Artichoke หรือ อาร์ติโชค ไม่เพียงแต่เป็นผัก ที่มีรสชาติโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อาหาร ที่มีมายาวนาน ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง และประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ อาร์ติโชคได้รับการยกย่อง เป็นหนึ่งในผักที่นิยมใช้ในอาหาร ในหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก
อาร์ติโชคต้องการสภาพอากาศเย็น ในช่วงต้นการเจริญเติบโต และอากาศอบอุ่น ในช่วงผลิตดอก ปัจจุบัน ปลูกอย่างแพร่หลาย ในแคลิฟอร์เนีย, สเปน, อิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลัก ในตลาดโลก มูลค่าการผลิตอาร์ติโชค ในสหรัฐอเมริกาในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 64.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [1]
อิตาลีเป็นผู้ผลิต อาร์ติโชค รายใหญ่ที่สุด โดยเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 378,820 เมตริกตัน ในปี 2566 การผลิตทั่วโลก อยู่ที่ประมาณ 1.59 ล้านเมตริกตัน [2]
อาร์ติโชค เป็นส่วนของดอก ที่ยังไม่บานสมบูรณ์ ของพืชในตระกูล Asteraceae มีลักษณะเป็นหัวโต มีชั้นของกลีบหนาๆ ที่สามารถรับประทานได้ ส่วนที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดคือ แกนกลาง ซึ่งเป็นส่วนกลาง ที่นุ่มของอาร์ติโชค
อาร์ติโชคมีถิ่นกำเนิดใน mediterranean และมีการบันทึกการปลูก ในกรีซโบราณ ถูกนำมาใช้ในอาหาร และเป็นยาตั้งแต่สมัยนั้น ในศตวรรษที่ 15 และ 16 การบริโภคอาร์ติโชค เริ่มแพร่หลายในอิตาลี และฝรั่งเศส และต่อมาได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของยุโรป และอเมริกา
อาร์ติโชค อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
ข้อมูลแหล่ง 1 อาร์ติโชคปริมาณ 1 ดอก 162 กรัม ให้พลังงาน 47 กิโลแคลอรี
ที่มา: Artichokes [3]
ข้อมูลแหล่ง 2 อาร์ติโชคปริมาณ 1 ดอก 120 กรัม ให้พลังงาน 64 กิโลแคลอรี
ที่มา: Artichoke [4]
ข้อมูลในทั้ง 2 แหล่ง แสดงความแตกต่างกัน ในปริมาณสารอาหาร และวิธีการระบุค่านั้นๆ ซึ่งอาจมาจากวิธีการวัด หรือคำนวณที่ไม่เหมือนกัน การใช้ข้อมูลจากพื้นที่ หรือแหล่งที่มาต่างกัน หรือแม้แต่ความแตกต่างในพันธุ์ ของ อาร์ติโชค ที่ถูกวิเคราะห์
อาร์ติโชคเป็นผักที่น่าสนใจ ทั้งในด้านรสชาติ และประโยชน์ทางโภชนาการ การเพิ่ม อาร์ติโชค ในอาหาร เป็นวิธีที่ดี ในการเพิ่มความหลากหลาย และสร้างสรรค์ ให้กับมื้ออาหาร