แชมเปญ Veuve Clicquot สตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งแชมเปญ

แชมเปญ Veuve Clicquot หากพูดถึงแชมเปญระดับพรีเมียมที่ทั้งหรูหรา คลาสสิก และมีเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง “Veuve Clicquot”คือหนึ่งในชื่อแรกๆ ที่คอแชมเปญทั่วโลกนึกถึง แบรนด์นี้ไม่เพียงโดดเด่นเรื่องรสชาติอันเปี่ยมความสมดุล แต่ยังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะบทบาทสำคัญของผู้หญิงผู้เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมแชมเปญไปตลอดกาล Madame Clicquot

ฉลากสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ที่จดจำง่ายและโดดเด่นที่สุดในตลาด
ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ Pinot Noir เป็นตัวกำหนดบุคลิกไวน์
มีประวัติยาวนานกว่า 250 ปีพร้อมตำนาน Madame Clicquot
คุณภาพสม่ำเสมอและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ทั่วโลกยอมรับ

ประวัติความเป็นมา ของVeuve Clicquot

Veuve Clicquotก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1772 ที่เมืองแร็งส์ ในเขตผลิตช็องปาญ ประเทศฝรั่งเศส โดย ฟิลิปป์ คลิคโคต์ หลังจากที่บุตรชายของเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1805 ชื่อ“Veuve” ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “แม่ม่าย” ซึ่งหมายถึง Barbe-Nicole Ponsardin ผู้กลายเป็นแม่ม่ายในวัยเพียง 27 ปี และเข้ามาบริหารโรงบ่มแชมเปญต่อจากสามี

ภายใต้การนำของเธอ เวิฟ คลิกโกต์ได้เติบโตและได้รับการขนานนามว่าเป็น “La Grande Dame de la Champagne” หรือสุภาพสตรีผู้ยิ่งใหญ่แห่งแชมเปญ แบรนด์จะคำนึงถึงคำแนะนำของMadame Clicquotเสมอที่ว่า “ไวน์ของเราต้องดูดีทั้งต่อลิ้นและสายตา”

สิ่งที่ทำให้เธอถูกยกย่องคือความกล้าและไอเดียที่ล้ำสมัย

เธอได้สร้าง แชมเปญวินเทจ ขวดแรกในปี ค.ศ. 1810
ประดิษฐ์คิดค้น โต๊ะปริศนา (remuage table) เพื่อหมุนขวดในปี ค.ศ. 1816
ผลิต แชมเปญโรเซ่ เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1818

ที่มา: Veuve Clicquot (สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2025) [1]

สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติMadameClicquot เพิ่มเติมได้ที่ wikipedia

สไตล์ของ เวิฟ คลิกโกต์ที่เป็นเอกลักษณ์

สไตล์ของ เวิฟ คลิกโกต์มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่หลายคนรู้จักกันดี คือ โครงสร้างไวน์ที่แน่น กลมกล่อม มีความสดชื่น และความซับซ้อนเชิงรสชาติ สไตล์ของไวน์เวิฟ คลิกโกต์ เอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก

1. บรูท คาร์ท โคเน่ (Brut Carte Jaune)

เป็นแชมเปญชั้นเลิศที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำจากองุ่นปิโนต์ นัวร์ และปิโนต์ เมอนิเยร์ บ่มไว้อย่างน้อย 30 เดือน
มีสีเหลืองทองและกลิ่นหอมละมุน มีรสชาติของดอกไม้และกลิ่นหอมเย้ายวนของผลไม้สด ไม่หวานเกินไป และมีรสซับซ้อน

2. ลา แกรนด์ ดาม (La Grande Dame)

เพรสทีจ คูเว่ ไวน์ชั้นดีจากองุ่นปิโนต์ นัวร์เป็นพิเศษ มากกว่า 90% เสริมด้วยชาร์ดอนเนย์จากแหล่งปลูกชั้นนำ 8 แห่ง
โดดเด่นด้วยสีทองเหลืองอ่อน ความเข้มข้นของกลิ่นหอมของผลไม้แห้ง และกลิ่นแห่งความเผ็ดร้อน

3. วินเทจ คูเว (Vintage Cuvées) (สีขาว & สีชมพู)

เป็นแชมเปญที่ผลิตจากผลผลิตในปีที่กำหนด เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการเก็บเกี่ยวแต่ละครั้ง
มีรสชาติที่ให้ความซับซ้อน ควบคู่ไปกับความนุ่มนวล และความสง่างาม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หลักของแบรนด์

4. เอ็กซ์ตร้า บรูท เอ็กซ์ตร้า โอลด์ (Extra Brut Extra Old)

เป็นไวน์ที่เน้นการ สะสมหลายปี ทำโดยใช้ประโยชน์จากการบ่มสองครั้ง และการลดปริมาณน้ำตาล ทำให้ได้รสชาติที่โดดเด่นด้วยความบริสุทธิ์ ความซับซ้อน และควบคุมสมดุลของกลิ่นหอมที่ยอดเยี่ยม

ที่มา: เวิฟ คลิกโกต์ แชมเปญ (สืบค้นเมื่อ 7 ธันวาคม 2025) [2]

ผลิตภัณฑ์เด่น ของVeuve Clicquot

เวิฟคลิกโกต์ มีแชมเปญหลายประเภทจำหน่ายที่ iShopChangi ได้แก่ Yellow Label Brut (คลาสสิก), Brut Rosé (โรเซ่ที่มีรสชาติเข้มข้น), และ Ice Jacket (บรรจุภัณฑ์พิเศษที่ช่วยรักษาความเย็น)

การสำรวจความสง่างามอันประณีตของแชมเปญชื่อดังจากเวิฟ คลิกโกต์ ที่มีจำหน่ายที่ iShopChangi

1.VeuveClicquot Yellow Label Brut:

เป็นคอลเลกชันหลักและเป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานอย่างเชี่ยวชาญราว 50 ถึง 60 ชนิด
โดดเด่นด้วย PinotNoir ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่ง, ความซับซ้อน, และกลิ่นผลไม้ ผสมกับ Chardonnay และ Meunier
มอบความรู้สึกสดชื่น, ชื่นชม, หอมกรุ่น, และเปี่ยมสัมผัสที่นุ่มนวลดุจแพรไหม

2.Veuve ClicquotBrut Rosé:

อีกหนึ่งเส้นทางอันน่าหลงใหล รังสรรค์จากส่วนผสมที่หลากหลายคล้ายคลึงกับเส้นสายไวน์แดงชั้นเลิศ เพื่อสร้างสีและเอกลักษณ์ของโรเซ่
มีส่วนผสมที่ให้ความเปี่ยมไปด้วยกลิ่นผลไม้สีแดง, พร้อมสัมผัสอันหรูหราและหนักแน่นนุ่มนวล
มีรสชาติที่นุ่มนวลละมุนละไม ที่จะเสริมความเข้มข้นอันมีชีวิตชีวา

3.VeuveClicquot Ice Jacket และ Ice Jacket Rosé:

เป็นคอลเลกชันพิเศษที่มาพร้อมVeuveClicquot Ice Jacket เสื้อแจ็กเก็ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งเปิดตัวในปี 2004
นวัตกรรมเสื้อผ้าถักทอแบบยืดหยุ่นกันน้ำนี้ช่วยให้แชมเปญเย็นเจี๊ยบได้นาน

ที่มา: ช้อปเวิฟ คลิกโกต์ ปลอดภาษีในสิงคโปร์ (2025) [3]

เป็นแชมเปญ ที่เหมาะกับ โอกาสแบบไหนบ้าง?

เวิฟคลิกโกต์ เป็นแชมเปญที่ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา สดใส และมีสไตล์เฉพาะตัว ทำให้เหมาะกับหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานเฉลิมฉลองหรือช่วงเวลาพิเศษในชีวิต โดยแต่ละรุ่นของแบรนด์ยังออกแบบมาเพื่อรองรับอารมณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างลงตัว

1. งานฉลองสุดพิเศษและปาร์ตี้
“Veuve ClicquotYellow Label Brut” เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานสังสรรค์ เพราะมีความสดชื่น บาลานซ์ และดื่มง่าย ให้บรรยากาศสนุกสนานและมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับวันเกิด ปาร์ตี้บ้าน หรืออีเวนต์กลางแจ้ง

2. ดินเนอร์โรแมนติกหรือโอกาสที่ต้องการความประณีต
รุ่น Rosé หรือ Vintage ช่วยเพิ่มมู้ดอ่อนหวานและลึกซึ้ง โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับอาหารอย่างสเต็กเนื้ออ่อน ซาลมอน หรืออาหารฝรั่งเศส ทำให้โต๊ะอาหารดูพิเศษขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3. งานแต่งงานและการเฉลิมฉลองที่เป็นทางการ
เวิฟ คลิกโกต์ เป็นแบรนด์ที่นิยมในงานแต่งงานเพราะสื่อถึงความหรูหราและความหมายดี การเสิร์ฟแชมเปญสีทองในงานมงคลช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่สง่างาม และเหมาะสำหรับการทำ Champagne Tower

4. โอกาสทางธุรกิจหรือการมอบเป็นของขวัญระดับพรีเมียม
ดีไซน์ขวดสีเหลืองโดดเด่นและชื่อเสียงระดับโลกทำให้ เวิฟ คลิกโกต์ เป็นของขวัญที่น่าประทับใจ เหมาะสำหรับลูกค้า ผู้บริหาร หรือโอกาสสำคัญในธุรกิจ

5. การจับคู่กับมื้ออาหารระดับพิเศษ
หากต้องการยกระดับมื้ออาหาร เช่น ดินเนอร์กับเพื่อนสนิท หรือการเลี้ยงฉลองที่ร้านไฟน์ไดน์ แชมเปญรุ่น La Grande Dame คือคำตอบ ด้วยความลุ่มลึกและความซับซ้อนที่ออกแบบมาเพื่ออาหารกูร์เมต์โดยเฉพาะ

ทำไม VeuveClicquot ถึงโดดเด่นกว่าแบบอื่น?

Veuve Clicquotเป็นหนึ่งในแบรนด์แชมเปญที่ได้รับการยอมรับจากคนรักไวน์ทั่วโลกมานานกว่า 250 ปี ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งในด้านรสชาติ การผลิต และประวัติศาสตร์ ทำให้แบรนด์นี้โดดเด่นเหนือแชมเปญหลายยี่ห้อในตลาดอย่างชัดเจน

1. การใช้องุ่นPinot Noir เป็นหัวใจหลักของบล้องด์
เลือกใช้องุ่น Pinot Noirเป็นสัดส่วนสูงในเบลนด์ ซึ่งช่วยเพิ่มโครงสร้าง ความลึกและคาแรกเตอร์อันทรงพลังให้กับแชมเปญ รสชาติจึงมีความบาลานซ์ที่ดี ระหว่างความสดชื่นและมิติที่ซับซ้อน

2. คุณภาพที่คงเส้นคงวาในทุกปี
หนึ่งในจุดแข็งที่สุดคือการรักษาคุณภาพให้คงที่ ไม่ว่าปีใดสภาพภูมิอากาศจะดีหรือท้าทายแค่ไหน ทีมไวน์เมกเกอร์ของแบรนด์ก็ยังคงสร้างแชมเปญที่มีรสชาติและสไตล์ที่คุณคุ้นเคยได้อย่างยอดเยี่ยม

3. ดีไซน์สีเหลือง (Yellow Label) ที่เป็นเอกลักษณ์ทั่วโลก
ฉลากสีเหลืองสดใสเป็นหนึ่งในภาพจำของแบรนด์ ทำให้ผู้คนสามารถจดจำได้ทันทีบนชั้นวางแชมเปญในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านไวน์ หรืออีเวนต์หรู ซึ่งเป็นทั้งเอกลักษณ์และเครื่องหมายคุณภาพ

4. ประวัติศาสตร์และนวัตกรรมจาก “MadameClicquot”
Madame Clicquotผู้ก่อตั้งถือเป็นผู้หญิงคนแรกๆ ที่สร้างปรากฏการณ์ในวงการแชมเปญ เธอคือผู้คิดค้นเทคนิค Riddling Table ที่ช่วยทำให้แชมเปญใสขึ้น และเป็นผู้บุกเบิกรุ่น Rosé แบบผสมไวน์แดง ทำให้แบรนด์มีเรื่องราวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

5. รสชาติที่บาลานซ์และดื่มง่าย แต่ยังคงความพรีเมียม
โปรไฟล์รสชาติของเวิฟคลิกโกต์ มักเน้นความสดชื่นของผลไม้ ผสานกลิ่นขนมปังบริยอชและวานิลลา ทำให้เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่เริ่มดื่มแชมเปญและผู้ที่ชื่นชอบความลุ่มลึกแบบมืออาชีพ

6. ความหรูหราที่เข้าถึงได้ (Accessible Luxury)
แม้จะเป็นแบรนด์ระดับพรีเมียม แต่ราคาแต่ละรุ่น เช่น Yellow Label Brut หรือ Rosé ยังอยู่ในช่วงที่จับต้องได้ ทำให้คนทั่วไปสามารถสนุกกับความหรูหราของแบรนด์ได้โดยไม่ต้องใช้งบสูงเกินไป

รสชาติของ เวิฟ คลิกโกต์ มีเอกลักษณ์อย่างไร?

รสชาติของเวิฟคลิกโกต์ ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แบรนด์นี้โดดเด่นและได้รับความนิยมทั่วโลก ความพิเศษของแบรนด์อยู่ที่การผสมผสานระหว่างความสดชื่นแบบทันสมัยและความลุ่มลึกแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้องุ่น Pinot Noirเป็นหัวใจหลักของเบลนด์ รวมถึงการบ่มอย่างพิถีพิถันตามสไตล์ดั้งเดิมของ Champagne

1. โปรไฟล์รสชาติบาลานซ์ระหว่างสดชื่นและลุ่มลึก
2. กลิ่นหอมผลไม้สดและโน้ตบริยอชที่เป็นเอกลักษณ์
3. ความนุ่มแน่นของฟอง (Mousse) ที่ละเอียดและยาวนาน
4. ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นตามแต่ละรุ่น
5. อาฟเตอร์เทสต์ยาวนานแบบหรูหรา

สรุป แชมเปญ Veuve Clicquot ฉลากสีเหลืองส้มสะดุดตา

แชมเปญ Veuve Clicquot คือ การที่ผสานความหรูหราเข้ากับประวัติศาสตร์กว่า 250 ปีได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เรื่องราวของ Madame Clicquotผู้พลิกโฉมอุตสาหกรรมไวน์ ไปจนถึงเอกลักษณ์รสชาติที่เน้นโครงสร้างจาก PinotNoir และความซับซ้อนจากการบ่มอย่างประณีต แบรนด์นี้จึงไม่ใช่เพียงแชมเปญสำหรับงานเฉลิมฉลอง แต่เป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ ความพิถีพิถัน และสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์

ทำไมVeuve Clicquotถึงได้ รับความนิยม ทั่วโลก?

เวิฟคลิกโกต์ ได้รับความนิยมเพราะมีรสชาติบาลานซ์ ดื่มง่าย แต่ยังคงความพรีเมียมด้วยโครงสร้างจาก Pinot Noir และความซับซ้อนของการบ่ม แบรนด์ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานและนวัตกรรมจาก Madame Clicquotที่สร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ นอกจากนี้ดีไซน์ฉลากสีเหลืองโดดเด่นทำให้จดจำง่ายและกลายเป็นสัญลักษณ์ความหรูหราทั่วโลก

เหตุใด Madame Clicquotเป็นผู้ปฏิวัติ วงการแชมเปญ?

Madame Clicquotถูกยกย่องว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการแชมเปญเพราะเธอเป็นผู้คิดค้นเทคนิค Riddling ที่ทำให้แชมเปญใสและคุณภาพดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด เธอยังพัฒนาแชมเปญสไตล์ใหม่และผลักดันแบรนด์สู่ตลาดโลกในยุคที่ผู้หญิงแทบไม่มีบทบาททางธุรกิจ นวัตกรรมและวิสัยทัศน์ของเธอทำให้ เวิฟคลิกโกต์กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แชมเปญระดับโลกจนถึงปัจจุบัน