แคคตัส สายพันธุ์นิยม ที่คนรักต้นไม้ต้องรู้จัก

แคคตัส สายพันธุ์นิยม

แคคตัส สายพันธุ์นิยม เป็นพืชอวบน้ำที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งรูปทรงแปลกตา และสีสันหลากหลาย จึงกลายเป็นไม้ประดับยอดนิยม ในหมู่คนรักต้นไม้ ไม่ว่าจะปลูกในบ้าน หรือจัดสวนก็ให้บรรยากาศสดชื่น และทันสมัย เราจะพาคุณไปรู้จักสายพันธุ์แคคตัสยอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการเลือก และดูแลให้เติบโตสวยงามทุกฤดูกาล

  • ประวัติความเป็นมา และลักษณะทั่วไปของแคคตัส
  • ทำไมแคคตัสถึงได้รับความนิยมในไทยและทั่วโลก
  • สายพันธุ์แคคตัสยอดนิยม วิธีเลือกให้เหมาะกับผู้ปลูก
  • วิธีปลูก และขั้นตอนการดูแลแคคตัส

ประวัติความเป็นมาของ แคคตัส

แคคตัสมีต้นกำเนิดในช่วงปลายยุค Mesozoic และต้นยุค Tertiary ซึ่งเป็นช่วงที่พืชมีดอกเริ่มวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว เดิมทีแคคตัสมีลักษณะคล้ายพืชทั่วไป ได้รับการจำแนกอย่างเป็นทางการโดยนักพฤกษศาสตร์ Antoine Laurent de Jussieu ในปี 1789 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับพืชกลุ่มนี้อย่างเป็นระบบ (14 กันยายน 2024) [1]

ในช่วง กลางศตวรรษที่ 19 แคคตัสสายพันธุ์ Opuntia และ Echinopsis ถูกนำเข้าสู่ยุโรป เพื่อปลูกเป็นไม้ประดับ โดยเฉพาะในอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มมีการสะสมพันธุ์และจัดแสดงในเรือนกระจกของชนชั้นสูง

จุดพีคของแคคตัส ที่กลายเป็นกระแสฮิตในประเทศไทยช่วง ปี 2020–2021 โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์จากโควิด-19 ผู้คนหันมาปลูกแคคตัสเพื่อคลายเครียด และตกแต่งบ้าน ส่งผลให้ราคาพันธุ์หายากพุ่งสูง และเกิดกลุ่มนักสะสมหน้าใหม่จำนวนมาก

ลักษณะทั่วไปของแคคตัส

แคคตัส (Cactus) เป็นพืชอวบน้ำในวงศ์ Cactaceae มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา โดยเฉพาะในเขตทะเลทรายและพื้นที่แห้งแล้ง ลำต้นของแคคตัสมีลักษณะอวบอ้วนเพื่อกักเก็บน้ำ และมีหนามแทนใบเพื่อป้องกันการคายน้ำและสัตว์กินพืช จุดเด่นเฉพาะคือ “ตุ่มหนาม” หรือ areole ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกิดหนาม ดอก และกิ่งใหม่

แคคตัสมีหลายรูปทรง เช่น ทรงกลม ทรงกระบอก หรือแผ่นแบน บางชนิดมีลำต้นเดี่ยว บางชนิดแตกกอหรือแตกกิ่งเป็นพุ่ม หนามของแคคตัสมีหลายแบบ ทั้งหนามกลางขนาดใหญ่ และหนามข้างขนาดเล็กที่ล้อมรอบ โดยวิวัฒนาการมาจากใบจริง เพื่อความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง สามารถขยายพันธุ์โดยการชำหน่อ กราฟต์ หรือเพาะเมล็ด ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

ที่มา: แคคตัสคืออะไร? ลักษณะ ประเภท และวิธีดูแลให้สวยงาม (1 กันยายน 2024) [2]

ทำไมแคคตัสถึงได้รับความนิยมในไทยและทั่วโลก

  1. รูปลักษณ์แปลกตาและหลากหลายสายพันธุ์ แคคตัสมีรูปทรงหลากหลาย เช่น ทรงกลม ทรงกระบอก หรือแผ่นแบน พร้อมหนามและดอกสีสันสดใส ทำให้เป็นไม้ประดับที่โดดเด่นในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะปลูกในบ้าน สวน หรือออฟฟิศ
  2. ดูแลง่ายและทนแล้ง ด้วยความสามารถในการกักเก็บน้ำในลำต้น แคคตัสจึงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลต้นไม้มากนัก รดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ อีกทั้งยังทนต่อสภาพอากาศหลากหลาย ทำให้ปลูกได้ทั่วโลก
  3. ความหมายเชิงสัญลักษณ์และความสุขทางใจ แคคตัสมักถูกใช้เป็นของขวัญแทนความรักที่มั่นคง ความอดทน และการเติบโตอย่างช้าแต่มั่นคง ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2020–2021 แคคตัสกลายเป็นพืชยอดนิยมในไทย เพราะช่วยคลายเครียด และสร้างความสุขให้ผู้ปลูก เช่นเดียวกับ ว่าน สายพันธุ์นิยม ที่มีความหมาย และความเชื่อสร้างความสุขทางใจให้แก่ผู้ปลูก

ที่มา: ‘แคคตัส’ มีดีตรงไหน ทำไมครองใจผู้คนนาน (4 สิงหาคม 2020) [3]

สายพันธุ์แคคตัสยอดนิยม วิธีเลือกให้เหมาะกับผู้ปลูก

  • ถังทอง (Golden Barrel) ทรงกลม หนามสีขาวอมเหลือง เว้าด้านบนคล้ายปากถัง ปลูกง่าย เหมาะสำหรับคนมีพื้นที่กลางแจ้ง ทนแดด นิยมจัดสวนหิน
  • แอสโตรไฟตัม (Astrophytum) ทรงกลม มีลายจุดขาว ไม่มีหนาม ดอกสีเหลืองส้ม เหมาะสำหรับคนชอบลายจุด ปลูกในกระถาง ดูแลง่ายปานกลาง
  • แมมมิลลาเรีย (Mammillaria) หนามนุ่มคล้ายขนนก ดอกเล็กสีชมพูรอบยอด น่ารัก ตะมุตะมิ เหมาะกับผู้เริ่มต้น เหมาะกับมือใหม่
  • ยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) หัวกลม มีดอกสีสด เช่น ชมพู แดง เหลือง นิยมปลูกแบบหัวสีและด่าง เหมาะกับผู้ชอบดอกสีสด ดูแลง่าย
  • ตะบองผู้เฒ่า (Cephalocereus senilis) ลำต้นสูง มีขนสีขาวคล้ายผมคนแก่ แปลกตา นิยมสะสมในกลุ่มนักเล่นแคคตัส ดูแลค่อนข้างยาก
  • กระบองทอง (Eriocactus leninghausii) ทรงกระบอก หนามสีทองเรียงแน่น นิยมปลูกประดับสวน และจัดถาดแคคตัส

วิธีปลูกแคคตัสสำหรับมือใหม่

แคคตัส สายพันธุ์นิยม

  1. เลือกสายพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อม เริ่มจากสายพันธุ์ที่ดูแลง่าย เช่น แมมมิลลาเรีย หรือแอสโตรไฟตัม เหมาะกับผู้เริ่มต้น
  2. เตรียมดินปลูก ใช้ดินร่วนผสมทรายหยาบหรือหินภูเขาไฟ เพื่อให้ระบายน้ำดี หลีกเลี่ยงดินที่อุ้มน้ำมาก
  3. ปลูกลงกระถางที่มีรูระบายน้ำ วางต้นแคคตัสลงในกระถาง แล้วเติมดินให้พอดี ไม่แน่นเกินไป เพื่อให้รากหายใจได้

ขั้นตอนการดูแลแคคตัสให้เติบโตสวยงาม

  1. แสงแดด แคคตัสต้องการแสงแดดเต็มวัน 4–6 ชั่วโมงต่อวัน หากปลูกในร่มควรตั้งใกล้หน้าต่าง
  2. การรดน้ำ รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิท โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำบ่อยเกินไป
  3. การใส่ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 หรือปุ๋ยละลายช้า เดือนละครั้งในช่วงฤดูเจริญเติบโต (มีนาคมกันยายน)
  4. การป้องกันโรคและแมลง ตรวจสอบรากและใบเป็นประจำ หากพบเพลี้ยหรือรากเน่า ให้ใช้สารชีวภาพหรือเปลี่ยนดินใหม่

โดยสรุป แคคตัส สายพันธุ์นิยม ครองใจคนทั่วโลก

สรุปแล้ว แคคตัส สายพันธุ์นิยม เป็นพืชอวบน้ำที่มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก ทั้งแมมมิลลาเรีย แอสโตรไฟตัม และถังทอง ซึ่งแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และดูแลง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักสะสม ด้วยความน่ารัก ทนแล้ง และปลูกได้ในพื้นที่จำกัด แคคตัสจึงกลายเป็น ไม้ประดับยอดนิยมที่ครองใจคนทั่วโลก

แคคตัสต้องการแสงแดดมากแค่ไหน?

แคคตัสส่วนใหญ่ ต้องการแสงแดดเต็มวันประมาณ 4–6 ชั่วโมง บางสายพันธุ์ เช่น ถังทองและตะบองผู้เฒ่า ชอบแดดจัดตลอดวัน หากปลูกในร่ม ควรตั้งใกล้หน้าต่าง หรือใช้ไฟปลูกเสริม

แคคตัสสายพันธุ์ไหนเหมาะกับมือใหม่?

แมมมิลลาเรีย และแอสโตรไฟตัม เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลง่าย ทนแล้ง และไม่ต้องรดน้ำบ่อย เหมาะสำหรับปลูกในกระถางเล็ก หรือจัดสวนถาด มีรูปทรงน่ารัก และดอกสีสวย เพิ่มความสดใสให้พื้นที่ปลูก

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of OTP
OTP

แหล่งอ้างอิง