Star citizen เกมฟอร์มยักษ์ที่ให้ผู้เล่นสัมผัสกับคำว่า Open-World ทั้งในอวกาศและในดาวเคราะห์ต่างๆ ในเกมที่ไม่มีการจำกัดพื้นที่ให้ผู้เล่นไปสำรวจ ด้วยการระดมทุนหลักพันล้าน จึงทำให้เป็นเกมกราฟิกสวย และสเกลแผนที่ดาวที่กว้างใหญ่มาก บวกกับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่เข้าไปในเกมอย่างมากมาย และมีอะไรให้ทำหลากหลายมาก ซึ่งก็เป็นเกมที่มีความน่าสนใจอย่างมาก
ย้อนไปในปี 2011 ที่ทาง Chris Roberts ได้ประกาศระดมทุนหรือ Crowfunding [1] ในการสร้างเกมนี้ขึ้นมา โดยเป็นตัวเกมที่ได้รับทุนที่สูงมากๆ ซึ่งการรายงานจากหน้าเว็บหลักก็เผยจำนวนเงินทุนที่รวมได้กว่า 400 ล้านดอลล่า USA และในปี 2021 ที่เปิดรอบให้เข้าถึงเกมก่อนก็ได้ทุนก้อนหนึ่งจากผู้เล่นทั่วโลกที่ทำการซื้อ Access เข้าไปเล่นกว่า 3 ล้านราย โดยทำรายได้ประมาณ 350 ล้าน USA
ซื่อด้วยความกดดันและทุนที่มหาศาลนี้ตัวเกมจึงยังลงโฆษณาไป พร้อมกับพัฒนาไปเรื่อยๆ และออกการทดสอบเล่นช่วง Alpha มา โดยทางทีมพัฒนาบอกว่าตัวเกมยังไม่เสร็จ แต่ก็จะอัปเดตเกมออกมาให้เหล่า Tester เล่นใน Alpha อยู่เนื่องๆ
เกมสำรวจอวกาศที่ให้ผู้เล่นสามารถทำได้หลายอย่างเลย ทั้งการเดินเล่นในเมืองสวยๆ ที่มีทั้งยานพาหนะพาไปชมวิวได้ โดยเมืองก็มีตามดาวต่างๆ มากมาย แถมยังมีการสำรวจจากการขึ้นยานไปโดยการบังคับยานได้เอง แถมมีระบบวาร์ปยานได้ด้วย ให้ความรู้สึกว่าเป็นนักท่องอวกาศของจริงๆ
หนึ่งอย่างเลยที่ทำให้สองเกมนี้เหมือนกันก็คือโลก MMO ที่เป็น Open-world เหมือนกันโดยจะมีความแตกต่างกันเรื่องภาพกราฟิก และการท่องอวกาศด้วยการขับยานอวกาศเหมือนๆ กัน แต่ด้วยสเกลแมพที่ใหญ่กว่า เพราะโลกของ no man sky จะสุ่มแผนที่ดาวจาก AI ที่จะสุ่มทุกครั้งนั่นเอง ไปดูกันอีกว่าเกมฟอร์มยักษ์นี้มีอะไรที่มากกว่าอีกเกมบ้าง
บทความนี้เป็นการพูดถึงเกมที่ให้ผู้เล่นท่องอวกาศที่ให้เราไปสำรวจได้ทั้งภารกิจเกมทรัพยากร เก็บกู้ของสูญหาย บู้ล้างผลาญ โดยเป็นเกมท่องอวกาศที่ให้เราสามารถขับยานไปในอวกาศกว้างใหญ่ได้ แถมเป็นเกมฟอร์มยักษ์ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทุนสร้างเกมมากกว่า สามพันล้านบาทเลย