แบดมินตัน วิธีเล่น และกฎกติกาที่ควรศึกษาก่อนลงสนาม

แบดมินตัน วิธีเล่น คือ การใช้ไม้ตีลูกขนไก่ ให้ข้ามตาข่าย หรือเสิร์ฟให้ฝ่ายตรงข้ามรับ ตีโต้ตอบกันไปมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายหลัก คือ พยายามทำให้ลูกตกในสนาม ฝ่ายตรงข้าม หากฝ่ายใดตีลูกตกนอกสนาม หรือตีพลาด ฝ่ายตรงข้ามจะได้แต้มทันที เกมจะดำเนินไป จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้คะแนนตามเกณฑ์ คือ 21 คะแนน

ที่มาของ กีฬาแบดมินตัน
กติกาพื้นฐาน ของการเล่นแบดมินตัน
แบดมินตัน ในประเทศไทย

จุดเริ่มต้นและที่มา ของกีฬาแบดมินตัน

แบดมินตันเป็นกีฬา ที่สามารถเล่นได้ทั้ง แบบเดี่ยว และแบบคู่ อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่มีหลักฐาน บ่งบอกว่าอยู่มาทุกยุค ทุกสมัย เช่น ในช่วงศตวรรษที่ 7 มีภาพวาดเก่า ที่ทำให้รู้ว่ามีการนำ ขนไก่ มาทำเป็นลูกขนไก่ เพื่อเล่นจริง แต่มีวิธีเล่น คือ ใช้เท้าเตะ โดยจะล้อมวงเล่นกัน 3 – 4 คน และในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 ก็มีภาพสีน้ำมัน เป็นภาพของการเล่น กีฬาแบดมินตัน ภายในราชสำนักต่างๆ (20 พฤศจิกายน 2025) [1]

เผยกติกาพื้นฐาน ของการเล่นกีฬาแบดมินตัน

กฎกติกาพื้นฐาน ที่ผู้เล่นทุกคนควรรู้ ก่อนเริ่มลงสนาม คือ สนามจะต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และแบ่งเขตแดนออกเป็น 2 ฝั่ง โดยใช้ตาข่ายกั้นระหว่างกลาง ลูกขนไก่ที่ใช้ในการตี จะต้องทำมาจากขนเป็ด หรือวัสดุสังเคราะห์ ไม้แร็กเกต ต้องมีขนาด และน้ำหนัก ที่ได้มาตรฐาน

วิธีการเสิร์ฟลูก ต้องเสิร์ฟแนวทแยงมุม และลูกต้องอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเอว ของผู้เสิร์ฟ การเปลี่ยนฝั่งจะเกิดขึ้นในตอนที่ จบเกมแรก และเมื่อเริ่มเล่นเกมที่สาม รวมถึงเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำแต้มได้ 11 แต้มด้วย ส่วนการกระทำที่ถือว่า เป็นความผิดในสนาม คือ ใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่แร็กเกตในการตีลูก กระโดดข้ามตาข่าย และรบกวนคู่ต่อสู้ (2025) [2]

แบดมินตันเป็นกีฬา ที่มาพร้อมกับความเร็วสูง

แบดมินตันเป็นกีฬา ที่มีความเร็วสูง โดยเฉพาะลูกขนไก่ ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 332 กม./ชม. ในการแข่งขันระดับโลก ซึ่งทำให้ผู้เล่นต้องมีการตอบสนอง โต้ตอบอย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ความเร็วของลูกขนไก่ที่สูง จะทำให้เกมมีความตื่นเต้น และเต็มไปด้วยการเคลื่อนไหว ที่รวดเร็ว

ทั้งการตีลูก, การวิ่งไปมารอบสนาม และการคาดเดาทิศทาง ของลูก ซึ่งต้องอาศัยทั้งความคล่องตัว และการฝึกฝนเป็นอย่างมาก ในการควบคุมเกม ให้อยู่ในมือของตัวเอง

การเล่นกีฬาแบดมินตัน ในประเทศไทย

แบดมินตันเป็นกีฬา ที่เริ่มแพร่หลาย และเป็นที่รู้จัก ในประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2456 ซึ่งกีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยม ในแวดวงผู้ดีมีตระกูล เป็นกีฬาที่มักจะเล่นกันภายในราชสำนัก หรือวังเจ้านาย จนในช่วงปี พ.ศ. 2562 ทางสโมสรกลาโหม ก็ได้มีการจัดการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 3 ประเภท คือ ประเภทคู่ ประเภทเดี่ยว และประเภท 3 คน (26 เมษายน 2024) [3]

ทักษะการเล่นที่สำคัญ ในการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน

ทักษะที่สำคัญในการเล่น หรือแข่งขัน กีฬาแบดมินตัน ได้แก่ การเสิร์ฟ ที่แม่นยำ สามารถสร้างความกดดัน ให้ฝ่ายตรงข้ามได้, การตีลูก ต้องตีได้ทั้งลูกเหนือศีรษะ ตีข้าง และตีล่าง ต้องมีความแม่นยำในการวางลูก ให้ตกในจุดที่ยากต่อการรับ ของคู่แข่ง, การรับลูก และการเคลื่อนไหว

เป็นทักษะสำคัญที่ต้องอาศัย ทั้งความรวดเร็ว และการคาดเดาที่ดี นอกจากนี้การสร้างจังหวะ ในการโจมตี และการป้องกันลูกที่มาจาก ฝ่ายตรงข้าม ก็เป็นทักษะที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้เปรียบ ในการแข่งขันเช่นเดียวกัน

อุปกรณ์เฉพาะสำหรับการเล่น กีฬาแบดมินตัน

ไม้แบดมินตัน ใช้สำหรับตีลูกขนไก่ ต้องมีขนาด และน้ำหนัก ที่ได้มาตรฐานสากล
ลูกขนไก่ ซึ่งจะมีทั้งแบบขนจริงที่ทำจากขนห่าน และแบบสังเคราะห์ ลูกขนไก่แบบขนจริง มักจะใช้ในการแข่งขัน ระดับสูง เนื่องจากสามารถควบคุมการเคลื่อนไหว ของลูกได้ดี
รองเท้าแบดมินตัน ออกแบบมาให้เหมาะสม กับการเคลื่อนไหว ในสนามแบดมินตัน โดยรองเท้าควรมีพื้นยางที่ไม่ลื่น และมีการรองรับที่ดี
เสื้อผ้า เสื้อและกางเกงที่ใส่ ควรมีความยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี เพื่อให้ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้สะดวก และไม่ร้อนเกินไป เช่นเดียวกับการเล่น กีฬาวอลเลย์บอล ระดับสากล
ตาข่าย และเส้นสนาม ใช้สำหรับการแข่งขัน ตาข่ายจะต้องมีความสูงที่ได้มาตรฐาน และมีเส้นสนามที่ชัดเจน สามารถแบ่งเขตการเล่นได้อย่างเป็นระเบียบ

บทส่งท้าย แบดมินตัน วิธีเล่น

สรุปแบดมินตัน เป็นกีฬาที่เล่นได้ทั้งแบบเดี่ยว และแบบคู่ โดยมีวิธีการเล่นคือ ใช้ไม้ ในการตีลูกขนไก่ ให้ข้ามตาข่าย และไปตกในสนามของฝ่ายตรงข้าม กีฬาชนิดนี้จะเน้นทักษะการเคลื่อนไหว ที่รวดเร็ว และแม่นยำ ในการรับลูก และตีลูก ให้กับฝ่ายตรงข้าม

แบดมินตันเป็นกีฬาในร่ม หรือกีฬากลางแจ้ง?

แบดมินตันเป็นกีฬา ที่นิยมเล่นในร่มเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากลูกขนไก่เมื่อถูกลมกระทบ จะควบคุมได้ยาก เพราะฉะนั้นการเล่นในร่ม จะช่วยให้ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า เช่น แสง และลม ซึ่งทำให้การแข่งขันมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น แต่ก็สามารถเล่นกลางแจ้งได้ ในบางกรณี โดยใช้สนามที่มีการป้องกันลม และแสงแดด

ทำไมถึงต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง ระหว่างเกม?

ที่ต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง ระหว่างเกม เพราะว่าต้องให้การแข่งขันเป็นธรรม และเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในเรื่องของ สภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด หรือทิศทางลม ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเล่นได้ การเปลี่ยนฝั่งจะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้เล่น ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกัน