Fig ผลไม้แห่งสุขภาพและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

Fig

Fig หรือ มะเดื่อฝรั่ง เป็นหนึ่งในผลไม้โบราณ ที่มีความสำคัญในวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีการปลูก และทานกันมานานหลายพันปี ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และแถบเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยรสชาติที่หอมหวานอร่อย และเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้หลายคนชื่นชอบ

ประวัติและที่มาจากภูมิภาคตะวันออกกลางของ Fig

มะเดื่อฝรั่งถือกำเนิด มาจากภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นหนึ่งในผลไม้แรกๆ ที่มนุษย์ได้ทำการเพาะปลูก มีหลักฐานการปลูกมะเดื่อ ย้อนไปถึงประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตกาลในพื้นที่ ที่วันนี้คือตุรกี และแถบตะวันออกกลาง

มะเดื่อถูกยกย่อง ในหลายวัฒนธรรมโบราณ ไม่เพียงเพราะรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังเพราะความหมายทางศาสนา และวัฒนธรรม

Fig มีไฟเบอร์ช่วยโรคท้องผูก และประโยชน์อีกมากมาย

มะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์ ทั้งในรูปแบบของไฟเบอร์ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของโรคท้องผูก [1] และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ มะเดื่อฝรั่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน A, C และแคโรทีนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ จากอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยง ของการเกิดโรคเรื้อรัง รวมถึงมะเร็ง และโรคหัวใจ

Fig คุณค่าทางโภชนาการ และพิกัดแหล่งซื้อราคาถูก

nutritional value มะเดื่อฝรั่งปริมาณ 100 gram มี 74 kilocalories และมีสารอาหารปริมาณต่างๆ ดังนี้

  • Carbohydrates 19.2 grams
  • Protein 0.75 grams
  • Potassium 166 mg
  • Calcium 35 mg
  • Vitamin C 26.7 milligrams
  • Magnesium 17 mg
  • Phosphorus 14 mg
  • Choline 4.7 milligrams
  • Beta carotene 85 micrograms

ที่มา : มะเดื่อฝรั่ง คุณค่าทางโภชนาการ และข้อควรระวังในการบริโภค [2]

มะเดื่อฝรั่งมีรสชาติหวาน ชุ่มฉ่ำ อมเปรี้ยวน้อยๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น เนื้อในของลูกมะเดื่อ เมื่อสุกเต็มที่จะมีเนื้อนุ่ม และเต็มไปด้วยเมล็ดเล็กๆ ที่ให้เนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ พิกัดมะเดื่อฝรั่งสดประมาณ 6-8 ลูก น้ำหนัก 300 g. ถึง 310 g. มีราคาอยู่ที่ 225 บาท (ข้อมูลวันที่ 22/03/67 เวลา 13:20 น.) [3]

Fig ทานสดๆก็อร่อย นำมาปรุงได้หลากหลาย

วิธีการบริโภคมะเดื่อฝรั่ง สามารถทานสดๆ ได้โดยตรงหลังจากล้าง โดยไม่ต้องปอกเปลือก สามารถนำไปผสมในสลัดผลไม้ หรือสลัดผัก เพื่อเพิ่มความหวาน และเนื้อสัมผัส ที่น่าสนใจ

สามารถใช้ในการทำเบเกอรี่ เช่น เค้ก พาย หรือทาร์ต ใช้เป็นส่วนผสมในการทำเครื่องดื่ม นำไปทำเป็นแยม หรือซอส เพื่อใช้กับขนมปัง ชีส หรือเนื้อย่าง

Fig ข้อแนะนำที่ควรทำ และข้อควรระวังที่ควรทราบ

Fig เป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวาน และมีคุณค่าทางโภชนาการ นี่คือข้อแนะนำ สำหรับการเลือกซื้อ การเก็บรักษา และวิธีการทานมะเดื่อฝรั่ง ที่จะช่วยให้สามารถเพลิดเพลิน กับผลไม้อันมีคุณค่านี้ ได้อย่างเต็มที่

  • การเลือกซื้อมะเดื่อฝรั่ง เลือกซื้อมะเดื่อฝรั่งที่มีสีสดใส และผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยด่างหรือบุบ มะเดื่อฝรั่งควรมีความนุ่มเล็กน้อย เมื่อกดเบาๆ แสดงว่าสุกพอดี และพร้อมทาน หลีกเลี่ยงมะเดื่อฝรั่งมีกลิ่นเหม็น หรือมีรอยเน่าเสีย
  • การเก็บรักษา มะเดื่อฝรั่งที่ยังสด ควรเก็บในตู้เย็น และบริโภคภายในไม่กี่วัน เพราะสุกเร็ว และเสียได้ง่าย หากต้องการเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้น สามารถแช่แข็งมะเดื่อฝรั่งที่สุกเต็มที่ไว้ได้
  • ข้อควรระวัง มะเดื่อฝรั่งอบแห้ง มีน้ำตาลสูงมาก ดังนั้นควรบริโภค ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภค น้ำตาลสูงเกินไป สำหรับผู้ที่มีภาวะโรคเบาหวาน หรือกำลังควบคุมน้ำหนัก ควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้เนื่องจากมะเดื่อมีเส้นใยสูง การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือท้องเฟ้อได้

สรุป Fig หรือมะเดื่อฝรั่ง คุณค่าทางโภชนาการ

Fig

Fig เป็นผลไม้ที่มีความหลากหลาย ทั้งในรสชาติ และการใช้งาน มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น การเพิ่มเส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุ แต่ควรระมัดระวังในการบริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับบางคน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง

459