Basil Seed หรือ เม็ดแมงลัก เป็นเมล็ดจากพืชในสกุล Ocimum ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของตระกูลสะระแหน่ ได้รับความนิยม ใช้ในอาหาร และเป็นส่วนผสม ในเครื่องดื่มหลายประเภท เนื่องจากประโยชน์ทางโภชนาการ และสมบัติเฉพาะตัวที่น่าสนใจ
เม็ดแมงลักเป็นเมล็ดเล็กๆ จากพืชในตระกูลโหระพา มีลักษณะเป็นเมล็ดกลมๆ สีดำ เมื่อแช่ในน้ำ จะพองตัว และมีเนื้อเจลคลุมอยู่รอบๆ ลักษณะคล้ายเมล็ด Chia seeds เคี้ยวแล้ว ให้ความรู้สึกกรุบๆ ลื่นๆ
เม็ดแมงลัก มีต้นกำเนิดจากอินเดีย และมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง ในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอินเดีย และไทย เมล็ดแมงลักถูกใช้เป็นส่วนผสม ในเครื่องดื่ม และเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมยา ตามแบบฉบับแพทย์แผนโบราณ
เม็ดแมงลัก มักปลูกในภูมิอากาศ ที่ร้อนและชื้น เช่น ในประเทศอินเดีย, ปากีสถาน, และไทย พืชชนิดนี้ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ และไม่ทนต่อภาวะแห้งแล้ง
จากข้อมูล การเพาะปลูก เม็ดแมงลัก ปี 2561 เนื้อที่ทำการเพาะปลูก 2,594 ไร่ เนื้อที่ที่เกิดความเสียหาย 25 ไร่ เนื้อที่ ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3,307 ไร่ ผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ 847,459 kilogram ผลผลิตคิดเฉลี่ย 256 kilogram ต่อไร่ [1]
เม็ดแมงลัก ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากเม็ดแมงลัก มีไฟเบอร์สูง บำรุงระบบย่อยอาหาร ช่วยในการบำรุงระบบย่อยอาหาร และป้องกันท้องผูก บำรุงผิวพรรณ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ลดความเครียด และบำบัด เม็ดแมงลักปริมาณ 1 ขีดพลังงาน 0.032 กิโลแคลอรี
ที่มา: แมงลัก [2]
เม็ดแมงลักสามารถซื้อได้ จากร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพ ร้านค้าออนไลน์ และตลาดท้องถิ่น ที่ขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ยกตัวอย่างร้านค้าออนไลน์ ที่จำหน่ายเม็ดแมงลัก ยี่ห้อไร่ทิพย์ ปริมาณ 100 กรัม ราคา 36 บาท ต่อ 1 ถุง [3]
เม็ดแมงลักมักใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่ม เช่น ใส่ในน้ำมะพร้าว, น้ำผลไม้, หรือน้ำชา เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และให้เนื้อสัมผัสที่น่าสนใจ เคี้ยวกรุบ และสนุกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นส่วนผสมในสลัด หรือของหวาน
เม็ดแมงลักเป็นแหล่งโภชนาการ ที่มีประโยชน์หลายอย่าง นอกจากจะช่วยในเรื่อง ของการบำรุงร่างกายแล้ว ยังมีบทบาท ในการบำรุงจิตใจอีกด้วย การเพิ่มเม็ดแมงลัก ในอาหารประจำวันเป็นวิธีง่ายๆ ในการเสริมสุขภาพที่ดี