Caffeine เป็นสารที่พบอยู่ในเครื่องดื่มหลายชนิด ส่วนมากโดยทั่วไปมักพบในกาแฟ ชา หรือโคล่า ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรด ในชีวิตประจำวันของหลายๆคน คาเฟอีนมีผลในการกระตุ้น ระบบประสาทของเรา ทำให้รู้สึกตื่นตัว และกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น โดยคาเฟอีนเป็นสารที่มีโครงสร้างเคมี ที่คล้ายกับประสาทที่เรียกว่า adenine มีลักษณะที่คล้ายกับโครงสร้างของ DNA และ RNA ซึ่งทำให้คาเฟอีนเข้าไปกระตุ้นระบบประสาทได้นั่นเอง
Caffeine เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น เพิ่มความตื่นตัว ความสดชื่นให้กับร่างกาย และช่วยให้ความจำดี กระตุ้นระบบประสาท ช่วยเพิ่มพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ลดความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกาย และทำงานอีกด้วย
คาเฟอีนมีประโยชน์ต่อสมอง โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง กระตุ้นระบบประสาท ทำให้มีความตื่นตัว และช่วยเพิ่มความจำ ในด้านระบบประสาท คาเฟอีนช่วยเพิ่มการส่งสัญญาณ ระหว่างเซลล์ประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านหัวใจคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
คาเฟอีนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก โดยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานที่เรียกว่า thermogenesis ซึ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานมากขึ้น และส่งผลให้การลดน้ำหนัก มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้คาเฟอีนยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน โดยกระตุ้นกระบวนการ lipolysis ซึ่งเป็นกระบวนการทำลายไขมันนั่นเอง
แหล่งอาหารที่มี Caffeine ประกอบไปด้วยกาแฟ ที่เป็นแหล่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและชาหรือ Chocolate ก็มีคาเฟอีนเช่นเดียวกัน กาแฟมีคาเฟอีนประมาณ 95 มิลลิกรัม ต่อถ้วยหนึ่ง (240 มิลลิลิตร) ชามีคาเฟอีนประมาณ 20-60 มิลลิกรัม ต่อถ้วยหนึ่ง (240 มิลลิลิตร) โคล่ามีคาเฟอีนประมาณ 20-45 มิลลิกรัม ต่อกระป๋องหนึ่ง (355 มิลลิลิตร) และปริมาณคาเฟอีนในช็อคโกแลตแท่งขนาด 28 กรัม อาจมีประมาณ 5-35 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความเข้มของโกโก้
ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีควรจำกัดการทานคาเฟอีนไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งประมาณเท่ากับ 4 ถ้วยของกาแฟชง (ขนาดประมาณ 240 มิลลิลิตรต่อถ้วย) เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่นการนอนไม่หลับ และหัวใจเต้นเร็ว สำหรับหญิงตั้งครรภ์ แนะนำให้ทานคาเฟอีนไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน
คาเฟอีน ก็มีผลต่อการหลั่งอะดรีนาลีนซึ่งทำให้เรารู้สึกตื่นตัว และมีอาการใจสั่น กระวนกระวาย หงุดหงิด ในบางคนก็มีอาการสั่น จะเกิดจากได้รับคาเฟอีนมากกว่าระดับปกติ [1] และควรหลีกเลี่ยงการทานก่อนนอน เพื่อป้องกันการนอนไม่หลับ ควรระมัดระวังในผู้ที่มีความไวต่อคาเฟอีน หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เด็กและวัยรุ่น รวมถึงผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และผู้ที่มีอาการการนอนไม่หลับ คาเฟอีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น เจ็บหน้าอก นอนไม่หลับ และหัวใจเต้นเร็ว ควรจำกัดการทานคาเฟอีนไม่ให้เกินแนะนำ และสังเกตผลกระทบต่อร่างกายของตนเอง
Caffeine เป็นสารประกอบที่พบมากในกาแฟและชา มีประโยชน์ในการทำให้ตื่นตัว และเพิ่มความสดชื่น มีผลในการกระตุ้นระบบประสาท กระตุ้นการทำงานของสมอง และช่วยลดความง่วงได้ การทานในปริมาณเหมาะสม มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ตื่นตัวและกระตุ้นความจำ แต่ก็ควรระวัง ในบางกลุ่มเช่น ผู้มีปัญหาโรคหัวใจ โรคความดันสูง และการทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้นอนไม่หลับ คลื่นไส้ หัวใจเต้นเร็วได้