
เลมมิงอาร์กติก ผู้อยู่รอดใต้หิมะ แห่งทุนดรา
- J. Kanji
- 4 views

เลมมิงอาร์กติก ผู้อยู่รอดใต้หิมะ คือสัตว์ฟันแทะตัวเล็ก ที่ใช้ชีวิตในโลกที่ขาวโพลน ของขั้วโลกเหนือ โดยอาศัยอุโมงค์ใต้หิมะ เพื่อหลบลมหนาว หาอาหาร และป้องกันตัวจากนักล่า อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิต ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลง ของระบบนิเวศอาร์กติก ได้อย่างชัดเจน พร้อมพาเราเข้าใจ ธรรมชาติอาร์กติก ในมุมที่ลึกขึ้น
- รู้จักเลมมิงอาร์กติก ลักษณะเด่นและการปรับตัว
- ชีวิตเลมมิงอาร์กติกใต้หิมะ อาหาร และวงจรประชากร
- บทบาทในระบบนิเวศ และอุปสรรคที่กำลังเผชิญ
Arctic lemming คือใคร ?
เลมมิงอาร์กติกเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดเล็ก อยู่ในตระกูล Cricetidae และจำเพาะเจาะจงอยู่ในแถบอาร์กติกโดยแท้จริง โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dicrostonyx torquatus รูปร่างของเลมมิงนั้น มักมีขนาดกะทัดรัด ตัวอาจยาวประมาณ 8-12 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 30-112 กรัม มักอยู่ในเกณฑ์เบาไม่มากนัก (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์)
พวกมันมีขนหนา ขาท่อนหน้าและกรงเล็บพิเศษ เหมาะสำหรับขุดโพรง หรืออุโมงค์ใต้หิมะได้ดี ถึงแม้จะตัวเล็ก และดูเปราะบางจากภายนอก แต่เลมมิงอาร์กติก เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ปรับตัว เข้ากับสภาพอากาศสุดโหด ของอาร์กติกได้อย่างน่าทึ่ง (24 กันยายน 2025) [1]
การดำรงชีวิตใต้หิมะของเลมมิง
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เลมมิงอาร์กติก อยู่รอดได้ในฤดูหนาวยาวนาน คือพฤติกรรมการ “ขุดโพรง” สร้างอุโมงค์ และทำรังอยู่ใต้หิมะ & ชั้นหิมะ (snowpack) แทนการแสดงตัวหากิน บนพื้นผิวหิมะโดยตรง โพรงใต้หิมะของพวกมัน ประกอบด้วยหลายส่วน มีทางเดิน มีห้องรังสำหรับพักอาศัย และเลี้ยงลูก บางครั้งมีพื้นที่เก็บอาหาร หรือขับถ่ายด้วยเลยทีเดียว
ข้อได้เปรียบ ของการอยู่อาศัยใต้หิมะ คือหิมะช่วย “เก็บความอบอุ่น” และปกป้องพวกมันจากลมหนาว และอากาศภายนอก ที่อุณหภูมิติดลบ ทำให้เลมมิงไม่จำเป็นต้องจำศีล (hibernate) เหมือนสัตว์บางชนิด แต่ยังคงใช้ชีวิต กิน และบางครั้ง “ขยายพันธุ์” ได้แม้ในฤดูหนาว
นอกจากนั้น โพรงใต้หิมะยังเป็นที่หลบซ่อนจาก “นักล่า” หลายชนิด เช่น Arctic Fox หรือแม้แต่นกฮูกหิมะ ที่ล่าเลมมิงเป็นอาหารหลัก ยากที่นักล่า จะขุดตามลงไปถึงลึก ๆ ได้โดยเฉพาะเมื่อหิมะหนา และแข็งพอสมควร อีกทั้งชั้นหิมะยังช่วยพรางกลิ่น และเสียง ทำให้การติดตามร่องรอยของเลมมิง เป็นเรื่องยากยิ่งขึ้น (4 พฤศจิกายน 2025) [2]
โภชนาการเลมมิงอาร์กติก พวกมันกินอะไร ?
จากงานศึกษานิเวศวิทยาในปี 2018 ของ Arctic Biodiversity Assessment พบว่าเลมมิงอาร์กติกเป็นพวก “กินพืช” (herbivore) โดยอาหารหลัก มาจากพืชอาร์กติกต่าง ๆ เช่น พุ่มไม้เล็ก ๆ รากไม้ ต้นหญ้า และพืชที่เติบโตในทุนดรา แม้ว่าพืชพวกนี้ อาจหายากในฤดูหนาว
แต่อุโมงค์ใต้หิมะ ช่วยให้พวกมันเข้าถึงพืช ที่ฝังอยู่ใต้ผิวดิน หรือละอองหิมะ การศึกษาทางชีววิทยาพบว่า อาหารของครอบครัวเลมมิง ประกอบด้วย พืชใบเลี้ยงคู่ (dicotyledons) เป็นหลัก สัดส่วนราว 86% และพืชใบเลี้ยงเดี่ยว (monocotyledons) อีก 14%
ส่วนสาหร่าย และมอสมีน้อยมาก (น้อยกว่า 1%) ความสามารถในการกินพืช ที่พบได้ในทุนดรา และการย่อยที่เหมาะกับพืชแบบนั้น ทำให้เลมมิงอาร์กติก รอดท่ามกลางภูมิประเทศ ที่หลายคนคิดว่า “ไม่มีอะไรให้กินจริง ๆ”
วงจรชีวิตของเลมมิงอาร์กติก และการขยายพันธุ์

หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งมาก ของเลมมิงอาร์กติกคือ “ความเร็ว” ในการขยายพันธุ์ และ “วัฏจักร” ของประชากรที่ขึ้นลงอย่างสุดขั้ว พวกมันไม่จำศีลในฤดูหนาว และหลายสายพันธุ์สามารถผสมพันธุ์ และให้กำเนิดลูกได้ แม้ในช่วงที่หิมะปกคลุม ในช่วงที่สภาพแวดล้อมเอื้อ (หิมะมั่นคง อาหารพอ) ประชากรเลมมิงอาจ “พุ่ง” อย่างรวดเร็ว
แล้วเมื่อแหล่งอาหารเริ่มจำกัด เริ่มมีนักล่าเยอะ ความหนาแน่นของประชากร สูงเกินไป พวกมันก็อาจ “แพร่ย้าย” หรืออพยพไปยังที่ใหม่ ทำให้ตัวเลขลดลงอย่างมาก และวงจรนี้ก็วนซ้ำ เป็นไปตาม “วัฏจักร boom-and-bust” ทุก 3–4 ปี หรือมากกว่านั้น
วัฏจักรนี้ไม่เพียงเป็นเรื่องของเลมมิง มันส่งผลต่อทั้งระบบนิเวศโดยรวม เพราะสัตว์นักล่าที่อาศัยเลมมิง เป็นแหล่งอาหาร ก็อาจได้รับผลกระทบตามไปด้วย เช่น ในปีที่ประชากรเลมมิงลดลงอย่างมาก อัตราการรอดของลูกนกฮูกหิมะ และสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก มักลดลงตามไปด้วย แสดงถึงความเชื่อมโยง ของห่วงโซ่อาหารอาร์กติก ที่ละเอียดอ่อน
บทบาทสำคัญเลมมิงอาร์กติก ในระบบนิเวศอาร์กติก
แม้พวกมันจะตัวเล็ก แต่เลมมิงอาร์กติก กลับมีบทบาทสำคัญมาก ในระบบนิเวศทุนดรา เพราะเป็นเหยื่อหลัก ของนักล่าหลายชนิด เช่น Arctic fox, นกฮูกอาร์กติก และกิ้งก่าพวก mustelid แค่ช่วงที่ประชากรเลมมิงพีค นักล่าพวกนี้ ก็จะมีโอกาสทำรัง หรือลดสัดส่วนการตายของลูกได้มากขึ้น
ข้อมูลอัปเดตของ IUCN ในปี 2016 ยังระบุว่าเลมมิง ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Least Concern แสดงถึงสถานะที่ยังคงมั่นคง ในธรรมชาติ (2016) [3] เมื่อประชากรเลมมิงลดลงหนัก (เช่น ช่วง “bust”) ผลกระทบอาจ “ถ่ายเท” ไปยังนักล่า และสายพันธุ์อื่น ๆ รวมทั้งนกและสัตว์อื่น ที่พึ่งพาเลมมิงเป็นแหล่งอาหาร ทำให้ระบบนิเวศ อาจเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ การที่พวกมันขุดโพรง และอุโมงค์ใต้หิมะช่วย “ปรับโครงสร้างพื้นดิน” ทำให้ดินได้รับการอากาศ ดีต่อการหมุนเวียนสารอาหาร และอาจช่วยให้พืชทุนดรา เติบโตได้ดีขึ้น เมื่อฤดูใบไม้ผลิกลับมาอีกครั้ง
อุปสรรคที่เลมมิงอาร์กติก ต้องเผชิญ
แม้เลมมิงอาร์กติก จะปรับตัวเก่ง แต่ก็มีความเปราะบางอยู่บ้าง โดยเฉพาะเมื่อ “สภาพภูมิอากาศ” เปลี่ยนแปลง รายงานวิจัยปี 2020 จาก Norwegian Polar Institute ชี้ว่า “ความคงตัวของชั้นหิมะ” ทั้งความลึก ความเสถียร และการทับถม เป็นกุญแจสำคัญ ถ้าชั้นหิมะบางเกินไป หรือมีการละลาย/แช่แข็งบ่อย อุโมงค์ใต้หิมะอาจพัง นักล่าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
และพวกมันก็อาจขาดแหล่งพักพิง หรือแหล่งอาหารใต้หิมะ นำไปสู่การลดลง ของประชากรอย่างรวดเร็ว ปัญหาเหล่านี้ ถูกเน้นมากขึ้น เมื่อสภาพภูมิอากาศในอาร์กติก เริ่มเปลี่ยนโดยเฉพาะ ในรอบหลายปีหลัง ทำให้ “วัฏจักร boom-and-bust” อาจไม่สม่ำเสมอ เหมือนอดีตอีกต่อไป และส่งผลต่อสัตว์อื่น ที่พึ่งพาเลมมิงด้วย
เลมมิงอาร์กติก ผู้อยู่รอดใต้หิมะ กับบทสรุป
เลมมิงอาร์กติก ผู้อยู่รอดใต้หิมะ เป็นตัวอย่างของสัตว์เล็ก ที่มีบทบาทใหญ่ในธรรมชาติ พวกมันอยู่รอดใต้หิมะ ด้วยระบบอุโมงค์อันชาญฉลาด กินพืชในทุนดรา ขยายพันธุ์เร็ว และเป็นแหล่งอาหารสำคัญ ในห่วงโซ่อาร์กติก การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ โดยเฉพาะต่อชั้นหิมะ จึงอาจกระทบต่อทั้งเลมมิง และระบบนิเวศโดยรวม
เลมมิงฆ่าตัวตายหมู่จริงหรือไม่ ?
จริง ๆ แล้ว “ฆ่าตัวตายหมู่” เป็นแค่ “ตำนาน” มีหลักฐานว่าน้อยมาก ที่เลมมิงจะกระโดดหน้าผา หรือว่ายน้ำข้ามทะเล อย่างเป็นระบบ หนึ่งในสาเหตุที่เรื่องนี้เกิด เพราะความสับสนตอนอพยพ ถ้าพบอุปสรรค บางตัวอาจจมน้ำ แต่นั่นไม่ใช่การฆ่าตัวตาย เป็นเพียงความพยายามหนี ออกจากพื้นที่แออัด ด้วยพฤติกรรมอพยพ ตามธรรมชาติ
ถ้าหิมะหาย เลมมิงอาร์กติกจะเป็นอย่างไร ?
ถ้าหิมะน้อย อุโมงค์ใต้หิมะอาจพัง นักล่าจะเข้าถึงได้ง่าย และพวกมันอาจไม่มีที่หลบ หรือที่เลี้ยงลูกในฤดูหนาว การขาดแหล่งพัก และอาหาร อาจทำให้ประชากรลดลง อย่างรุนแรง นี่คือเหตุผล ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (โดยเฉพาะหิมะ) เป็นภัยคุกคาม ต่อพวกมันอย่างแท้จริง
- Tags: สัตว์


