเรื่องราวและรายละเอียดเล็กๆ ที่หากเดินช้าๆ จะเห็นคุณค่าของมันอย่างเต็มที่

เมืองมหาวิทยาลัยและศิลปะ พลังสร้างสรรค์ที่ทำให้เมืองมีชีวิต

ความโดดเด่นของโคเวนทรีในยุคปัจจุบันอยู่ที่ความเป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีทั้ง Coventry University และ University of Warwick ใกล้กัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยนักศึกษานานาชาติ บรรยากาศจึงสดใหม่และมีความคึกคักไม่แพ้เมืองใหญ่

ความเป็น UK City of Culture ยังทำให้เมืองมีพื้นที่ศิลปะมากมาย ตั้งแต่แกลเลอรี พื้นที่จัดแสดงผลงานของนักศึกษา ไปจนถึงงานเทศกาลดนตรีและศิลปะประจำปี เมืองนี้จึงไม่ใช่แค่เมืองที่เล่าเรื่องอดีต แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ศิลปะร่วมสมัยเติบโตได้ดี

สำหรับสายคาเฟ่และไลฟ์สไตล์ ย่าน Trinity Street และ Broadgate เป็นจุดรวมร้านกาแฟ ร้านอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นของคนเมือง เหมาะมากสำหรับการเดินเล่นแบบสบายๆ หลังชมมหาวิหารและพิพิธภัณฑ์

Coventry Cathedral หัวใจของประวัติศาสตร์เมือง และสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

มหาวิหารโคเวนทรีเป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของเมือง ความพิเศษคือที่แห่งนี้มีทั้ง มหาวิหารเก่า ที่พังจากสงคราม และ มหาวิหารใหม่ ที่สร้างขึ้นหลังสงครามในสถาปัตยกรรมโมเดิร์น อยู่เคียงกันในพื้นที่เดียว ทำให้ภาพตรงหน้าสะเทือนอารมณ์อย่างมาก

มหาวิหารเก่าเป็นซากกำแพงและหน้าต่างหินที่เปิดโล่งสู่ท้องฟ้า เดินผ่านแล้วให้ความรู้สึกทั้งสงบ ทั้งหนักแน่น และทั้งงดงามในเวลาเดียวกัน เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้ผู้มาเยือนเงียบลงโดยไม่รู้ตัว

ส่วนมหาวิหารใหม่ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมร่วมสมัย มีงานกระจกที่สวยมาก และมีประติมากรรม The Archangel Michael Slaying the Devil ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ Coventry ความตั้งใจคือการสื่อความหวังและการให้อภัยหลังสงคราม และเมืองนี้ทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ (21 กันยายน 2025) [2]

มหาวิหารเก่า ซากกำแพงที่เล่าเรื่องได้ดังกว่าคำบรรยาย

ซากมหาวิหารเก่าเป็นส่วนที่นักท่องเที่ยวประทับใจมากที่สุด เพราะตัวอาคารถูกคงไว้แบบเปิดโล่งเพื่อให้เห็นร่องรอยระเบิดอย่างชัดเจน ทุกกำแพงเต็มไปด้วยเรื่องราวและความหมาย การยืนตรงกลางพื้นที่แล้วมองท้องฟ้าผ่านโครงหินเก่าเป็นประสบการณ์ที่ทั้งงดงามและสะเทือนใจ

การจัดพื้นที่เป็นระเบียบและมีคำบรรยายเกี่ยวกับเหตุการณ์ Blitz ทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ได้ลึกขึ้นโดยไม่ต้องอ่านหนังสือมาก่อน ความเรียบง่ายของพื้นที่ช่วยให้ความรู้สึกย้อนอดีตเกิดขึ้นได้อย่างธรรมชาติ

แม้จะเป็นซาก แต่ที่นี่กลับสวยในแบบของมันเอง และเป็นสถานที่ที่ผู้คนมักใช้เวลาอย่างเงียบๆ เพื่อใคร่ครวญถึงความสูญเสียและคุณค่าของสันติภาพ

เที่ยว Coventry

มหาวิหารใหม่ ความหวังที่ถูกสร้างขึ้นบนรากฐานของอดีต

มหาวิหารใหม่ของโคเวนทรี ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับอดีตโดยตรง ไม่ใช่การแทนที่ซากเดิม แต่เป็นการยืนอยู่เคียงข้างกันอย่างเท่าเทียม สถาปัตยกรรมด้านในเต็มไปด้วยงานกระจกสี งานไม้ และองค์ประกอบศิลปะยุคหลังสงครามที่ตีความความหมายของความหวังได้อย่างงดงาม

ประติมากรรม The Archangel Michael Slaying the Devil บริเวณด้านหน้าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องถ่ายภาพ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือความมืดมน และการไม่ยอมจำนนต่อความรุนแรงในอดีต

ภายในโบสถ์ยังมีมุมเงียบที่ให้ผู้มาเยือนได้พักใจและใช้เวลาคิดทบทวน เหมาะสำหรับการนั่งชมแสงที่ลอดเข้ามากระทบผนังอย่างสงบ เป็นพื้นที่ที่ให้พลังทางอารมณ์อย่างมาก

ย่านเมืองเก่า Broadgate และ Trinity Street คาเฟ่ ร้านอาหาร เมืองที่ฟื้นตัวหลังสงคราม

ย่าน Broadgate (บรอดเกต) และ ถนนทรินิตี้ คือหัวใจของเมืองเก่า โคเวนทรีที่ถูกสร้างใหม่หลังสงคราม แต่ยังคงโครงสร้างผังเมืองยุคก่อนเอาไว้ ทำให้บรรยากาศตรงนี้แปลกดีคือเดินแล้วรู้สึกทั้งเก่าและใหม่ในเวลาเดียวกัน รอบๆ จัตุรัสจะมีอาคารหิน ร้านค้า และทางเดินที่เชื่อมกันไปยังมหาวิหารเก่าและใหม่แบบเดินถึงในไม่กี่นาที

พื้นที่ตรงนี้เป็นจุดที่คนเมืองมาใช้ชีวิตประจำวันกันจริง ทั้งมาซื้อของ เข้าร้านกาแฟ หรือมานั่งเล่นในลานโล่งช่วงเที่ยงและบ่าย นักท่องเที่ยวสามารถใช้บรอดเกต เป็นจุดตั้งต้นง่ายๆ ของการเดินเที่ยวทั้งเมือง ไม่ต้องวางแผนซับซ้อน แค่เดินวนตามถนนรอบๆ ก็เก็บบรรยากาศเมืองได้เยอะมากแล้ว (5 สิงหาคม 2020) [3]

สิ่งที่ทำให้ย่านนี้น่าเดินคือมันไม่ได้ถูกจัดให้เป็นย่านท่องเที่ยวจ๋า จึงยังมีความเป็นเมืองจริงอยู่สูง เห็นคนทำงานเดินผ่านไปมา เด็กนักเรียน นักศึกษา และคนท้องถิ่นใช้พื้นที่ร่วมกัน ทำให้เวลาเรานั่งคาเฟ่หรือเดินเล่น จะได้ฟีลว่ากำลังซึมซับเมืองจริงๆ ไม่ใช่แค่เดินในฉากที่จัดไว้เพื่อการท่องเที่ยว

ลานกลางเมือง และถนนคนเดิน ที่มีชีวิตทั้งกลางวันและค่ำคืน

Broadgate Square คือจัตุรัสหลักของเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยร้านค้า อาคารสาธารณะ และทางเชื่อมไปยังมหาวิหารโคเวนทรี บรรยากาศในตอนกลางวันจะคึกคักด้วยผู้คนที่เดินผ่านไปมา ผสมกับสตรีทเพอร์ฟอร์มบ้างเป็นบางวัน ทำให้พื้นที่นี้ไม่เคยเงียบจนเกินไป

จากบรอดเกตเดินไปไม่กี่ก้าวก็เข้าสู่ถนนทรินิตี้ถนนคนเดินสายหลักที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านสะดวกซื้อให้เลือกนั่งพักหรือหาอะไรง่ายๆ กินระหว่างวัน อาคารส่วนใหญ่เป็นสไตล์ก่ออิฐและสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษยุคเก่า ผสมกับหน้าร้านสมัยใหม่ ทำให้ถ่ายรูปออกมาแล้วดูมีเลเยอร์ของเวลาอยู่ในเฟรมเดียวกัน

ช่วงค่ำ Trinity Street จะเปลี่ยนบรรยากาศกลายเป็นทางเดินที่โรแมนติกขึ้น แสงไฟจากร้านอาหารและผับช่วยทำให้เมืองดูอบอุ่นขึ้นมาก เหมาะกับการเดินเล่นปิดท้ายวันหลังจากใช้เวลาในมหาวิหารและพิพิธภัณฑ์ หากพักใกล้โซนนี้ ก็เดินกลับโรงแรมได้สบายไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง

คาเฟ่และร้านเล็กๆ ในเมืองเก่า พื้นที่พักใจระหว่างตามรอยประวัติศาสตร์สงคราม

หนึ่งในเสน่ห์ของโคเวนทรี คือคาเฟ่และร้านเล็กๆ ในตัวเมืองที่ไม่ได้ดังเป็นเช็กลิสต์ แต่กลับให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนเมืองบ้านๆ ของอังกฤษ นักเดินทางสามารถแวะจิบกาแฟ นั่งมองคนเดิน หรือใช้เวลาสรุปความรู้สึกหลังชมมหาวิหารเก่าและใหม่ได้อย่างสงบ

หลายคาเฟ่ในโซนถนนทรินิตี้ และถนนเล็กๆ รอบข้างจะมีที่นั่งติดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ให้เราได้นั่งมองชีวิตคนเมืองแบบสบายๆ บางร้านใช้ของตกแต่งเรียบง่าย เน้นงานไม้และแสงธรรมชาติ เหมาะกับคนที่อยากพักขาและพักใจในเมืองที่เพิ่งเล่าเรื่องหนักๆ อย่างสงครามให้เราฟังไปทั้งวัน

ระหว่างวัน การสลับจังหวะจากการเดินดูประวัติศาสตร์ มาแวะคาเฟ่เล็กๆ เหล่านี้ช่วยให้ทริปไม่หนักจนเกินไป และทำให้ภาพจำของ Coventry ไม่ได้มีแค่ซากมหาวิหารหรือเรื่องราวระเบิด แต่มีมุมของชีวิตประจำวันเล็กๆ ที่ทำให้เมืองนี้ดูเป็นมนุษย์และน่าอยู่มากขึ้นด้วย

สรุป เที่ยว Coventry เมืองเล็กที่เล่าเรื่องใหญ่ของสงครามและการฟื้นตัว

โคเวนทรีอาจไม่ได้เป็นเมืองที่อยู่ในลิสต์แรกๆ ของคนที่มาอังกฤษครั้งแรก แต่สำหรับคนที่อยากเข้าใจประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองและเห็นผลกระทบต่อเมืองจริงๆ ที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน เมืองนี้คือหนึ่งในจุดหมายที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่ง การที่มหาวิหารเก่า–ใหม่ยืนเคียงกัน คือการลุกขึ้นใหม่ได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้คำพูดมาก

นอกจากมุมสงคราม เมืองยังมีด้านที่อ่อนโยนกว่านั้น ทั้งย่านเมืองเก่าที่ฟื้นตัว คาเฟ่เล็กๆ ร้านอาหาร และบรรยากาศเมืองมหาวิทยาลัยที่ทำให้โคเวนทรีมีพลังของคนรุ่นใหม่คอยเติมชีวิตอยู่ตลอด เวลาเดินในเมืองจึงไม่รู้สึกหม่นหรือทึบเกินไป แม้เรื่องราวที่แบกอยู่จะหนักมากก็ตาม

สำหรับคนที่จัดทริปอังกฤษตอนกลางหรือ Midlands อยู่แล้ว การแวะโคเวนทรีสักหนึ่งวันเต็มถือเป็นการเพิ่มมิติให้กับการเดินทางได้ดีมาก เมืองนี้จะทำให้เรากลับไปคิดถึงความหมายของสงคราม สันติภาพ และการเริ่มต้นใหม่ในชีวิต โดยที่ยังคงให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เดินง่าย อบอุ่น และเป็นกันเองในแบบเมืองเล็กของอังกฤษ

ถ้ามีเวลา 1 วันในโซน Midlands Coventry คือเมืองที่ไม่ควรมองข้าม

หากแพลนทริปแถว Birmingham, Leicester หรือ Warwick แล้วมีเวลาว่างเพิ่มอีกหนึ่งวัน การแวะมาที่โคเวนทรี จะทำให้ทริปทั้งทริปมีมิติทางอารมณ์ลึกขึ้นอย่างชัดเจน ได้ทั้งตามรอยประวัติศาสตร์สงคราม

ชมสถาปัตยกรรมโบสถ์เก่า–ใหม่ที่ทรงพลัง เดินเล่นย่านเมืองเก่า และปิดท้ายวันด้วยคาเฟ่หรือร้านอาหารในตัวเมืองเล็กๆ แบบไม่เร่งรีบ เป็นหนึ่งวันที่คุ้มทั้งความรู้และความรู้สึก

ค่าใช้จ่ายและค่าเดินทาง แพลนคร่าวๆ เป็นเงินบาทสำหรับทริปโคเวนทรี

ค่าใช้จ่ายในการ เที่ยว Coventry 1 วันแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือพัก 1 คืน สามารถวางแผนคร่าวๆ ได้จากค่าเงินปัจจุบันที่ประมาณ 1 ปอนด์ เท่ากับราว 42–43 บาท โดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดช่วงปลายปี 2025 โดยงบต่อวันจะขึ้นอยู่กับสไตล์การกินและที่พัก แต่สามารถใช้ตัวเลขด้านล่างเป็นแนวทางเบื้องต้นได้

  • เกสต์เฮาส์หรือ B&B ประหยัดในตัวเมือง: ประมาณ 1,600–2,200 บาทต่อคืน
  • โรงแรม 3 ดาวขึ้นไปในโซนเดินถึงมหาวิหาร: ประมาณ 2,500–3,800 บาทต่อคืน
  • มื้อเช้าแบบง่ายๆ คาเฟ่หรือเบเกอรี่: 180–300 บาทต่อมื้อ
  • มื้อกลางวันในผับหรือคาเฟ่: 350–550 บาทต่อมื้อ
  • มื้อเย็นจัดเต็มในร้านอาหารดีๆ: 600–900 บาทต่อมื้อ
  • กาแฟแก้วละ: 140–220 บาท
  • ขนม เบเกอรี่ หรือสแน็กระหว่างวัน: 100–200 บาท
  • รถไฟไป Coventry จาก Birmingham: ประมาณ 400–700 บาทต่อเที่ยว (จองล่วงหน้าหรือใช้ตั๋วแบบ off-peak)
  • รถไฟจาก ลอนดอน มาที่โคเวนทรี: ประมาณ 900–1,800 บาทต่อเที่ยว ขึ้นกับเวลาและบริษัท
  • การเดินทางในเมือง: ส่วนใหญ่เดินได้เอง ถ้าใช้บัสหรือแท็กซี่เพิ่มเติม เผื่อไว้ราววันละ 150–250 บาท
  • มหาวิหารโคเวนทรี: บางส่วนเข้าชมได้ฟรี อาจมีการแนะนำให้บริจาค ควรเผื่อไว้ 200–400 บาทไทย
  • พิพิธภัณฑ์หลักหลายแห่ง เช่น Transport Museum: ส่วนมากเข้าฟรี แต่บางนิทรรศการพิเศษอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมราว 200–500 บาทไทย
Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

บทความที่น่าสนใจ