กะหล่ำปลีม่วง (red cabbage) เป็นผักที่มีลักษณะเด่น คือสีม่วงสดใส และรสชาติกรุบกรอบ ที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ปรุงอาหาร ทั้งในสลัด ซุป หรืออาหารประเภทผัดต่างๆ กะหล่ำปลีม่วงไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ ต่อสุขภาพมากมาย
กะหล่ำปลีม่วงหรือ Red cabbage ในปริมาณต่อ 100 กรัม ให้พลังงาน 31 แคลอรี (kcal) และปริมาณสารอาหารต่างๆ ดังนี้
ที่มา: Cabbage, red, raw [1]
การปลูกกะหล่ำปลีม่วง ไม่ยากมากนัก แต่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ เพื่อให้ได้ผลผลิต ที่มีคุณภาพดี
แอนโทไซยานิน (Anthocyanins) เป็นสารประกอบ Flavonoids ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นกลุ่มของสาร phytochemicals ที่ทำให้เกิดสีม่วง สีแดง สีฟ้า และสีดำในผักและผลไม้ แอนโทไซยานินมีคุณสมบัติ ในการต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ในหลายด้าน
นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการบางคน แนะนำว่าการบริโภคแอนโทไซยานิน ประมาณ 12.5 กรัมต่อวัน อาจเป็นปริมาณที่เหมาะสม [2]
เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแอนโทไซยานิน ในกะหล่ำปลีม่วงอย่างเต็มที่ ควรบริโภคกะหล่ำปลีม่วง ในรูปแบบ ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก มากเกินไป หรือทานเป็น ผักสด เช่น
กะหล่ำปลีม่วงเป็นผัก ที่ไม่เพียงแต่มีสีสันสดใสดึงดูดตา แต่ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายจากสารแอนโทไซยานิน นำมาประกอบอาหารทำได้หลากหลาย การบริโภคกะหล่ำปลีม่วงเป็นประจำ จึงเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการดูแลสุขภาพ และเพิ่มความหลากหลาย ให้กับเมนูอาหารประจำวัน