
เที่ยว Salisbury เมืองโบสถ์ปลายแหลมสุดงดงาม ประตูสู่ Stonehenge ที่ใกล้ที่สุด
- เฮียเกา
- 4 views

เที่ยว Salisbury (ซอลส์บรี) คือการมาเยือนเมืองเล็กที่ดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยชั้นของประวัติศาสตร์และศิลปะที่น่าค้นหา เมืองโบสถ์ปลายแหลมแห่งนี้เป็นเมืองมหาวิหารเก่าแก่ที่ต้อนรับนักเดินทางมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และยังเป็นฐานที่สะดวกที่สุดในการไปเที่ยว Stonehenge (สโตนเฮนจ์) แบบเช้าไปเย็นกลับอีกด้วย
บรรยากาศของซอลส์บรี ให้ฟีลเมืองเก่าอังกฤษที่ยังมีชีวิตจริง ร้านรวงท้องถิ่น คาเฟ่เล็กริมถนน แม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง และบ้านหินยุคก่อนที่ยังใช้งานอยู่ ทำให้การเดินเล่นในตัวเมืองรู้สึกช้าและสบาย ต่างจากเมืองใหญ่ที่รีบเร่ง ใครที่อยากได้ทริปอังกฤษโทนอบอุ่น เดินไม่เหนื่อย แต่ได้ทั้งรูปสวยและเรื่องเล่า
จุดเด่นคือ คุณสามารถจัดทริปแบบหนึ่งวันจาก ลอนดอน นั่งรถไฟมาลง Salisbury เที่ยวมหาวิหาร เดินเล่นเมือง แล้วขึ้นรถบัสต่อไป Stonehenge ได้ในวันเดียว จบด้วยการกลับมานั่งกินดินเนอร์ชิลๆ ในเมือง ก่อนนั่งรถไฟคืนลอนดอนแบบไม่เหนื่อยเกินไป
- ทำไมซอลส์บรีถึงเป็นเมืองที่น่าไปเมื่อมาอังกฤษตอนใต้
- ที่พักดีที่สุดสำหรับไปสโตนเฮนจ์
- มหาวิหารซอลส์บรีปลายแหลมสูงเสียดฟ้าสมบัติประวัติศาสตร์แห่งอังกฤษ
ทำไม Salisbury ถึงเป็นเมืองที่ต้องแวะ เมื่อมาอังกฤษตอนใต้
ซอลส์บรีเป็นเมืองที่รวมหลายอย่างไว้ในพื้นที่ไม่กว้างมาก ทั้งโบสถ์ใหญ่ระดับไอคอนของประเทศ เมืองเก่าที่เดินง่าย และทำเลที่ตั้งที่ยอดเยี่ยมเพราะอยู่ใกล้สโตนเฮนจ์มากที่สุด เมืองนี้ถูกเรียกว่า cathedral city ของ Wiltshire และยังคงเก็บเสน่ห์เมืองยุคกลางไว้ในหลายมุมถนนอย่างชัดเจน (18 พฤศจิกายน 2025) [1]
สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวลอนดอนแล้วอยากเพิ่มประสบการณ์อังกฤษอีกแบบหนึ่ง ซอลส์บรีคือเมืองที่เหมาะมาก เพราะไม่ไกล นั่งรถไฟจาก London Waterloo ประมาณชั่วโมงยี่สิบนิดๆ ก็ถึง มีรถออกถี่ทั้งวัน และสถานีรถไฟก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเก่ากับมหาวิหาร ทำให้จัดเป็น day trip หรือค้างหนึ่งคืนก็ได้
นอกจากนี้ เมืองยังให้ความรู้สึกสมดุลระหว่างความเงียบสงบกับความมีชีวิตชีวา ตอนกลางวันจะเห็นทั้งนักท่องเที่ยว คนท้องถิ่น และนักเรียนจากโรงเรียนกับวิทยาลัยในตัวเมืองเดินผ่านไปมา มีตลาดนัดบางวัน คาเฟ่และผับเล็กๆ ที่คนในพื้นที่นั่งจริง ทำให้บรรยากาศของซอลส์บรีดูจริงและเป็นมิตรกับผู้มาเยือนมาก
เมืองโบสถ์ปลายแหลม กับบรรยากาศเมืองเก่าที่เดินง่าย
จุดที่ทำให้ซอลส์บรีต่างจากเมืองอื่นคือมหาวิหารปลายแหลมที่มองเห็นได้แทบทุกมุมของเมือง Salisbury Cathedral มีปลายยอดสูงที่สุดในอังกฤษ สูงกว่า 400 ฟุต และตั้งอยู่กลางพื้นที่ที่เรียกว่า ลานรอบมหาวิหารซึ่งเป็นลานและสวนกว้างขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยบ้านเก่าและอาคารโบราณสวยๆ
ตัวเมืองเก่าไม่ได้กว้างมาก เส้นทางหลักจากสถานีรถไฟเดินเข้าสู่ใจกลางเมือง ผ่านถนน High Street มายัง Market Place และค่อยๆ เลี้ยวเข้า Cathedral Close จึงเป็นเมืองที่แทบไม่จำเป็นต้องใช้ขนส่งภายในเลย ใครชอบเที่ยวแบบเดินเรื่อยๆ แวะคาเฟ่ ถ่ายรูปบนทางเท้าหิน สายนี้จะฟินเป็นพิเศษ
ฐานที่พักดีที่สุดสำหรับไป Stonehenge แบบเช้าไปเย็นกลับ
อีกเหตุผลที่หลายคนเลือกซอลส์บรีคือที่นี่เป็นฐานหลักสำหรับไปสโตนเฮนจ์แบบง่ายที่สุด เมืองอยู่ห่างจาก Stonehenge ราวยี่สิบกิโลเมตร มีบริการ Stonehenge Tour Bus ออกจากด้านหน้าสถานีรถไฟ วิ่งวนไปยังศูนย์นักท่องเที่ยวและวงหิน ก่อนวนกลับเข้าตัวเมือง ทำให้ไม่ต้องเช่ารถเองก็ไปได้สะดวกมาก (4 มกราคม 2021) [2]
ถ้านอนค้างที่ซอลส์บรีหนึ่งคืน คุณสามารถเลือกไปสโตนเฮนจ์รอบเช้าเพื่อหลบคนเยอะ แล้วกลับมาเดินเล่นเมืองต่อในช่วงบ่าย หรือจะสลับกันไป เดินชมมหาวิหารและเมืองเก่าในตอนเช้า แล้วค่อยไปสโตนเฮนจ์ช่วงบ่ายก็ได้ แผนแบบนี้ทำให้การเที่ยวไม่แน่นเกินไป แต่ยังได้ครบทั้งเมืองและวงหินในวันเดียว

Salisbury Cathedral มหาวิหารปลายแหลมสูงเสียดฟ้า สมบัติประวัติศาสตร์ของอังกฤษ
หัวใจของซอลส์บรี คือ Salisbury Cathedral มหาวิหารสไตล์ Early English Gothic ที่ถือเป็นตัวอย่างงานสถาปัตยกรรมยุคนี้ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ โบสถ์ถูกสร้างภายในช่วงเวลาค่อนข้างสั้นสำหรับมาตรฐานยุคกลาง ทำให้ตัวอาคารมีความเป็นหนึ่งเดียวในสไตล์และรายละเอียดมากกว่ามหาวิหารอื่นๆ
จุดเด่นอีกอย่างคือ Cathedral Close ซึ่งเป็นลานและสนามหญ้ากว้างที่สุดแห่งหนึ่งในอังกฤษ ล้อมรอบด้วยอาคารประวัติศาสตร์ เช่น บ้านบาทหลวง พิพิธภัณฑ์ และโรงเรียนเก่า สร้างบรรยากาศที่ทั้งขลังและสบายในเวลาเดียวกัน ใครชอบนั่งเล่นบนสนามหญ้า มองยอดโบสถ์สูงๆ พร้อมฟังเสียงนกรอบๆ จะรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ผ่อนคลายมาก
ด้านในมหาวิหารเองก็มีของสำคัญระดับประวัติศาสตร์โลก ทั้งนาฬิกากลไกโบราณที่ยังใช้งานได้ และหนึ่งในต้นฉบับ Magna Carta ปี 1215 ที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีใน Chapter House ของโบสถ์ ซึ่งเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์การเมืองและกฎหมายของอังกฤษ (18 พฤษภาคม 2025) [3]
ไฮไลต์ภายนอกและมุมถ่ายรูปใน Cathedral Close
รอบมหาวิหารมีมุมถ่ายรูปสวยเยอะกว่าที่คิด มุมคลาสสิกคือถ่ายจากปลายสนามหญ้าให้เห็นตัวโบสถ์เต็มๆ พร้อมยอดปลายแหลมตัดกับท้องฟ้า หรือเดินอ้อมไปด้านข้างเพื่อถ่ายมุมที่เห็นแนวโถงโบสถ์ยาวๆ กับหน้าต่างสูงทรง Gothic ที่เรียงกันอย่างสมดุล
อีกมุมที่น่าสนใจคือถ่ายจากด้านนอกกำแพง Cathedral Close โดยให้แนวต้นไม้และอาคารบ้านเก่าอยู่ด้านหน้า แล้วมียอดโบสถ์โผล่ขึ้นมาด้านหลัง เป็นภาพที่ให้ฟีลเมืองเก่าที่มีชีวิตจริง ไม่ได้เหมือนยืนอยู่แค่หน้าแลนด์มาร์กอย่างเดียว ใครสายสายตาเล่าเรื่องผ่านภาพจะสนุกกับการเดินหาเฟรมในโซนนี้มาก
ไฮไลต์ภายในโบสถ์ นาฬิกาโบราณ และ Magna Carta
ภายในมหาวิหารจะให้บรรยากาศต่างออกไป แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงทำให้ภายในดูสงบนิ่งแต่ทรงพลัง เสาและโค้งเพดานแบบ Gothic ที่เรียงตัวอย่างมีจังหวะ ทำให้การเดินชมภายในโบสถ์รู้สึกต่อเนื่องและนุ่มนวลมาก
สองสิ่งที่ควรแวะดูให้ได้คือ นาฬิกากลไกโบราณที่ถือว่าเก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก และห้อง Chapter House ที่จัดแสดง Magna Carta ต้นฉบับปี 1215 หนึ่งในเอกสารสำคัญที่สุดของประวัติศาสตร์การเมืองอังกฤษ พร้อมป้ายอธิบายที่อ่านเข้าใจไม่ยาก ใครสนใจเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และการกำเนิดกฎหมายตะวันตก จะอินกับจุดนี้เป็นพิเศษ
เดินเล่นรอบเมือง Salisbury คาเฟ่ แม่น้ำ และโซนเมืองเก่าที่น่าใช้เวลา
แม้หลายคนจะมาซอลส์บรีเพราะมหาวิหารและ Stonehenge แต่ตัวเมืองเองก็น่าเดินเล่นไม่แพ้กัน ใจกลางเมืองยังรักษาผังเมืองเก่าสมัยก่อนเอาไว้ ถนนสายหลักอย่าง High Street และ Silver Street เป็นถนนสายช้อปและคาเฟ่ ที่มีทั้งร้านแบรนด์สากลและร้านเล็กท้องถิ่นสลับกันไป
ถัดไปไม่ไกลคือ Market Place ที่มักมีตลาดนัดและร้านแผงลอยในบางวัน ขายทั้งอาหารท้องถิ่น ของกินเล่น และของทำมือเล็กๆน้อยๆ เป็นจุดที่เหมาะสำหรับแวะพัก นั่งกินอะไรง่ายๆ แล้วค่อยเดินต่อไปยัง Cathedral หรือริมแม่น้ำด้านนอก
ตัวเมืองยังมีแม่น้ำ Avon ไหลผ่าน ทำให้มีเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำที่สงบและให้วิวโบสถ์จากระยะไกลในมุมสวย ใครชอบเดินเล่นเงียบๆ หลังช่วงบ่ายในตัวเมือง ลองเดินตามทางเลียบแม่น้ำแล้วหยุดถ่ายรูปจุดที่เห็นโบสถ์สะท้อนบนผิวน้ำ จะได้ภาพที่ฟีลต่างจากภาพกลางสนามหญ้าใน Cathedral Close
High Street คาเฟ่ และร้านเล็กสไตล์ท้องถิ่น เที่ยว Salisbury
โซน High Street และถนนรอบๆ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคาเฟ่ฮอปปิง ร้านกาแฟในซอลส์บรี มีทั้งแนวอังกฤษดั้งเดิมที่เน้นชาและเค้ก ไปจนถึงคาเฟ่สมัยใหม่ที่ชงกาแฟแบบ Specialty ใครชอบนั่งจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ มองคนเดินผ่านไปมา จะมีตัวเลือกหลายร้านให้เลือก
ช่วงบ่ายถึงเย็น ร้านบางแห่งจะปรับโหมดเป็นบาร์เล็กๆ ให้คนมานั่งคุยกัน มีกลุ่มคนในเมืองและนักท่องเที่ยวปนกันไป ทำให้เห็นชีวิตจริงของเมืองมากกว่าภาพท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
เดินเลียบริมแม่น้ำ Avon และมุมโบสถ์จากระยะไกล
หากเดินออกจากตัวเมืองไปทางริมแม่น้ำ จะเจอเส้นทางเดินที่เงียบขึ้น เหมาะกับคนที่อยากพักหูพักตาจากโซนร้านค้า เดินเลียบไปบนสะพานเล็กๆ แล้วมองย้อนกลับมาที่ตัวเมืองจะเห็นยอด Cathedral และหลังคาบ้านเก่ารวมอยู่ในเฟรมเดียว เป็นมุมที่คนถ่ายรูปเมืองมักแนะนำกัน
บางจุดตามทางเดินริมแม่น้ำจะมีม้านั่งให้หยุดพัก นั่งปล่อยใจไปกับลมเย็นๆ และเสียงน้ำไหล ถ้าเป็นวันที่อากาศดี ท้องฟ้าใส บรรยากาศจะแอบให้ความรู้สึกช้าและสงบกว่าที่คิดไว้มาก
สรุป เที่ยว Salisbury เมืองโบสถ์ปลายแหลม ลงตัวกว่าที่คิด
ถ้ามองหาเมืองที่รวมความขลังของโบสถ์เก่า คาเฟ่เมืองเล็ก และโบราณสถานระดับโลกไว้ในทริปเดียว Salisbury คือคำตอบที่เหมาะมาก เมืองนี้ทำหน้าที่เป็นทั้งจุดหมายปลายทางและจุดเริ่มต้นของการไป Stonehenge ในวันเดียวกันได้อย่างลงตัว
ประสบการณ์ที่ได้จากการเดินในลานรอบมหาวิหารมองยอดปลายแหลมของมหาวิหาร แวะคาเฟ่ในเมืองเก่า แล้วไปยืนมองวงหินโบราณกลางทุ่งโล่งในวันเดียว ทำให้ทริปอังกฤษตอนใต้มีมิติทางอารมณ์มากขึ้น ไม่ใช่แค่เที่ยวเมืองใหญ่หรือช้อปปิ้งในลอนดอนเท่านั้น
เหมาะกับใคร และควรเผื่อเวลากี่วัน
- คนที่ชอบเมืองเล็ก เดินง่าย ไม่ชอบความวุ่นวาย
- คนที่ชอบประวัติศาสตร์ โบสถ์เก่า สถาปัตยกรรมยุคกลาง
- คนที่อยากไปสโตนเฮนจ์แต่ไม่อยากนั่งรถไกลจากลอนดอนแบบเช้าไปเย็นกลับอย่างเดียว
โดยทั่วไป เที่ยว Salisbury ถ้ามีเวลาจำกัด สามารถจัดทริปแบบ one-day จากลอนดอนมาซอลส์บรีและไปสโตนเฮนจ์ได้ แต่ถ้าอยากเที่ยวช้าๆ มีเวลาเดินเล่นเมืองตอนเช้าหรือค่ำเพิ่ม แนะนำให้ค้างที่ Salisbury อย่างน้อยหนึ่งคืน จะได้ซึมซับบรรยากาศของเมืองได้เต็มที่มากขึ้น
งบประมาณคร่าวๆ และข้อแนะนำปิดท้าย
สำหรับงบเที่ยวในหนึ่งวันจากลอนดอนมาที่ซอลส์บรี และไปสโตนเฮนจ์แนวคิดคร่าวๆ คือ
- รถไฟลอนดอน–ซอลส์บรี ไปกลับ: ประมาณ 25–50 ปอนด์ (1,125–2,250 บาท) ขึ้นกับเวลาและการจองล่วงหน้า
- แพ็ก Stonehenge Tour Bus รวมค่าเข้า: ประมาณ 40–60 ปอนด์ (1,800–2,700 บาท)
- ค่าอาหารและคาเฟ่ระหว่างวัน: ราว 20–30 ปอนด์ ขึ้นกับสไตล์การกิน (900–1,350 บาท)
รวมแล้ว งบทั้งวันแบบสบายๆ จะอยู่แถวๆ 85–140 ปอนด์ (3,825–6,300 บาท) โดยยังปรับเพิ่มหรือลดได้ตามรูปแบบการกิน การช้อป และการเลือกช่วงเวลารถไฟ ถ้าวางแผนดี จองตั๋วล่วงหน้า และเลือกช่วง Off-peak จะสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้อีกพอสมควร
- Tags: สถานที่ท่องเที่ยว


