Taro หรือ เผือก เป็นพืชที่มีความสำคัญ ทั้งในด้านโภชนาการ และวัฒนธรรม มีความหลากหลายทางพันธุกรรม และได้รับการนำมาใช้ ในหลายประเทศทั่วโลก เผือกไม่เพียงแต่ใช้เป็นอาหารหลัก ในหลายวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังใช้ในพิธีกรรม และเป็นอาหารที่มีความสำคัญ ในการฉลองเทศกาลต่างๆ
เผือก มักปลูกในสภาพอากาศร้อนและชื้น โดยพบได้ทั่วไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, แปซิฟิก, และบางส่วนของแอฟริกา เผือกต้องปลูกในดินที่อุดมสมบูรณ์ มีการระบายน้ำที่ดี เพื่อรองรับการเจริญเติบโต ของหัวที่ใหญ่และแข็งแรง
การผลิตเผือกในปี 2021 มีปริมาณรวมทั่วโลกอยู่ที่ 12,396,248.5 ตัน โดยทวีป Africa มีส่วนร่วมถึง 77.30% ของผลผลิตนั้น ทวีป Asia มีส่วนร่วม 18.60%, ทวีป Oceania 3.40%, และทวีป America 0.70% ประเทศที่มีการผลิตเผือกมากที่สุดคือ Nigeria, Ghana, และ Ivory Coast [1]
เผือก ชื่อวิทยาศาสตร์ Colocasia esculenta เป็นพืชในวงศ์ Araceae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับพืชประเภทปาล์ม และพืชที่ให้ดอกเหมือนบัวหลวง เผือกให้หัวที่เป็นแหล่งสำคัญของแป้ง และมักจะจัดเป็นผัก ในการใช้งานทางอาหาร
แม้ว่าเผือกจะมีลักษณะการใช้งานและ เป็นพืชที่มีหัวใต้ดินคล้าย Sweet potato แต่มาจากตระกูลที่แตกต่างกัน และไม่ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกัน ในแง่ของวงศ์พืช หรือลักษณะทางพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ วิธีการปลูก และคุณสมบัติทางพฤกษศาสตร์ ของแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเช่นกัน
เผือก มีต้นกำเนิดในอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการปลูกครั้งแรก เป็นอาหารในภูมิภาคนี้ มีหลักฐานแสดงว่าเผือก ได้รับการใช้เป็นอาหาร ในวัฒนธรรมโบราณกว่า 3,000 ปี และได้แพร่กระจายไปยัง Oceania และหมู่เกาะ Pacific ผ่านการเดินทางของชนพื้นเมือง
เผือก เป็นแหล่งของวิตามิน E, วิตามิน C และแร่ธาตุ เช่น Potassium และมีไฟเบอร์สูง ช่วยในระบบการย่อยอาหาร และมีสารป้องกันโรคบางชนิด หัวเผือกยังมี Calorie ต่ำแต่ให้พลังงานสูง ทำให้เหมาะสำหรับอาหารควบคุมน้ำหนัก แหล่งข้อมูลที่ 1 ระบุว่า เผือกปริมาณ 100 กรัม มี Energy 112 kilocalories
ที่มา: เผือกสรรพคุณและประโยชน์ [2]
แหล่งข้อมูลที่ 2 ระบุว่า เผือกปริมาณ 132 กรัม มี Energy 187 kilocalories
ที่มา: เผือกประโยชน์ [3]
เผือก สามารถนำมาปรุงอาหาร ได้หลากหลายวิธี เช่น ต้ม, ทอด, นึ่ง หรือบดเป็นแป้ง เผือกนิยมใช้ทำเป็นขนม หรือส่วนผสมในอาหารคาว เช่น ข้าวต้มเผือก ข้าวอบเผือก และมักจะต้องปอกเปลือก และหั่นเป็นชิ้นก่อนนำไปใช้ เนื่องจากหัวเผือกดิบ อาจมีสารที่ทำให้ระคายเคือง
เผือก เป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีบทบาทสำคัญ ในวัฒนธรรมอาหารหลายประเทศ ด้วยความหลากหลายในการปรุง และคุณประโยชน์ที่มากมาย ทำให้เผือกเป็นอาหารที่มีความสำคัญ และเป็นที่นิยมทั่วโลก