Blackberry ดียังไง รวมประโยชน์ โภชนาการ และวิธีปลูก

OTP
9 ก.ย. 25
15:15
23 views

Blackberry ดียังไง ? เมื่อพูดถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หลายคนอาจคุ้นชื่อ Blueberry หรือ Raspberry มากกว่า แต่จริงๆ แล้ว Blackberry ก็เป็นผลไม้เล็กๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Blackberry พร้อมทั้งเจาะลึกคุณค่าทางโภชนาการ บทบาทต่อการดูแลสุขภาพ ไปจนถึงเคล็ดลับการปลูก Blackberry ไว้ทานเองที่บ้าน

ทำความรู้จัก และลักษณะทางกายภาพของBlackberry
เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเจาะลึกคุณค่าทางโภชนาการ
บทบาทต่อการดูแลสุขภาพ
เคล็ดลับการปลูกแบล็กเบอร์รีไว้ทานเองที่บ้าน

ทำความรู้จัก Blackberry

ชื่อ: แบล็กเบอร์รี
ชื่อสามัญ (Common name): Blackberry
ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Rubus fruticosus L. (หมายถึงกลุ่มสายพันธุ์ย่อยหลายชนิดในสกุล Rubus)
วงศ์ (Family): Rosaceae (วงศ์กุหลาบ)
ถิ่นกำเนิด: ยุโรป อเมริกาเหนือ และแถบเอเชียตะวันตก โดยต่อมามีการกระจายพันธุ์ปลูกกว้างขวางไปทั่วโลกในเขตอากาศอบอุ่นถึงหนาวเย็น

ลักษณะทางกายภาพ ต้นแบล็กเบอร์รี

ลำต้น: ไม้พุ่มกึ่งเลื้อย สูงราว 1–3 เมตร มีหนามเล็กแหลมช่วยยึดเกาะและป้องกันตัว
ใบ: ใบเขียวสดแบบประกอบ แฉก 3–5 แฉก ขอบหยักเล็กน้อย ผิวบนเรียบมัน ด้านล่างมีขน
ดอก: ออกดอกช่อเล็ก สีขาวหรือชมพูอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–3 ซม. มีกลีบ 5 กลีบ ดึงดูดผึ้งผสมเกสร
ผล: ผลย่อยหลายผลรวมกันเป็นพวง เม็ดกลมเล็กแน่น สีเปลี่ยนจากเขียว → แดง → ม่วงดำเมื่อสุก
ราก: รากแข็งแรง ลึกและแตกแขนงกว้าง ดูดซับแร่ธาตุดี และสามารถแตกหน่อใหม่ เพื่อขยายพันธุ์

เกี่ยวกับ Blackberry ผลไม้แสนอร่อย

การอ้างถึง การบริโภคแบล็กเบอร์รี ตั้งแต่ยุคเหล็ก (Iron Age)

มีหลักฐานยืนยันว่าผู้คนบริโภคผล แบล็กเบอร์รีตั้งแต่ ประมาณ 2,500 ปีที่แล้ว เช่นพบในตัวของ “Haraldskær Woman” ซึ่งเป็นศพยุคเหล็กที่พบในหนองน้ำที่เดนมาร์ก โดยมีผลแบล็กเบอร์รี อยู่ในกระเพาะอาหาร

การพัฒนา Loganberry

ในปี 1881Judge James Harvey Logan ได้พัฒนาฮาร์บริล (loganic hybrid) ระหว่างแบล็กเบอร์รีกับ ราสเบอร์รี จนเกิดผลใหม่ชื่อว่า Loganberry ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่าง แบล็กเบอร์รี (ทวีปอเมริกา) กับ Red Raspberry (ยุโรป) (23 มิถุนายน 2025) [1]

การเพาะพันธุ์สายพันธุ์ Marionberry

ในปี 1956 มีการพัฒนาสายพันธุ์ Marionberry ใน Marion County รัฐ Oregon โดยความร่วมมือระหว่าง USDA Agricultural Research Service กับ Oregon State University เป็นลูกผสมจาก ‘Chehalem’ × ‘Olallie’ ซึ่ง Marionberry กลายเป็นสายพันธุ์แบล็กเบอร์รี ที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก

คุณค่าทางโภชนาการของแบล็กเบอร์รี

แม้จะเป็นผลไม้ป่าขนาดเล็กแต่แบล็กเบอร์รี กลับซ่อนคุณค่าทางโภชนาการเอาไว้มากมาย ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีส่วนช่วยต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ ที่น่าสนใจอย่าง อินทผลัม ดียังไง ที่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ: มีวิตามิน C เสริมภูมิคุ้มกัน วิตามิน K บำรุงกระดูก และใยอาหารสูงช่วยอิ่มนาน คุมระดับน้ำตาล
สารต้านอนุมูลอิสระและผลต่อสุขภาพ: อุดมด้วยโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานิน ช่วยปกป้องเซลล์ ลดเสี่ยงโรคหัวใจ มะเร็ง และชะลอความเสื่อม
บำรุงหัวใจและระบบหลอดเลือด: ใยอาหารและสารพฤกษเคมีลด LDL และช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันโรคหัวใจ
ดีต่อการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย: ใยอาหารสูง กระตุ้นการทำงานลำไส้ ลดท้องผูก และเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้

ที่มา: The Small Yet Powerful Blackberry: Why You Should Eat Some Today (31 สิงหาคม 2022) [2]

แบล็กเบอร์รี กับการลดน้ำหนักและการดูแลสุขภาพ

หลายคนอาจไม่รู้ว่าแบล็กเบอร์รี เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และดูแลสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่ทั้งอร่อย สดชื่น และเต็มไปด้วยคุณประโยชน์

แคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูง อิ่มนาน: พลังงานต่ำ ใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน และลดการกินจุกจิก เหมาะกับการคุมอาหาร
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ไฟเบอร์ และสารพฤกษเคมี ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ลดความเสี่ยงน้ำตาลพุ่งสูง
บทบาทต่อสุขภาพลำไส้: ใยอาหารช่วยให้ขับถ่ายดี และเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้
เมนูเพื่อสุขภาพสำหรับคนลดน้ำหนัก: กินสด ใส่โยเกิร์ต ทำสมูทตี้ หรือแทนขนมหวาน ลดแคลอรีได้ง่าย

ปลูกแบล็กเบอร์รีเองได้ไหม? คู่มือสำหรับคนรักสวน

หลายคนอาจคุ้นกับแบล็กเบอร์รี ในฐานะผลไม้ป่าต่างประเทศ แต่จริงๆ แล้วสามารถปลูกเองได้ หากเข้าใจพื้นฐานการดูแลที่ถูกต้อง เหมาะสำหรับคนรักสวน ที่อยากได้ผลไม้สดจากต้นมาทานเอง

สภาพอากาศ และดินที่เหมาะสม: ชอบอากาศ 15–25°C ดิน pH 5.5–6.5 ระบายน้ำดี ปลูกในดินร่วนปนทรายติดผลดีกว่าดินเหนียว 30–40%
วิธีการปลูก และดูแลรักษา: เว้นระยะ 1–1.5 เมตร รดน้ำ 3–4 ครั้ง/สัปดาห์ ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 2 เดือนเพิ่มผลผลิต 20% ตัดแต่งกิ่งช่วยเพิ่มกว่า 25%
การเก็บเกี่ยวผล Blackberry: สุกใน 45–60 วัน หลังดอกบาน เก็บเมื่อสีม่วงดำ น้ำตาลเฉลี่ย 10–12% Brix แช่เย็นยืดอายุ 2–3 วัน
ไอเดียการปลูกในกระถาง หรือแปลงเล็กๆ: ใช้กระถาง 40–50 ซม. ผลผลิตน้อยกว่าลงแปลง 15–20% แต่เพียงพอในครอบครัว ค้ำยันช่วยเพิ่มผลกว่า 30%

ที่มา: How to Grow and Care for Blackberries (19 กรกฎาคม 2024) [3]

สรุปภาพรวมของ Blackberry ดียังไง

ข้อสรุป Blackberry ดียังไง ? มันไม่ได้เป็นเพียงผลไม้ป่าขนาดเล็ก ที่มีรสหวานอมเปรี้ยวเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และใยอาหารที่ช่วยดูแลสุขภาพได้หลายด้าน ตั้งแต่การบำรุงหัวใจ ระบบย่อยอาหาร ไปจนถึงการควบคุมน้ำหนัก อีกทั้งยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ และสามารถปลูกเองได้ หากเข้าใจวิธีการดูแลที่ถูกต้อง

แบล็กเบอร์รี สามารถปลูกได้ในทุกภูมิภาคของไทยหรือไม่?

แบล็กเบอร์รี ชอบอากาศเย็นถึงอบอุ่น จึงเหมาะกับพื้นที่ภาคเหนือ หรือภูเขาที่อากาศไม่ร้อนจัด ส่วนภาคกลาง และภาคใต้ซึ่งอากาศร้อนชื้น อาจทำให้การเจริญเติบโต และการติดผลไม่ดีนัก

แบล็กเบอร์รี เก็บผลสดได้นานแค่ไหน?

แบล็กเบอร์รีเป็นผลไม้ที่เสียง่าย หากเก็บในอุณหภูมิห้องจะอยู่ได้เพียง 1–2 วัน แต่ถ้าแช่เย็นที่อุณหภูมิประมาณ 0–4°C สามารถยืดอายุได้ราว 4–5 วัน และหากแช่แข็ง จะเก็บได้นานหลายเดือน โดยยังคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ได้ดี