กระเทียมมีสารอัลลิซิน กระเทียมเป็นพืชสมุนไพร ที่มีประวัติการใช้ยาวนาน ในการทำอาหาร และเป็นยา มีประโยชน์หลายประการ ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก หนึ่งในสาระสำคัญ ที่พบในกระเทียมคือ อัลลิซิน (Allicin) ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ในการให้ประโยชน์ทางสุขภาพ ที่หลากหลาย
ในประเทศไทย Garlic มีหลายพันธุ์ ที่นิยมปลูก และใช้ในอาหาร เช่น
กระเทียมสามารถหาซื้อได้ จากร้านค้า ตลาดสด ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้าเช่น Big C, Tesco Lotus และ Supermarket หลายแห่ง เช่น Makro ที่มีจำหน่ายกระเทียมสด ในรูปแบบปอกเปลือกจำหน่าย ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 105 บาท [1]
อัลลิซินเป็นสารประกอบเดียวกับ หัวหอมมีสารอัลลิซิน เกิดขึ้นเมื่อกระเทียมถูกบด หรือสับ สารนี้ไม่ได้มีอยู่ในกระเทียมสด ในรูปแบบธรรมชาติ แต่จะเกิดขึ้น จากการที่เอนไซม์อัลลิเนส (Alliinase) ทำปฏิกิริยา กับสารประกอบกำมะถัน ที่ชื่อว่าอัลลิอิน (Alliin) เมื่อกระเทียมถูกทำลายโครงสร้าง คุณสมบัติอัลลิซิน มีดังนี้
ลดไขมันในเลือด การศึกษาพบว่า การใช้กระเทียมในรูปแบบเสริมอาหาร ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา กระเทียมมีฤทธิ์ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งสามารถช่วยรักษา โรคติดเชื้อต่างๆ ลดความดันโลหิต การใช้กระเทียม ในปริมาณ 600-900 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดความดันโลหิตได้ [2]
เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด จากอัลลิซิน ควรบริโภคกระเทียมสด โดยการบด หรือสับให้ละเอียด ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้อัลลิซินเกิดขึ้น ก่อนการบริโภค นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กระเทียมสด ในอาหารต่างๆ เช่น สลัด ซุป และน้ำสลัด เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการ
การศึกษาที่ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากกระเทียม เพื่อการจัดการความดันโลหิต และคอเลสเตอรอล มักใช้ขนาด 600-900 มิลลิกรัม ของผงกระเทียมต่อวัน ซึ่งให้ปริมาณอัลลิซิน ประมาณ 3.6-5.4 มิลลิกรัม และการบริโภคกระเทียมสด หนึ่งถึงสองกลีบต่อวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์ ต่อสุขภาพ [3]
อัลลิซินเป็นสารประกอบสำคัญ ในกระเทียม ที่มีประโยชน์ ทางสุขภาพหลากหลาย การบริโภคกระเทียมสด ที่บดหรือสับก่อน เป็นวิธีที่ดี ในการได้รับอัลลิซิน นอกจากจะเพิ่มรสชาติในอาหารแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพในด้านต่างๆด้วย