กีฬา MMA คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

กีฬา MMA คืออะไร

กีฬา MMA คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม ไปทั่วโลก MMA หรือชื่อเต็มว่า Mixed Martial Arts เป็นกีฬาที่ผสมผสานศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนง ทั้งมวยไทย ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ และยิวยิตสู ซึ่งกีฬาชนิดนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยม ในช่วงปี ค.ศ. 1990 

  • จุดเริ่มต้น ของกีฬา MMA
  • ลักษณะของ นักกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ดี
  • ศิลปะการต่อสู้แบบผสม กับมวยไทยแตกต่างกันอย่างไร?

จุดเริ่มต้นของกีฬา MMA

MMA หรือศิลปะการต่อสู้แบบผสม เป็นกีฬาที่รวมเอาทักษะการต่อสู้ จากหลายแขนงมาไว้ด้วยกัน เช่น มวยปล้ำ มวยสากล มวยไทย คาราเต้ แซมโบ และยูโด โดยมีการถ่ายทอดสด ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ผ่านทางทีวีครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1993 ในรายการ Ultimate Fighting Championship 

ซึ่งในช่วงเวลานั้นยังเป็นกีฬา ที่ไม่มีกฎกติกาชัดเจน จนในภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนกฎกติกา ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เช่น มีการแข่งขันตามน้ำหนัก ใส่ถุงมือนวม ใส่ฟันยาง และมีการพักยก (15 ธันวาคม 2024) [1]

กฎกติกาการแข่งขันกีฬา Mixed Martial Arts

กฎกติกาพื้นฐาน ของศิลปะการต่อสู้แบบผสม คือ ห้ามใช้ศอกกระแทกคู่ต่อสู้ ในบางกรณี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเวทีการแข่งขัน ห้ามโจมตีในจุดที่เปราะบาง เช่น บริเวณขาหนีบ ดวงตา หรือคอ เป็นต้น และห้ามดึงผม กัด หรือโจมตี ที่ถือว่าเป็นการโกง ยกตัวอย่างเช่น การหยิก หรือข่วนคู่ต่อสู้ 

ส่วนการตัดสินผลแพ้ – ชนะ ของกีฬาชนิดนี้ จะดูจากการหยุดต่อสู้ โดยแพทย์ การน็อคเอาต์ การที่คู่ต่อสู้ยอมแพ้ และผลการตัดสินจากกรรมการ (25 กรกฎาคม 2024) [2]

นักกีฬา MMA ควรมีลักษณะแบบไหน?

  • มีความแข็งแรง และความฟิตสูง เพื่อรองรับการต่อสู้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตี การทุ่ม หรือการจับล็อก
  • มีความยืดหยุ่น และความคล่องตัว เป็นสิ่งสำคัญมากในการเคลื่อนไหวระหว่างการต่อสู้
  • มีจิตใจที่แข็งแกร่ง มั่นคง และจัดการกับความกดดัน ในขณะแข่งขันได้
  • มีทักษะการต่อสู้หลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นมวยปล้ำ ยูโด หรือมวยไทย เป็นต้น
  • มีความมุ่งมั่น และฝึกฝนอย่างหนัก เช่นเดียวกับการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูโด เทคนิคการต่อสู้ หรือ คาราเต้ ในโอลิมปิก

ศิลปะการต่อสู้แบบผสม แตกต่างจากมวยไทยอย่างไร?

กีฬา MMA คืออะไร

ศิลปะการต่อสู้แบบผสม และมวยไทย มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งในด้านทักษะ และรูปแบบการต่อสู้ มวยไทยจะเน้นการใช้ หมัด, ศอก, เข่า และเท้าในการโจมตี ซึ่งในปี พ.ศ. 2557 มวยไทย ได้กลายเป็นที่ยอมรับ ให้เป็นกีฬาแห่งประชาคมโลก อีกทั้งยังทางสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ 

ยังมีแผนที่จะผลักดัน มวยไทย ไปสู่กีฬาโอลิมปิกด้วย (13 พฤศจิกายน 2025) [3] ส่วน MMA เป็นศิลปะต่อสู้ ที่ผสมผสานศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลาย โดยนักสู้ MMA สามารถใช้เทคนิคหลากหลาย ทั้งการยืน และการต่อสู้บนพื้น เช่น การทุ่ม, การจับล็อก และการพยายามทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้

ชวนรู้จักกับนักสู้ชื่อดัง ในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม

นักสู้ชื่อดัง ในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสม คือ คอเนอร์ แอนโทนี แม็คเกรเกอร์ เป็นนักสู้ชาวไอริช ซึ่งเคยเป็นอดีตแชมป์ รุ่นเฟเธอร์เวท และไลท์เวท ของ Ultimate Fighting Championship (UFC) เป็นคนที่มีสไตล์การต่อสู้ที่ดุดัน และทักษะการพูดจาเชิงจิตวิทยา

ทักษะเฉพาะในการแข่งขันกีฬา MMA

  • ทักษะการใช้หมัดศอก, เข่า และเท้าในการโจมตี
  • ทักษะการจับล็อกจากมวยปล้ำ และยูโด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการควบคุมคู่ต่อสู้ เช่น การทุ่ม, การควบคุมร่างกาย และการป้องกันไม่ให้ถูกจับล็อก
  • ทักษะการป้องกัน เช่น การหลบหลีก, การบล็อกหมัด และการหลีกเลี่ยง การถูกทุ่ม หรือล็อก
  • ทักษะการควบคุมการหายใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการเหนื่อยล้า ในช่วงเวลาที่สำคัญ

บทส่งท้าย MMA คืออะไร

สรุป MMA คือ กีฬาที่ผสมผสานทักษะการต่อสู้ จากหลายแขนง โดยนักสู้ MMA จะต้องมีทักษะการโจมตี และการป้องกันในการยืน และการต่อสู้บนพื้น การตัดสินผลแพ้ – ชนะ ของกีฬาชนิดนี้จะมาจาก การน็อคเอาต์ หรือการจับล็อก ให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้

ศิลปะการต่อสู้แบบผสม อันตรายหรือไม่?

ศิลปะการต่อสู้แบบผสม มีความเสี่ยงบาดเจ็บจากการปะทะ ที่รุนแรง เช่น กระดูกหัก, บาดเจ็บที่สมอง หรือการฉีกขาด ของเนื้อเยื่อร่างกาย แต่ถึงอย่างกีฬาชนิดนี้ ก็มีการควบคุมความปลอดภัย ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงมีการตรวจสอบสุขภาพ ของนักกีฬา ก่อนเริ่มการแข่งขันเสมอ

ศิลปะการต่อสู้แบบผสมเป็นกีฬาที่เหมาะกับใคร?

ศิลปะการต่อสู้แบบผสมเป็นกีฬา ที่เหมาะกับผู้ที่มีความแข็งแรงทางร่างกาย และจิตใจ รวมถึงผู้ที่ความคล่องตัว และมีความยืดหยุ่น ในการเคลื่อนไหว สามารถเริ่มฝึกฝนได้ตั้งแต่อายุ 6 – 8 ปีขึ้นไป โดยเริ่มจากการฝึกทักษะขั้นพื้นฐาน เช่น การใช้หมัด เข่า ศอก และเท้า เป็นต้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง