ปาล์มบังสูรย์ เป็นไม้ในป่าเขาดิบชื้น และเป็นไม้ชั้นล่างใต้ต้นไม้ใหญ่ เป็นปาล์มที่มีลักษณะเด่น อยู่ที่ใบ ใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สวยงามเหมือนกับตัดแต่งขึ้นมา ในต่างประเทศเปรียบ ใบปาล์มนี้มีลักษณะ เป็นรูปเพชรตัด (Diamond Shape) หรือใบพาย (Paddle) มีพบมากในป่าบนเขาสูง ต่อแดนไทย-มาเลเซีย จัดอยู่ในสกุล Teysmannia
ปาล์มบังสูรย์ มีที่มาจาก อาจารย์ประชิด วามานนท์ ผู้รับหน้าที่จัดสวนและตกแต่งบริเวณพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส ในปี พ.ศ.2517 เห็นว่าปาล์มชนิดนี้ ใบมีรูปทรงเหมือน เครื่องสูง หรือเครื่องขัตติยราชประเพณี ซึ่งใช้บังแสงแดดในพิธีแห่ โดยเสด็จขบวนพระยุหยาตรา
“ต้นไม้หายาก พันธุ์ไทย” ที่เรียกว่า “บังสูรย์” ซึ่งแปลว่าบังแสงแดด จึงนำนามเครื่องสูงนี้ มาตั้งชื่อปาล์มชนิดนี้ว่า “ปาล์มบังสูรย์” เช่นเดียวกับ จันทร์หอม ที่เป็นพันธุ์ไม้มงคลชั้นสูงที่ใช้ในงานราชพิธีเช่นกัน ปาล์มสกุล Teysmannia มีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด โดยมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ดังนี้ [1]
คลิกเพื่ออ่าน จันทร์หอม
Teysmannia altifrons เป็นปาล์มบังสูรย์ที่พบในจังหวัดนราธิวาส ชนิดใบกว้างใหญ่ทรงข้าวหลามตัดสีเขียวทั้งบนใบและใต้ใบ ไม่มีลำต้นไม่แตกหน่อ เป็นปาล์มต้นเดี่ยว [2]
ก้านใบ: โผล่จากพื้นดิน ยาวสุดประมาณ 3 ฟุต ก้านและใบสีเขียว มีหนามเล็กสั้นเรียงเป็นระเบียบ
ใบ: เป็นสีเขียวสด รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ใบกว้างประมาณ 3 ฟุต ยาวประมาณ 6 ฟุต ตัวใบเป็นจับพับคล้ายผ้าอัดจีบ ละเอียดทอดยาว ไปตามแนวใบ ใบจะโผล่จากกอ ประมาณ 6-10 ใบต่อปี
ดอก: ออกเป็นช่อสั้นๆยาวประมาณหกนิ้วโค้งลงบิดเบี้ยวเล็กน้อย ดอกออกระหว่างก้านใบ ดอกเล็กๆ สีขาวครีม
เมล็ด: ภายในกลมเรียบแข็ง เปลือกบางสีน้ำตาลคล้ายเมล็ดเกาลัด
Grey teysmannia or Silver teysmannia เป็นปาล์มบังสูรย์เหมือนชนิดที่ 1 แต่ต่างกันที่ ใต้ใบมีสีเป็นสีเทาควันบุหรี่ หรือสีเงิน เมล็ดภายในกลมผิวไม่เรียบ แบบชนิดที่ 1 ชนิดนี้หายาก อาจพบได้บ้างที่ประเทศมาเลเซีย
เมล็ด: เหมือนผิวลูกกอล์ฟ
ปาล์มบังสูรย์ชนิดที่ 3 Trunked
ปาล์มบังสูรย์ชนิดที่ 4 Lanceolate teysmannia
ขยายพันธุ์โดยการ เพาะเมล็ดอย่างเดียว เนื่องจากปาล์มบังสูรย์ เป็นปาล์มต้นเดี่ยว ไม่มีกิ่งก้าน แขนง ไม่แตกหน่อ ลำต้นเลื้อยใต้ดิน เป็นปาล์มแบบสมบูรณ์เพศ [3]
ปาล์มบังสูรย์ ไม่ชอบแสงแดดจัด หากปลูกเลี้ยงไว้ในที่กลางแจ้ง จะทำให้ใบไหม้ และตายได้ จึงควรปลูก ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใต้ชายคาบ้าน ที่มีแสงบ้าง หรือใต้ร่มเงาที่สร้างขึ้นมา แค่ให้มีแสงผ่านได้ 10 – 20 % (กรองแสง80%)
น้ำ: ควรให้น้ำสม่ำเสมอ รดน้อยแต่บ่อยครั้ง
ปุ๋ย: ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักปีละ 1 – 2 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 ให้คราวละน้อยๆ ตามแต่ควร จะช่วยทำให้ใบ มีสีเขียวเข้มขึ้น
สรุป รู้จัก ปาล์มบังสูรย์ ทั้ง 4 ชนิด พร้อมวิธีการปลูกและดูแลรักษาที่ได้บอกไว้ในตอนต้น แต่ปาล์มบังสูรย์อาจจะมีปัญหา ที่เกิดจากเชื้อราบ้าง ทำให้ใบเป็นด่างจุดสนิมสีน้ำตาล ควรฉีดพ่นยาป้องกันเชื้อราบางครั้ง รวมถึงยังมีหนอน และแมลงบางชนิด จะกัดกินใบขณะใบยังอ่อน ทำให้ใบเสียได้ ควรระวังไว้ในเบื้องต้น