Basil หรือ โหระพา เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และรสชาติที่เข้มข้น โหระพาจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญ ในอาหารหลายประเภท ตั้งแต่ Italian food ไปจนถึงอาหารไทย ไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่ดี โหระพายังมีคุณค่าทางโภชนาการ และสรรพคุณทางยา ที่ดีต่อสุขภาพ
โหระพา เติบโตได้ดี ในสภาพอากาศอบอุ่น และมีแดดจัด ปลูกง่ายในสวนครัว หรือในกระถางที่บ้าน ต้องปลูกในดินที่ร่วนซุย และมีการระบายน้ำดี การรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ และการตัดแต่งใบ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต เป็นสิ่งที่สำคัญ
ประเทศที่ผลิตโหระพา มากที่สุดในโลก ได้แก่ Italy, Egypt, India, United States, Vietnam, และ China ซึ่งประเทศเหล่านี้รวมกัน มีส่วนแบ่งการผลิตโหระพา มากกว่า 90% ของโลก [1]
โหระพา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ocimum basilicum และอยู่ในตระกูล Lamiaceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับ Mint และ Rosemary จัดเป็นพืชสมุนไพร และเป็นผักที่มีใบเขียวสด ใช้ในการปรุงอาหารหลายประเภท
โหระพามีต้นกำเนิดใน India และ Southeast Asia ได้รับการนำไปยัง Europe ในยุคโบราณ และกลายเป็นส่วนสำคัญใน mediterranean food โหระพายังมีความสำคัญ ในวัฒนธรรม และการแพทย์แบบโบราณ ของหลายประเทศ
โหระพา อุดมไปด้วย vitamin รวมถึงมี Antioxidants ช่วยในการย่อยอาหาร ลดการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการต่อต้าน Bacteria และช่วยบรรเทาอาการปวดหัว แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่า โหระพาปริมาณต่อ 100 g มี 22 kilocalories
ที่มา: FoodData [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่า โหระพาปริมาณต่อ 100 g มี 44 kilocalories
ที่มา: พลังงานและสารอาหาร [3]
โหระพา สามารถใช้ในการปรุงอาหารหลากหลาย เช่น ใส่ใน pasta sauce pizza หรือทำเป็น Pesto Sauce และเครื่องปรุงรสต่างๆ ใบโหระพาสด สามารถใช้ในการตกแต่งจานอาหาร เพื่อเพิ่มความสวยงาม และกลิ่นหอม
โหระพา เป็นสมุนไพร ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติ และกลิ่นหอมให้กับอาหาร แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ด้วยการปลูกที่ง่าย และการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้โหระพาเป็นส่วนประกอบ ที่ไม่ควรพลาดในครัวของทุกคน